เปิดมุมมอง "ธนาธร" ด้วยภาษาอังกฤษกับ "ฌอน" เมื่อเลือกออกจาก "ไทยซัมมิท" ในวันที่ทำกำไรสูงสุด !

LIEKR:

เปิดมุมมอง "ธนาธร" ด้วยภาษาอังกฤษกับ "ฌอน" เมื่อเลือกออกจาก "ไทยซัมมิท" ในวันที่ทำกำไรสูงสุด !

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ  

    ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษกับ ฌอน บูรณะหิรัญ ตอบคำถามอย่างฉะฉาน พูดถึงการเดินออกมาจากไทยซัมมิท ในวันที่บริษัททำกำไรเป็นประวัติการณ์ในรอบ 40 ปี

    เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2562 ฌอน บูรณะหิรัญ ได้สัมภาษณ์ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นภาษาอังกฤษ เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งเรื่องชีวิตก่อนที่จะมาทำงานการเมือง ซีรีส์ที่ชอบ และเรื่องอื่น ๆ

 

Sponsored Ad

 

    ทั้งนี้ มีช่วงหนึ่งที่ฌอนถามว่า ในอดีตนั้น ผู้นำของโลกต้องมีความเชี่ยวชาญทางด้านการรบ อย่างนโปเลียน อเล็กซ์ซานเดอร์มหาราช หรือกระทั่ง 3 ก๊ก แต่ในขณะนี้ คุณสมบัติใดที่ผู้นำจำเป็นต้องมี

    ทั้งนี้ ธนาธร ตอบว่า เวลาที่ต่างกัน สถานที่ที่แตกต่างกัน ก็ต้องการผู้นำที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน เช่น ถ้าคุณต้องทำสงคราม คุณสมบัติที่ดีคือด้านการทูต หรือหากคุณอยู่ในสภาวะฉุกเฉิน คุณต้องการคนที่ตัดสินใจได้เด็ดขาด ไม่ลังเลที่จะต้องเสี่ยง แต่ในตอนนี้ สำหรับประเทศไทย ประเทศไทยต้องการผู้นำที่เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย คนที่เชื่อในระบบรัฐสภา เราอยู่ในสภาวะแตกแยกทางการเมือง เพราะคนไม่เชื่อในระบบรัฐสภา เพราะคนไม่เชื่อว่า ระบบรัฐสภาจะช่วยแก้ปัญหา หรือตอบโจทย์ถึงความคิดเห็นที่แตกต่างกัน แต่ผมว่า ระบบรัฐสภา คือการแก้ปัญหาที่นำมาซึ่งสันติมากที่สุด ไม่อย่างนั้น ผมคงไปประท้วงตามถนนแล้ว นั่นจึงเป็นเหตุที่ผมจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา

 

Sponsored Ad

 

    ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา คนไทยได้สูญเสียความเชื่อมั่นในระบบรัฐสภาไปแล้ว ผมจึงอยากให้คนไทย กลับมาเชื่อมั่นอีกครั้งในระบบรัฐสภา และระบอบประชาธิปไตยอีกครั้ง

    จากนั้น ณอน บูรณะหิรัญ ได้บอกว่า ตนเองได้คุยกับเพื่อน ๆ และคนรอบตัวหลายคน ซึ่งมีคนบอกว่า อยากได้คนที่เก่งธุรกิจมาบริหารประเทศ เพื่อให้ช่วยสร้างงาน กระตุ้นเศรษฐกิจ และเมื่อผมเห็นประวัติของคุณ จึงรู้ว่าคุณเองเคยเป็นผู้บริหารที่ไทยซัมมิทมาก่อน

 

Sponsored Ad

 

    ด้านธนาธรตอบว่า ตอนที่ผมทำธุรกิจ ผมเองก็มีความสุขดี ผมบริหารองค์กรที่มีพนักงานกว่า 20,000 คนทั่วโลก เรามีโรงงานที่จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย และเคยมีโรงงานที่มาเลเซีย แต่ขายโรงงานไปเมื่อปี 2011 ผมมีโรงงานที่ญี่ปุ่น 2 แห่ง และที่อเมริกาอีก 3 แห่ง

    แต่สุดท้ายแล้ว ผมได้ลาออกจากทุกตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจในเดือนพฤษภาคม ปี 2018 แต่ผมจะบอกก่อนว่า ผมได้ออกจากธุรกิจ ในช่วงเวลาที่ธุรกิจกำลังเติบโตสูงที่สุด บริษัทที่ผมบริหารนั้น ทำกำไรสูงสุดในรอบ 40 ปี ในตอนที่ผมออกมา และผมยังเชื่อว่า บริษัทยังไปต่อได้ ผมไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้านบริหาร และไม่ได้เข้าไปร่วมตัดสินใจในช่วงครึ่งปีหลัง

 

Sponsored Ad

 

    ในปี 2018 ยังเป็นปีที่บริษัททำกำไรสูงสุด ทั้งในแง่ของรายได้และกำไร เราได้รางวัลจากหน่วยงานราชการและลูกค้า ในตอนนั้น ผมมีความมุ่งหมายที่จะทำให้ไทยซัมมิท ติดอันดับเป็น 1 ใน 500 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามการจัดอันดับของนิตยสาร Fortune (Fortune 500) หากให้เวลาผมอีกสัก 10-15 ปี ไทยซัมมิทน่าจะไปยืนตรงจุดนั้นได้

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ข้อมูลและภาพจาก ฌอน บูรณะหิรัญ

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ