ไม่ขอนั่งๆนอนๆ! "ชายวัยเกษียณ" หันเลี้ยงปลาหลายชนิด พร้อมปลูกไม้ผลสร้างรายได้ 2 ทาง

LIEKR:

ไม่ขอนั่งๆนอนๆ! "ชายวัยเกษียณ" หันเลี้ยงปลาหลายชนิด พร้อมปลูกไม้ผลสร้างรายได้ 2 ทาง

        คุณถาวร งานยางหวาย เป็นชายวัยเกษียณผู้มากรอยยิ้ม ผู้มีความตั้งใจเลือกชีวิตเป็นเกษตรกรหลังเกษียณจากงานประจำที่ทำ 

        เรียกง่ายๆ ว่า ไม่พียงแต่มีรายได้เพื่อเลี้ยงครอบครัวเท่านั้น เขายังมีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำอีกด้วย

 

Sponsored Ad

 

        คุณถาวร เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนมีอาชีพรับราชการ เมื่อครบกำหนดเกษียณอายุ ปี 2550 จึงได้คิดริเริ่มใช้เวลาว่างหลังเกษียณให้เกิดประโยชน์ จึงได้ศึกษาวิธีการเลี้ยงปลา ตลอดจนการทำเกษตรแบบผสมผสานควบคู่ไปด้วย เพื่อให้มีรายได้หลากหลายช่องทางระหว่างที่รอปลาที่เลี้ยงเจริญเติบโต

 

Sponsored Ad

 

        “ก่อนที่จะตัดสินใจทำเกษตรช่วงนั้น จะสำรวจก่อนว่าเราเหมาะสมกับการทำเกษตรแบบไหน ปลูกต้นไม้ หรือเลี้ยงปลา จะดูก่อนว่าเราจะทำอะไรได้มากที่สุด ก็เลยตกลงใจเลี้ยงปลา ส่วนพื้นที่ที่เหลือบนขอบบ่อ ก็จะปลูกพืชผัก ไม้ผลไว้ ก็จะมี มะขาม มะนาว ที่สามารถเก็บผลผลิตขายได้ ซึ่งจะมีการไปหาความรู้ การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ก็จะเข้าอบรมกับหน่วยงานที่เขาเปิดสอน และนำความรู้ที่ได้มาปรับใช้กับพื้นที่ที่เรามีอยู่เพื่อเสริมเข้าไป แต่ส่วนใหญ่เราก็เน้นเรื่องการเลี้ยงปลา” คุณถาวร เล่าถึงที่มาของการเริ่มต้นชีวิตเกษตรกรหลังเกษียณอายุราชการ

 

Sponsored Ad

 

        ในช่วงแรกที่เริ่มเลี้ยงปลาใหม่ๆ คุณถาวร บอกว่า เลี้ยงแบบเชิงธรรมชาติ ปล่อยให้ปลาขยายพันธุ์ออกลูกเอง ก็พอจับขายทำเงินได้เป็นที่น่าพอใจ แต่ยังไม่มีรายได้เป็นเงินเก็บมากนัก ต่อมาจึงเริ่มเลี้ยงให้เป็นเชิงการค้ามากขึ้น โดยเลี้ยงปลาให้หลากหลายชนิด เช่น ปลาสลิด ปลานิล และปลาตะเพียน เพราะเวลาที่ลูกค้ามาติดต่อขอซื้อจะทำให้มีปลาทำการตลาดได้

 

Sponsored Ad

 

        ก่อนที่จะนำลูกปลาปล่อยลงเลี้ยงจะต้องเตรียมบ่อให้พร้อมเสียก่อน โดยถ้าเป็นบ่อเก่าจะวิดน้ำออกจากบ่อให้หมด จากนั้นโรยด้วยปูนขาวให้ทั่วก้นบ่อ ตากบ่อทิ้งไว้ ประมาณ 7 วัน แล้วจึงปล่อยน้ำใส่บ่อ

        “บ่อที่ใช้เลี้ยงปลา จะเป็นบ่อขนาด 20×40 เมตร มีความลึกประมาณ 1.50 เมตร เราก็จะใส่น้ำให้มีความสูงประมาณ 1.20 เมตร จากนั้นเตรียมทำน้ำเขียวเพื่อให้ปลามีอาหารกิน ก็จะใช้พวกมูลสัตว์ จะเป็นมูลวัว มูลควาย หรือมูลไก่ก็ได้ ใส่กระสอบไว้แล้วก็วางลงแช่ภายในบ่อได้เลย สักระยะมันก็จะค่อยซึมออกมาเป็นน้ำสีเขียว เมื่อน้ำภายในบ่อปรับสภาพดีแล้ว จึงนำลูกปลามาใส่เลี้ยงหลังจากนั้น” คุณถาวร บอกถึงวิธีการเตรียมบ่อเลี้ยงปลา

 

Sponsored Ad

 

        ช่วง 1 เดือนแรก อาหารที่ให้ลูกปลากิน จะเป็นอาหารเม็ดเล็ก เบอร์ 1 ที่มีเปอร์เซ็นต์โปรตีน 40 ให้กินในช่วงเช้าและเย็น จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นอาหาร เบอร์ 2 ที่มีโปรตีนลดลง อยู่ที่ 35 เปอร์เซ็นต์ ให้กินไปอีก 1 เดือน แล้วเปลี่ยนเบอร์อาหารอีกครั้งหนึ่ง เป็น เบอร์ 2 ที่มีโปรตีน 32 เปอร์เซ็นต์ โดยจะให้กินแบบนี้ไปจนกว่าจะจับขายได้

        ในเรื่องของโรคที่จะเกิดขึ้นกับปลา คุณถาวร บอกว่า ตั้งแต่เลี้ยงมาจนเข้าสู่ปีที่ 10 ยังไม่เจอเรื่องโรคระบาดที่จะทำให้ปลาตายหรือเกิดความเสียหาย เพราะเวลาที่เลี้ยงจะใช้น้ำที่สะอาดอยู่เสมอ และมีการสาดเกลือลงไปภายในบ่อในช่วงที่มีอากาศแปรปรวน หรือช่วงที่อากาศหนาว โดยสาดเกลือในอัตราส่วน 30 กิโลกรัม ต่อบ่อ

 

Sponsored Ad

 

        ซึ่งระยะเวลาที่เลี้ยงปลานิลและปลาตะเพียนอยู่ที่ 4-5 เดือน ปลาจะมีขนาดไซซ์อยู่ที่ 3 ตัว ต่อกิโลกรัม ก็สามารถส่งขายได้แล้ว

ส่งทั้งพ่อค้าแม่ค้า พร้อมกับแปรรูปขายเอง

Sponsored Ad

        ในช่วงแรกที่เลี้ยงใหม่ๆ ยังไม่เป็นที่รู้จักของพ่อค้าแม่ค้ามากนัก คุณถาวร เล่าว่า จะจับปลาที่มีไปขายเองที่ตลาดนัดแถวบ้าน เพื่อให้ปลาที่เลี้ยงเป็นที่รู้จักของตลาด และต่อมาลูกค้าก็จะมาติดต่อขอซื้อถึงบ่อเอง ทำให้เวลานี้ไม่ต้องออกไปตระเวนขายที่ตลาดเหมือนสมัยก่อน

        ซึ่งราคาปลาตะเพียนและปลานิลขายอยู่ที่หน้าบ่อ ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาท ส่วนปลาสลิดที่มีเลี้ยงเสริมจะจับมาแปรรูปเป็นปลาสลิดแดดเดียวขายเอง จึงทำให้ปลาสลิดมีมูลค่าที่เพิ่มมากขึ้น

        “ตอนนี้ถือว่าการเลี้ยงปลาก็ประสบผลสำเร็จดี มีรายได้หมุนเวียนตลอด นอกจากที่จะเลี้ยงปลาแล้ว พื้นที่เหลือบนขอบบ่อก็ปลูกไม้ผลอย่างอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นมะนาวและมะขามที่ปลูกเอง ก็นำมาแช่อิ่ม เรียกว่าขายดีมาก คนสั่งจองกันผลิตขายแทบไม่ทัน ขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท ก็ถือว่าการทำเกษตรทำแล้วจัดการดี ไม่มีจน สามารถเก็บผลผลิตขายได้เรื่อยๆ ขอให้ทำแบบผสมผสาน เราก็จะมีผลผลิตขายทั้งปี” คุณถาวร กล่าว

        สำหรับผู้ที่อยากจะทำอาชีพทางการเกษตร คุณถาวร ให้คำแนะนำว่า ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้ประสบผลสำเร็จ ขอให้มีใจรักที่จะทำก็เพียงพอ การเกษตรถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่ดีสำหรับคนที่วัยเกษียณอยู่กับบ้าน เพราะหากนอนอยู่บ้านเฉยๆ อาจจะทำให้กำลังวังชาและความแข็งแรงของร่างกายลดลง แต่ถ้าพอมีพื้นที่ว่างอยู่ ไม่ควรปล่อยไว้เฉยๆ ขอให้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ด้วยการทำเกษตรแบบเล็กๆ น้อยๆ เมื่อประสบผลสำเร็จและมีความสุขกับสิ่งที่ทำอยากจะทำให้มากขึ้น ก็สามารถลุยแบบเต็มกำลังได้เลย ขอให้เริ่มด้วยใจที่รักก่อนเท่านั้นพอ

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก sentangsedtee