หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากับ 3 นักแสดง ที่รับบทเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในละครหลายๆเรื่อง ฝีมือตีบทแตก แสดงอารมณ์คมคายคล้ายตำรวจจริง จนทำให้ประชาชนจดจำว่า พวกเขา คือ ดาราประจำบทตำรวจ แต่ใครเล่าจะรู้ว่า พวกเขาเหล่านี้ คือ ตำรวจแท้ๆ ที่มารับบทตำรวจในละคร

    โดยตำรวจทั้ง 3 ท่านนี้ มีงานหลัก คือ ดูแลประชาชน ส่วนงานอดิเรก คือ เล่นละคร… 

    คนแรก คือ พ.ต.อ.จตุรวิทย์ คชน่วม ผกก.9 กองบังคับการตำรวจน้ำ (ผู้กำกับเทน) วัย 43 ปี

บทสัมภาษณ์ 

    ครั้งหนึ่ง พ.ต.อ.จตุรวิทย์ ได้เล่าอย่างติดตลกให้ทีมข่าวฟังว่า “หลายคนไม่รู้ว่าผมเป็นตำรวจจริงๆ เขายังคิดว่าผมเป็นตำรวจในละคร เพราะงานอดิเรกผมยังรับเล่นละครบ้าง”

    “ต้องยอมรับเรื่องภาพลักษณ์ของผมเองที่ประชาชนส่วนใหญ่คิดว่า เป็นดารามากกว่าตำรวจ พอแต่งชุดเครื่องแบบตำรวจไปทำงานจริงๆ เขาก็คิดว่ามาถ่ายละคร ทั้งที่เราไปทำงานตามปกติ นั่นเพราะเขาเห็นเราในทีวีมาตลอด” พ.ต.อ.จตุรวิทย์ กล่าว

    “สำหรับอาชีพตำรวจ เป็นอาชีพในชีวิตจริงที่รักมากๆ ถ้าให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เลือกเป็นตำรวจอยู่แล้ว เพราะเป็นสิ่งที่ใฝ่ฝันตั้งใจแต่เด็ก ส่วนดารานักแสดงถือเป็นอาชีพเสริม เรามีโอกาสได้ทำตั้งแต่เป็นตำรวจใหม่ๆ แมวมองเห็นหน่วยก้านดี พอลองไปทำปรากฏว่าทำออกมาดีด้วย ทำให้มีรายได้เสริมที่ถูกกฎหมาย ไม่เบียดเบียนประชาชน และไม่เบียดเบียนเวลาราชการ” พ.ต.อ.จตุรวิทย์ กล่าว

    ทั้งนี้ เคยมีผลงานละครเรื่องแรก เจ้าชายหัวใจเกินร้อย ทางช่อง 7, นางฟ้าไร้ปีก, ขอพลิกฟ้าตามล่าเธอ, ใต้ร่มเงารัก, เล่ห์ร้ายอุบายรัก, เหลี่ยมเพชรกะรัต, เส้นไหมกับนายหิน, ไอ้คุณผี, ครีบนี้หัวใจมีเธอ, บุษบาหน้าตลาด และอื่นๆ อีก อีกทั้งยังมีผลงานภาพยนตร์ คือ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 ยุทธนาวี (2554) รับบทเป็น ไชยกะยอสู

คนที่สอง คือ ดาบตำรวจ สิริเวศ เจริญชนม์ (ดาบเวศ) วัย 44 ปี

บทสัมภาษณ์ 

    สำหรับ ดาบตำรวจ สิริเวช เจริญชนม์ เป็นชาวสุราษฎ์ธานี มาจากครอบครัวฐานะยากจน มีความใฝ่ฝันอยากเป็นตำรวจ

    ปี 2538 เมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่นหนุ่มแน่น เขาได้ยินข่าวการเปิดสอบคัดเลือกตำรวจทั่วประเทศ จำนวน 300 อัตรา เขาจึงตัดสินใจสมัครสอบ และสามารถสอบเข้ามาเป็นตำนวจได้อย่างที่ฝันไว้

    ถูกเรียกตัวเข้ารับราชการตำรวจที่กรุงเทพฯ ในคำสั่งบรรจุแต่งตั้งตำแหน่งยศพลตำรวจ ที่สถานีตำรวจดับเพลิงลาดยาว แผนกช่างซ่อมบำรุง

    โดยที่มาในการเข้าสู่วงการบันเทิง ดาบตำรวจ สิริเวศ ได้เล่าว่า “เมื่อครั้งที่ผมรับราชการตำแหน่งพลตำรวจ ที่สถานีตำรวจดับเพลิงลาดยาว มีอยู่วันหนึ่งในช่วงรอเหตุ ได้มีกองถ่ายละครจากค่ายกันตนา ได้มาติดต่อให้ตำรวจไปเล่นละครเป็นตัวประกอบเรื่องสารวัตรเถื่อน ผมก็เลยชอบงานแสดงตั้งแต่นั้นมา”

    “เงินเดือนในการรับราชการตำรวจกับภาระที่ต้องดูแลลูกเมียไม่เพียงพอ จึงต้องหาอาชีพเสริม นอกจากการรับบทตำรวจ ผมทำงานสุจริตมาแล้วหลายอย่าง ตั้งแต่การเฝ้าธนาคาร ร้านทอง จนถึง โชเฟอร์แท็กซี่ ผมสู้ชีวิตมาตลอด”

คนที่สาม คือ จ.ส.อ.ปัญญากร ศรมยุรา (จ่าป๊อด) วัย 54 ปี

บทสัมภาษณ์

    จ.ส.อ.ปัญญากร ศรมยุรา (ป๊อด) สังกัดกองพลทหารม้าที่ 2 รับแสดงละครมามากว่า 400 เรื่อง โดย จ.ส.อ.ปัญญากร เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า “ผมเริ่มต้นการแสดงจากเพื่อนคนหนึ่งชักชวน ซึ่งเราเห็นว่า อาชีพนี้มีค่าตอบแทนที่ดี ไม่ต้องลงทุนใดๆ จึงตัดสินใจรับงานตั้งแต่บัดนั้น ประกอบกับเงินเดือนข้าราชการไม่พอใช้จ่ายภายในครอบครัว จึงหาเวลาว่างรับงานการแสดง ซึ่งแรกๆ ไม่มีคนรู้จัก จึงทำให้งานน้อย”

    “ต่อมาภายหลัง ผมเลยกระตือรือร้นมากขึ้น สอบถามคนที่เคยรับบทสายตำรวจ ถามคนที่รับบทคิวบู๊ต่างๆ จากนั้น ก็ไปเรียนคิวบู๊, ฟันดาบ, ขี่ม้าเพิ่มเติม เพื่อพัฒนาศักยภาพให้เล่นได้หลายบทบาทมากข้ึน” จ.ส.อ.ปัญญากร บอกเล่า.

ข้อมูลและภาพจาก thairath