ประวัติ "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" ประธานองคมนตรี รัฐบุรุษ และอดีตนายกฯ 3 สมัยของไทย!

LIEKR:

เปิดประวัติ "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" ประธานองคมนตรี รัฐบุรุษ และอดีตนายกฯ 3 สมัยของไทย! พร้อมเผยที่มาของฉายา "ป๋าเปรม"

        จากการถึงแก่อสัญกรรมของ "พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์" ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ซึ่งจากไปอย่างสงบเมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 พฤษภาคม 2562 สิริอายุ 98 ปี นั้น  

        สำหรับ พล.อ. เปรม เกิดที่ ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา เป็นบุตรชายคนรองสุดท้อง จากจำนวน 8 คน ของรองอำมาตย์โทหลวงวินิจทัณฑกรรม (บึ้ง ติณสูลานนท์) ต้นตระกูลติณสูลานนท์ กับนางวินิจทัณฑกรรม (ออด ติณสูลานนท์) 

        การศึกษา และ ราชการทหาร

 

Sponsored Ad

 

        พล.อ. เปรม สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา สงขลา ในหมายเลขประจำตัว 167 และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เมื่อปี 2480 จากนั้นเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเทคนิคทหารบก รุ่นที่ 5 สังกัดเหล่าทหารม้า  ภายหลังสงคราม  พล.อ. เปรม รับราชการอยู่ที่ จ.อุตรดิตถ์ และได้รับทุนไปศึกษาต่อที่โรงเรียนยานเกราะของกองทัพบกสหรัฐ ที่ฟอร์ตน็อกซ์ รัฐเคนทักกี้ แล้วกลับมารับตำแหน่งรองผู้บัญชาการโรงเรียนยานเกราะ ต่อมามีการจัดตั้งโรงเรียนทหารม้ายานเกราะ ศูนย์การทหารม้า ที่ จ.สระบุรี

 

Sponsored Ad

 


ภาพจาก วิกิพีเดีย

ภาพจาก ทวิตเตอร์ @nongblackhead

        เมื่อจบการศึกษาในปี 2484 พล.อ. เปรม ได้เข้าร่วมรบในสงครามอินโดจีนระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา จากนั้นเข้าสังกัดกองทัพพายัพ ภายใต้การบังคับบัญชาของหลวงเสรีเริงฤทธิ์ (จรูญ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์) ทำการรบในสงครามโลกครั้งที่สอง ระหว่างปี 2485 - 2488 ที่เชียงตุง


 

Sponsored Ad

 

ภาพจาก finearts.go.th


ภาพจาก finearts.go.th

        พล.อ. เปรม ได้รับพระบรมราชโองการเป็นผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า ยศพลตรี เมื่อปี 2511 ในช่วงระยะเวลา 5 ปี  ย้ายไปเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 2 ดูแลพื้นที่ภาคอีสาน ในปี 2516 และเลื่อนเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 ดูแลพื้นที่ภาคอีสานเมื่อปี 2517 ได้เลื่อนยศเป็นพลเอก ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เมื่อปี 2520 และเลื่อนเป็นผู้บัญชาการทหารบก ในปี 2521

        นอกจากยศ พลเอก แล้ว พลเอกเปรม ยังถือว่าเป็นหนึ่งในบุคคล ที่ในปัจจุบันที่มิใช่พระบรมวงศานุวงศ์ ที่ได้รับยศ พลเรือเอก ของกองทัพเรือ และ พลอากาศเอก ของกองทัพอากาศ ด้วย จากการพระราชทานโปรดเกล้าฯ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2529 ในระหว่างที่ พลเอกเปรม ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่             

 

Sponsored Ad

 


ภาพจาก finearts.go.th

        ตำแหน่งทางการเมือง

        ในปี 2502 ในสมัยจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ พล.อ. เปรม ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ จากนั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ และวุฒิสมาชิก ช่วงปี 2511 - 2516 ในสมัยจอมพลถนอม กิตติขจร

        พล.อ. เปรม รับตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกในรัฐบาล พล.อ. เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่องในรัฐบาลนั้น ในช่วงปลายรัฐบาลพลเอกเกรียงศักดิ์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ควบคู่กับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก

 

Sponsored Ad

 

ภาพจาก finearts.go.th

        พล.อ.เปรม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต่อจาก พล.อ. เกรียงศักดิ์ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2523 เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 16 ของไทย ซึ่งตลอดระยะเวลาของพลเอกเปรมในการบริหารประเทศ ได้มีผลงานสำคัญมากมาย เช่น การปรับปรุงประมวลกฎหมายรัษฎากรและกฎหมายสรรพสินค้า เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่สังคม การสร้างงานตามโครงการสร้างงานในชนบท (กสช.) การจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐบาล และเอกชน (กรอ.) เพื่อส่งเสริมบทบาททางการค้าและการลงทุนของภาคเอกชนภายในประเทศ การดำเนินการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในประเทศไทยอย่างได้ผล โดยนำนโยบายการใช้ "การเมืองนำการทหาร" ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 เป็นผลให้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยอ่อนกำลังลงและสลายตัวไปในที่สุด

 

Sponsored Ad

 

        พล.อ. เปรม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 3 สมัย ประกอบด้วยช่วงปี 2523 - 2526, 2526 - 2529 และ 2529 - 2531 


ภาพจาก STRINGER / THAI TV POOL / AFP


ภาพจาก HANDOUT / THAI ROYAL HOUSEHOLD BUREAU / AFP

Sponsored Ad

        หลังพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นองคมนตรี ในวันที่ 23 สิงหาคม 2531 จากนั้นในวันที่ 29 สิงหาคม 2531 ได้รับโปรดเกล้าฯ ยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษ และในวันที่ 4 สิงหาคม 2541 มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้เป็นประธานองคมนตรี และในวันที่ 2 ธันวาคม 2559 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้เป็นประธานองคมนตรี จึงนับว่า พล.อ.เปรม เป็นประธานองคมนตรี 2 รัชกาล


ภาพจาก ROSLAN RAHMAN / AFP

        สาเหตุที่ทุกคนเรียก พล.อ. เปรมว่า "ป๋า"

        พล.อ. เปรม ได้รับพระบรมราชโองการเป็นผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า ยศพลตรี เมื่อปี 2511 ในช่วงระยะเวลา 5 ปี ที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้านี้ ท่านมักเรียกแทนตัวเองต่อผู้ที่อาวุโสน้อยกว่าว่า "ป๋า" และเรียกผู้ที่อาวุโสน้อยกว่าอย่างเอ็นดูและเป็นกันเองว่า "ลูก" จนเป็นที่มาของคำว่าป๋า หรือ ป๋าเปรม และคนสนิทของท่านมักถูกเรียกว่า ลูกป๋า และเรียกติดปากกันมาจนถึงปัจจุบัน

        สำหรับ พล.อ. เปรม บุคลิกส่วนตัวเป็นคนพูดน้อย ในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย จะให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนน้อยมาก จนถูกหนังสือพิมพ์ในขณะนั้นเรียกขานว่า เตมีย์ใบ้ 

ภาพจาก LILLIAN SUWANRUMPHA / AFP

ข้อมูลและภาพจาก kapook

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ