หนีความเบื่อมาทำเพจ! "คุณยายแกะกล่อง" บล็อกเกอร์รีวิวสินค้าหน้าใหม่วัย 91 ปี ที่อายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ!

LIEKR:

แซ่บลืมวัยจริงๆ สำหรับบล็อกเกอร์วัย 91 ปีคนนี้!

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปที่เกี่ยวข้องได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

       “วันนี้ ฉันจะมารีวิว ไม้เท้าคนแก่”

       สตรีสูงวัยในคลิปวิดีโอเริ่มต้นทักทายผู้ชมทางบ้าน ก่อนจะจัดแจงแนะนำไม้เท้าแบบต่างๆ ที่ลูกสาวซื้อให้ นับจนถึงวันนี้ มีคนดูคลิปคุณยายรีวิวของชิ้นแรกไปแล้วกว่า 2 แสนครั้งในเวลาไม่ถึงเดือน! 

       ได้รับความสนใจจากโลกออนไลน์อย่างมาก สำหรับแฟนเพจ "คุณยายแกะกล่อง" ซึ่งเป็นเพจรีวิวของใช้สำหรับผู้สูงอายุ จุดเด่นคือในทุกคลิปจะมีคุณยายท่าทางอารมณ์ดีรับหน้าที่เป็นคนรีวิวของ โดยมีคำพูดติดปากว่า "เวรี่กู๊ด" นอกจากนี้ คุณยายยังมีแฟชั่นเอาใจวัยรุ่น เช่น แฟชั่นสงกรานต์ แฟชั่นแนวฮิปสเตอร์ ซึ่งพบว่าได้รับความนิยมมากในหมู่วัยรุ่นสมัยใหม่ 

 

Sponsored Ad

 

       ทั้งนี้ นายปาณศานต์ พัฒนกุลชัย หรือ คุณปัน แอดมินเพจ คุณยายแกะกล่อง ได้มาเปิดใจถึงจุดเริ่มต้นในการทำเพจว่า มีอยู่ช่วงหนึ่ง "คุณยายปราณี" ป่วยแล้วมาบ่นให้ฟังว่า เบื่อๆ เลยชวนคุณยายมารีวิวสิ่งของ ในตอนแรกคุณยายเหมือนยังไม่ค่อยเข้าใจแต่พออธิบายให้ท่านฟังก็เข้าใจมากขึ้น และรู้สึกแฮปปี้ในสิ่งที่ทำ เหตุผลหลักๆ คืออยากให้คุณยายสนุก ส่วนไอเดียในการเลือกคอนเทนต์จะให้คุณยายเป็นคนเลือกว่าอยากเล่าเรื่องอะไร ส่วนเรื่องอื่นๆ ตนจะเป็นคนทำ

       ตอนเริ่มทำเพจ คุณยายเป็นคนขอให้ปันมาช่วยทำ หรือปันมาขอให้คุณยายทำคะ?

 

Sponsored Ad

 

       คุณยาย : ปันปันเขาคงเห็นว่าดิฉันรู้สึกเหงา ทั้งๆ ที่ดิฉันไม่เคยบ่นนะ เขาก็มาถามว่า ‘ทำ เพจกันมั้ย’ เพราะเห็นว่าดิฉันมีเรื่องราวมากมายที่อยากจะพูด ดิฉันรู้สึกว่าก็ดีเหมือนกันนะ เพราะเดี๋ยวนี้ดิฉันอ่านหนังสือไม่ได้ ถือเป็นความทุกข์อย่างยิ่ง เวลาว่างที่มีมันเยอะเกินไป ปกติดิฉันจะทำงานตลอด อยู่เฉยๆ ไม่ได้เลย ไม่ซ่อมเสื้อผ้า ก็ทำกับข้าว ออกไปช้อปปิ้ง และที่ชอบมากคืออ่านหนังสือ รับทำงานพิเศษแปลหนังสือบ้างนิดๆ หน่อยๆ ช่วงที่ตาไม่ดีดิฉันก็ต้องเลิกทำ

       ใครเป็นคนเริ่มต้นเสนอไอเดียรีวิวไม้เท้าคนแก่

 

Sponsored Ad

 

       คุณยาย : เป็นความตั้งใจที่จะพูดถึงของใช้เล็กๆ น้อยๆ ที่จำเป็นกับผู้สูงอายุ และของใช้ที่คนสมัยใหม่ไม่ค่อยรู้จัก เช่น เรื่องฝาชี ทำไมเราต้องใช้ฝาชี และฝาชีมีกี่แบบ สนุกมากนะ

ดิฉันเริ่มคิดจากตัวดิฉันเองว่าทำไมของเหล่านี้น่าใช้ รายการตอนแรกจึงเริ่มจากของใช้ที่จำเป็นที่สุดสำหรับคนแก่ ซึ่งก็คือไม้เท้า รวมไปถึงอาจจะมีเรื่องอื่นๆ ที่ดิฉันอยากพูดถึง เช่นตอนนี้กำลังสนใจการใช้ภาษาในสมัยนี้ ดิฉันรู้สึกว่าภาษาไทยยุคหลังมีสีสันมากเกินไป เช่น ฟุตบอลใช้ฟาดแข้ง ดิฉันคิดว่าเป็นคำที่แสดงความรุนแรง อาจจะเกิดทัศนคติที่ไม่ดี ทำให้คนเข้าใจว่าความรุนแรงเป็นของธรรมดา กลายเป็นเรื่องเคยชิน จะเห็นว่าคนไทยเดี๋ยวนี้อารมณ์เสียง่าย มีเรื่องนิดหน่อยก็ขึ้นต่อสู้กัน ดิฉันถึงบอกว่าเกี่ยวข้องกับภาษาและการสื่อสาร

 

Sponsored Ad

 

 

       จริงๆ แล้วเป็นเพจที่ทำขึ้นมาเพื่อสื่อสารกับใครหรือกลุ่มไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า

       คุณยาย : ดิฉันอยากให้เด็กรุ่นใหม่เห็นและเข้าใจว่าผู้สูงอายุคิดอะไรถึงทำอย่างนั้น ตอนเด็กๆ ดิฉันเองก็เคยรำคาญคนแก่และเคยนินทาในใจเหมือนกัน พอมาอายุมากเข้าเองก็ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง

       ย้อนกลับไปตอนที่คุณปันชวนทำเพจ ตอนนั้นงงมั้ย แล้วเข้าใจว่าเพจคืออะไร

 

Sponsored Ad

 

       คุณยาย : ดิฉันรู้จักนะ เพราะลูกหลานเล่นกันเรื่อยเลย ตัวเองเล่นไม่ได้เพราะมองไม่เห็น ดิฉันมองว่าคนสมัยนี้ใช้เทคโนโลยีมากเกินไป ถ้าใช้เพื่อความบันเทิงเวลาว่างจริงๆ ก็ไม่ว่า แต่ถ้าตลอดเวลาก็คงไม่ไหว ดิฉันไม่เห็นด้วย

อีกอย่างที่ไม่ชอบเพราะว่ามันทำให้คนอ่านหนังสือน้อยลง ใช้ภาษาสั้นๆ จนมันเพี้ยนทำให้เมื่อต้องเขียนจริงๆ แล้วจะมีปัญหา เมื่อก่อนเวลาอยู่ไกลกันต่างแดน ดิฉันจะจดหมายถึงบ้านทุกอาทิตย์ นั่นทำให้เราเรียนหนังสือเป็น รู้จักเรียบเรียงความคิด แต่คนสมัยนี้ใช้เทคโนโลยีเป็นส่วนใหญ่ นานๆ จะได้รับโปสการ์ดจากหลานที่อยู่ต่างประเทศ

 

Sponsored Ad

 

.

       คุณยายมีวิธีเข้าหาเด็กรุ่นใหม่ยังไงบ้าง

       คุณยาย: ดิฉันไม่เห็นว่าวัยเป็นเรื่องสำคัญนะ เด็กหรือผู้ใหญ่ก็เหมือนกันนะ เราอยากคุยเราก็คุย บางทีก็มากไป (หมายถึงเด็กหรือผู้ใหญ่คะ) ดิฉันนี่แหละ เขาอาจจะคิดอะไรบางอย่าง หรือมีเรื่องที่ไม่รู้ แล้วไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเราสามารถช่วยเขาได้ก็คงจะดี

Sponsored Ad

.

       แล้วคุณยายรู้จักคำวัยรุ่นๆ คำไหนบ้าง

       คุณยาย : บางอย่างฟังไม่รู้เรื่อง อย่างฟรุ้งฟริ้ง ไม่รู้แปลว่าอะไร และไม่ชอบเท่าไหร่ ที่ไม่ชอบเพราะว่าราชบัณฑิตไปใส่เป็นคำศัพท์ ดิฉันรู้ว่าภาษาสแลงเปลี่ยนได้ตลอด ดังนั้น คำพวกนี้ไม่ควรนำมาบรรจุรวมไว้พจนานุกรม

       พูดถึงเปิ๊ดสะก๊าดที่คนชอบมาคอมเมนต์ ทำให้นึกถึงคำที่ดิฉันใช้สมัยก่อน คนทำอะไรเปิ่นๆ เราเรียกว่า ‘เชย’ มาจากลุงเชยในเรื่อง สามเกลอ ของ ป. อินทรปาลิต สมัยนั้นเวลาขึ้นรถไฟหรือรถรางเขาจะคิดราคาตามเบาะที่นั่ง ชั้นหนึ่งจะมีเบาะ ดังนั้น เมื่อลุงเชยต้องขึ้นสามล้อแกก็เลยไม่ยอมนั่งที่เบาะ เลือกนั่งบนพื้นที่วางรองเท้าเพราะกลัวจะเสียสตางค์มาก หรืออย่างคำว่า ‘แห้ว’ มาจากเจ้าแห้วคนใช้ของเจ้าคุณปัจจนึกพินาศที่ชอบเก็บเหล้าที่เหลือของเจ้าคุณไว้กินเอง จนวันหนึ่งเจ้าคุณจับได้จึงโดนเอ็ดก็เลยอดกิน มีอีกๆ คำว่า ‘เต้ยเลย’ เดี๋ยวนี้เขาเรียกว่า ‘เจ๋ง’

 

       รู้ตัวไหมคะว่าคำว่า ‘เวรี่กู้ด’ ที่ใช้ในคลิปน่ารักมากเลย

       คุณยาย : จริงๆ ไม่ชอบให้ตัวเองพูดไทยคำอังกฤษคำหรอกนะ เวลาทำรายการจริงๆ เราไม่ได้ทำสคริปต์ไว้ล่วงหน้า บางทีมันก็หลุดออกมา ไปๆ มาๆ ปันปันเขาบอกว่าดี แต่เราก็พยายามใช้ให้น้อยที่สุด

       อะไรคือความงดงามของการเป็นคนแก่

       คุณยาย : ดิฉันสารภาพว่าดิฉันไม่ค่อยรู้สึกตัวว่าตัวเองแก่ขึ้น รู้สึกเหมือนเดิม ยังทำทุกอย่างเหมือนเดิม ตอนที่เริ่มเปลี่ยนจริงๆ คงเป็นตอนที่ตาเริ่มมองไม่ค่อยเห็น ดิฉันเลิกขับรถตอนอายุ 80 กว่าๆ แต่ก็ยังชอบเดินทางไปไหนมาไหนด้วยรถไฟฟ้าเพราะมันสะดวก ส่วนมากไปซื้อของที่เซ็นทรัลชิดลม ขึ้นรถไฟฟ้าเก่งเลยนะ แต่ลูกๆ ชอบห้าม

       เมื่อก่อนดิฉันเป็นคนชอบทำอะไรเร็ว เดี๋ยวนี้พอลุกขึ้นจากที่นั่งก็ต้องเข้าเกียร์หนึ่งก่อน ถ้าเดินทันทีจะซวน เรื่องเดินเหินดิฉันก็เป็นคนเดินเร็ว เมื่อก่อนต้องใส่ส้นสูง 3 นิ้วเป็นอย่างน้อย ใส่ตั้งแต่เรียนอยู่ต่างประเทศจนกลับมาที่ไทย รู้ไหมถ้าให้เดินแข่งกับลูกศิษย์ดิฉันรับรองว่าเดินชนะ แต่พออายุมากขึ้นส้นก็ต้องเตี้ยลง คนทั่วไปไม่ค่อยรู้ว่าผู้สูงอายุใส่รองเท้าราบๆ เลยไม่ได้นะ เพราะเขารู้สึกเหมือนเดินถอยหลังตลอดเวลา

       เรื่องร่างกายที่เปลี่ยนไปและความเจ็บไข้ เป็นเรื่องใหญ่แค่ไหนของคนวัยนี้คะ

       คุณยาย : ดิฉันต้องพยายามไม่เป็นทุกข์ มองโลกในแง่ดี เวลาเราเจ็บไข้ขึ้นมา คนที่เดือดร้อนมากที่สุดไม่ใช่ลูกหลาน แต่เป็นเรา เพราะฉะนั้น ต้องพยายามรักษาตัวไม่ให้เจ็บให้ไข้ วิธีง่ายๆ ก็คือ เชื่อร่างกาย เวลาเราหิวเราก็ทาน กินเมื่อร่างกายต้องการ อิ่มแล้วก็อิ่ม เดินเร็วไม่ได้ก็ต้องยอมเดินช้าๆ

       จะเรียกว่าความดีหรือเปล่านะ ดิฉันเชื่อเสมอว่าเวลาจะไปไหนมาไหนอย่าให้ใครเขารู้สึกสมเพช ถึงแม้เราจะกำลังเป็นทุกข์ เราก็ไม่ต้องทำท่าทางให้คนอื่นเห็นและเดือดร้อน เวลาใครถามว่าสบายดีมั้ย เราก็จะไม่ฟูมฟาย แต่ตอบสั้นๆ แค่สบายดี เพราะไม่ต้องการให้คนที่ฟังรู้สึกเป็นทุกข์เป็นร้อนไปด้วย

.

       แล้วความว่างในวัยนี้มันเลวร้ายแค่ไหนคะ

       คุณยาย : เลวร้ายมาก (ลากเสียง) นั่งๆ นอนๆ ดูละคร ดิฉันทนไม่ไหว ต้องหาอะไรทำ ชอบอะไรสนุก อย่างการเล่น Sudoku

       ทุกวันนี้ ตื่นมาก็ออกกำลังกายบนเตียง ยกขา งอขา ถีบจักรยานอากาศ 40 ครั้ง ชกมวยบนฟ้าแล้วถึงจะลุกจากเตียง จากนั้นดื่มน้ำอุ่นถ้วยโตๆ เข้าห้องน้ำ อาบน้ำอาบท่า แต่งตัว ทำเตียง ลงมาทานข้าว ไข่ลวก 2 ฟอง ขนมปัง 1 – 2 แผ่น หมูทอด และมะเขือเทศ กินแบบนี้เพราะมันเร็ว ไม่ชอบกินข้าวต้มเพราะมันอ้อยอิ่ง จากนั้นกินยา วัดความดัน นั่งทำเกมปริศนาภาษาอังกฤษ เปิดวิทยุไปด้วย ดิฉันชอบฟัง 95.5 TRS รายงานจราจร มีเรื่องที่เป็นประโยชน์อยู่  ระหว่างนั้นก็นั่งทำ Sudoku อักษรไขว้ ลุกขึ้นเดินย่อยอาหาร แต่ละวันดิฉันคิดเมนูอาหารกลางวันเอง แล้วก็ถึงเวลาละครตอนบ่าย พยายามหาอะไรทำให้มากที่สุด

       คำถามสุดท้ายแล้วค่ะ รู้สึกยังไงกับการเป็นเนทไอดอลตอนอายุ 91 ปีคะ

       คุณยาย : ดิฉันไม่เป็นไอดอลหรอก คำนี้มันอาจจะมากเกินไป น่าจะเหมาะกับคนดีที่น่านับถือมากกว่า ถ้าจะเรียก เรียกคุณยายเฉยๆ ดีกว่านะ

       สามารถรับชมความน่ารักของคุณยายปราณีได้ที่เพจ คุณยายแกะกล่อง เลยค่ะ!

ชมคลิป...

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<< 

ข้อมูลและภาพจาก คุณยายแกะกล่อง, readthecloud

เรียบเรียงโดย LIEKR

บทความที่คุณอาจสนใจ