อีกมุมหนึ่งของ “เชอรี่ สามโคก” ที่หลายคนยังไม่เคยรู้และที่มาฉายา “สามโคก” !

LIEKR:

อีกมุมหนึ่งของ “เชอรี่ สามโคก” ที่หลายคนยังไม่เคยรู้และที่มาฉายา “สามโคก” !

    อีกด้านหนึ่งที่หลายคนยังไม่รู้สำหรับ “เชอรี่ ลฎาภา รัชตะอมรโชติ หรือ เชอรี่ สามโคก” ดาราสาว เ ซ็ ก ซี่ ขวัญใจหนุ่มๆ ที่เบื้องหลังไม่ได้สวยหรูอย่างที่ใครคิด ซึ่งกว่าเธอจะผ่านมันมาได้ไม่ง่ายเลย

    เฟซบุ๊กชื่อว่า Baipat Nopnom ได้โพสต์ข้อมูลอีกด้านของสาว “เชอรี่ สามโคก” ทั้งประวัติการศึกษาและที่มาของฉายาสามโคก โดยมีข้อความว่า...

 

 

    ‘เชอรี่ - ลฎาภา รัชตะอมรโชติ’ ได้รับโอกาสจาก ‘หม่ำ จ๊กมก’ ให้ขึ้นบนเวที ‘หม่ำ On Stage’ ในฉากเสี่ยงตาย แล้วมีบทที่ต้องแกล้งทะเลาะกันระหว่างหม่ำกับมด (ภรรยาหม่ำ) ว่าเชอเป็นใคร เชอไหน หม่ำบอก… ก็เชอรี่สามโคกไง บ้านอยู่ปทุม นั่นคือจุดเริ่มต้นที่มาของฉายา ‘เชอรี่สามโคก’

    ทั้งที่จริง เธอไม่ได้อยู่สามโคกไม่ได้อยู่ปทุม เธอเป็นคนนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม

 

 

    ที่นครปฐม ช่วงที่ดีที่สุดของเธอคือช่วงที่เชอเป็นสาวคณะอักษรศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ (ตะวันออกกลาง) มหาวิทยาลัยศิลปากร เชอเป็นเด็กเรียนดี เคยได้ทุนไปเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศอิหร่าน

    หลังจากเรียนจบ ชีวิตก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อมีภาพโป๊เปลือยของเธอระดับ hardcore แพร่เต็มอินเทอร์เน็ตซึ่งถูกส่งต่อนับครั้งไม่ถ้วน ในยุคที่ยังไม่มีโซเชียลมีเดียมีคนปริ้นรูปและไรท์แผ่น CD ที่มีทั้งภาพและคลิปวิดิโอของเธอส่งมาให้แม่ดูถึงบ้าน เพราะอยากให้แม่ “ดูสิ่งที่ลูกทำ” ช่วงนั้นเธอขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง จมอยู่กับความผิดหวัง เสียใจ จิตตกเกือบสองเดือน มันไม่มีพลังพอที่จะลุกขึ้นไปทำอะไร เอาแค่ก้าวเท้าออกไปแค่เซเว่นหน้าปากซอยยังเป็นเรื่องยาก

 

 

    ช่วงที่จมอยู่กับตัวเองได้อ่านหนังสือธรรมะเยอะขึ้น เธอเริ่มทำความเข้าใจกับสิ่งที่เผชิญอยู่ เยียวยาตัวเองผ่านการเขียน และเริ่มเขียนมันออกเป็นธรรมะง่ายๆ และลองส่งไปให้หนังสือฉบับหนึ่งพิจารณา ปรากฏว่าเธอได้เขียนคอลัมน์ประจำโดยใช้ชื่อจริงนามสกุลจริง แต่ในเวลาต่อมาพอหนังสือเล่มนั้นรู้ว่าผู้เขียนคือใครก็สั่งถอดคอลัมน์ออกทันที ด้วยเหตุผลว่าไม่เหมาะสม

    เคยมีงานแสดงโฆษณาชิ้นหนึ่ง โฆษณาชิ้นนั้นถูกพูดถึงไม่ใช่เพราะตัวแคมเปญหรือเนื้อหาของโฆษณา กลับกลายเป็นว่ามันดังเพราะดันมีคนจำได้จากกรณีรูปหลุด และโดนหนักสุดก็ตอนแฟนละครแอนตี้ในฐานะดารารับเชิญในซิตคอมบางรักซอย 9

 

 

    แต่ถึงจะเผชิญกับสถานการณ์หักหนาแค่ไหน เธอก็ยังรักการแสดงเป็นชีวิตจิตใจ บ่อยครั้งที่แอบไปเล่นหนังธีสิสปริญญาโทช่วยนักศึกษา เป็นหนังที่ไม่ได้ตังค์แต่มันให้พลังเธอ คนดูเพียงสิบยี่สิบไม่ใช่ประเด็น แต่ถูกเห็นศักยภาพนั่นต่างหากที่สำคัญ คำชมแม้เพียงเล็กน้อย แต่มากมายในความรู้สึก เธอมีโอกาสได้ไปเล่นหนังเมืองนอกหลายเรื่อง อย่างหนังส่งประกวดฝรั่งเศส เขาเลือกโดยไม่สนว่าเธอเป็นใคร สนใจแค่ทักษะและฝีมือ ถ้าเป็นที่ไทย ต่อให้เต็มที่กับความสามารถแค่ไหน แต่สุดท้าย “บางคนก็มักจะกดเลื่อนหนังผ่านๆ ไปเพื่อดูว่าจะมี นม โผล่มาตอนไหนบ้างอยู่ดี”

 

 

    เธอเคยประกาศแขวนเต้า พอแล้วงานแนวอีโรติก มุ่งสู่งานที่จะโชว์ทักษะทางการแสดง แต่งานที่เข้ามาก็มักจะไม่พ้นประเภทขายความ เ ซ็ ก ซี่ พอมีภาพจำแค่นี้มันก็ตีวงแคบของงานลงไปอีก

    และทุกครั้งที่มีผลงานใหม่ๆ ออกมา ภาพในอดีตก็จะกลับมาวนเวียนในชีวิตซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็น ‘Digital Footprint’ เป็นรอยเท้าในโลกดิจิทัลที่เธอสลัดไม่หลุด อดีตยังไล่ล่าปัจจุบันและอนาคตไม่ยอมหยุด

 

 

    ทั้งในคอมเม้นต์และกล่องข้อความ บ่อยครั้งที่ต้องเจอผู้ชายเข้ามาแทะโลมหรือพูดจาไร้มารยาท ขอมีอะไรด้วย เพียงเพราะเห็นว่าเธอเล่นหนังแบบนั้นคงง่าย หรือไม่ก็คงหื่นตลอดเวลามีอารมณ์อย่างว่าแสตนบายตลอด

    เธอสารภาพเรื่องบนเตียงว่า ไม่ค่อยแฮ้ปปี้กับการมี เ ซ็ ก ส์ เอาจริงๆ เธอแทบไม่เคยเสร็จ!

    ส่วนเรื่องความรักหัวใจก็ไม่ง่าย อย่างน้อยคนที่จะเป็นแฟนกับเชอจะต้องเจอกับสายตาคนที่มองมาเวลาเดินควงกัน เคยมีคนหนึ่ง ขอเลิกกลางอากาศเพียงเพราะอยู่ๆ ก็เกิดยอมรับอดีตไม่ได้ขึ้นมาซ่ะอย่างงั้น ตอนนี้ หากใครคิดจะเข้ามาก็มีเงื่อนไขอยู่ว่าต้องรับอดีตเธอได้ ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เธอเปลี่ยนมันไม่ได้ ก็ต้องยอมรับมัน และอยู่กับมัน อยู่กับปัจจุบัน

    เมื่อก่อน, ตอนที่เธอยังไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ เธอมักจะเจอ “ความเหงาที่เข้ามาแอบอ้างว่าเป็นความรัก” อยู่คนเดียวไม่ได้เป็นต้องคว้าใครสักคนเข้ามาในชีวิต ซึ่งบางทีก็ไม่ใช่ สุดท้ายก็พังกันไป

    ตอนนี้, สเปคที่เธอต้องการขอเพียงแค่ใครสักคนที่ซัพพอร์ตภายในให้ความมั่นคงทางใจเธอได้ ใครคนนั้นต้องเป็นเหมือนต้นไม้ที่ให้ร่มเงาเวลาแดดร้อน และเป็นพาวเวอร์แบงก์เวลาเธอแบตหมด

    ปีที่แล้วเป็นช่วงดาวน์ของชีวิต อยู่ๆ ก็รู้สึกว่า การมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องที่เหนื่อยเกินไป เธอตัดสินใจเขียนจดหมายลาตาย จุดหมายคือสะพานพระราม 8 ขับรถไปจะถึงอยู่แล้ว อยู่ๆ แม่ก็โทรมาปรึกษาเรื่อง “จะทำคิ้วที่ร้านไหนดี” แล้วก็ส่งรูปขณะกำลังขมวดคิ้วและทำหน้าตลกๆ มาให้ดูแล้วขอให้เชอช่วยเลือกร้าน

    “จะตายอยู่แล้วยังมาขอให้ช่วยเลือกร้านอีก” เชอหัวเราะทั้งน้ำตา

    นาทีนั้นเชอตัดสินใจอยู่เพื่อแม่!

    แม่ที่ไม่เคยถามเธอด้วยคำว่า “ทำไม” หากแต่ถามว่า “โอเคมั้ย” ด้วยน้ำเสียงห่วงใย แล้วยังบอกต่อไป “ถ้าไม่ไหวก็กลับมา ลูกคนเดียวแม่เปย์ได้” น่าร้ากกก

    ทุกวันนี้ เชอมีแม่และมีแมวสองตัวชื่อ ‘เป๋าตุง’ กับ ‘ชาลี’ ที่คอยเป็นพาวเวอร์แบงก์ให้กับชีวิต มีธุรกิจบ้านพักที่นครปฐม และยังคงรับงานสาย เ ซ็ ก ซี่ ควบคู่ไปกับการทำงานเป็นนักแปลซับไตเติ้ลหนังซึ่งเป็นอีกงานที่ภูมิใจแต่ไม่ค่อยมีใครรับรู้

    ผมนัดเจอเชอที่สตาร์บัค เดอะสตรีท รัชดา เวลาบ่ายสอง เธอปรากฏตัวขึ้นพร้อมรอยยิ้มสดใส เธอบอกว่าเลิกเป็นคน “เสพติดคำปลอบใจ” มาได้สักพักแล้ว แค่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อยอมรับ เราก็สามารถพูดถึงมันได้แบบเปิดเผยโดยไม่จำเป็นต้องดราม่า

    ผมยิ้มให้เชอ แล้วกดปุ่นเครื่องบันทึกเสียง เริ่มคำถามแรก ...

    ปล. พบกับหนังสือรวมบทสัมภาษณ์บุคคลที่น่าสนใจในแวดวงต่างๆ เร็วๆ นี้

__________________

เรื่อง : ใบพัด นบน้อม

ภาพ : ธีราวุฒิ รอดปั้น

ข้อมูลและภาพจาก เฟซบุ๊ก Baipat Nopnom

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ