แม่ลูกชาวลาว กอดคอร้องไห้ หลังเด็ก ป.4 เก็บกระเป๋าเงินคืน ซึ้งน้ำใจคนไทยใจดี

LIEKR:

คนไทยใจดี...ชาตินี้ไม่มีวันลืม - คุณ ฮาย หลวงวงศา

    จากกรณีสองแม่ลูกชาวลาว ที่ยืนกอดกันร้องไห้บนสถานีบีทีเอส เพราะทำกระเป๋าสตางค์หาย ซึ่งในกระเป๋าตังค์มีมีเงินเดือนทั้งเดือน พาสปอร์ต บัตรประชาชนของคนลาว และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งทั้งคู่ไม่รู้จะทำยังไง จึงกอดกันยืนร้องไห้ที่สถานีรถไฟฟ้า 

    ล่าสุดทางเพจเฟซบุ๊ก รถไฟฟ้าบีทีเอส ได้มาอัพเดตเรื่องราวของสองแม่ลูก โดยระบุข้อความไว้ดังนี้....

 

Sponsored Ad

 

    จำภาพแม่ลูกชาวลาว ที่ยืนกอดกันร้องไห้บนสถานีบีทีเอส เพราะทำกระเป๋าสตางค์หายได้ไหมครับ?

    ในเรื่องร้ายยังมีดี เพราะด้วยน้ำใจที่งดงามของคนไทยหลายคนในเหตุการณ์นี้ ทำให้ในที่สุดสองคนแม่ลูกได้กระเป๋าสตางค์คืนไปครบถ้วน

    เรื่องนี้ยาวหน่อย...แต่อยากให้ทุกคนได้อ่านครับ

--------------------
    คุณฮาย หลวงวงศา คุณแม่ในภาพนั้น ได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังว่า

 

Sponsored Ad

 

    เธอเป็นแม่บ้านศูนย์อาหารแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เงินเดือนไม่มาก แต่ก็เจียดเงินให้ลูกสาวมาหาที่เมืองไทย เพราะนานทีแม่ลูกจะได้เจอหน้ากัน

    เธอตั้งใจว่า ก่อนจะไปส่งลูกกลับเมืองลาว จะนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสสักครั้ง ให้เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะไม่เคยนั่งเลยทั้งแม่ทั้งลูก

    จะนั่งจากสถานีอนุสาวรีย์ชัยฯ ไปหาเพื่อนที่สถานีตลาดพลู ... ในกระเป๋ามีเงินเดือนทั้งหมด ที่ทำงานมาทั้งเดือน เพราะหลังจากนั่งบีทีเอสแล้ว จะเดินทางไปเมืองลาว ไปส่งลูกกลับบ้าน

    สองแม่ลูกมาขึ้นบีทีเอสสมใจ กังวลเล็กน้อย เรื่องการเปลี่ยนเส้นทางที่สถานีสยาม แต่เข้าขบวนรถสายสีลมได้สำเร็จ ...ดีใจได้ไม่นาน ก็มารู้ตัวว่า กระเป๋าสตางค์หาย...

 

Sponsored Ad

 

    กระเป๋าเงินเดือนทั้งหมดของเธอ เงินหายไปหมด.... เธอช็อค ทั้งกลัว ทั้งตกใจ

    สองคนแม่ลูก ไม่รู้จะทำอย่างไร จูงมือกันออกจากขบวนรถยืนกอดกันร้องไห้ ที่สถานีไหนก็ไม่รู้ ยังไม่ถึงตลาดพลูอย่างที่คิดไว้

    นาทีนั้นเอง มีคนใจดี เธอชื่อ #คุณกบ เป็นพลเมืองดีเข้ามาสอบถามว่าแม่ลูกมีปัญหาอะไร ทำไมมายืนกอดกันร้องไห้

    คุณกบ พาสองแม่ลูกไปแจ้งของหาย กับเจ้าหน้าที่สถานีบีทีเอสทันที ... เมื่อแจ้งแล้ว ทั้งเจ้าหน้าที่บีทีเอส และคุณกบ ควักเงินให้คุณฮายคนละ 100 บาท ตอนนี้เธอมีเงิน 200 บาท ติดตัว

 

Sponsored Ad

 

    เธอมืดแปดด้าน เงินเดือน 8 พันกว่าบาทหายไปหมดแล้ว ... เธอเหลือเงินติดตัวแค่ 200 บาท

    เพื่อนเธอบอกว่า โอกาสได้คืนคงมีแค่ 1% ...เธอร้องไห้...

    แต่เจ้าหน้าที่บีทีเอสยังปลอบใจว่า ยังมีโอกาสได้คืนนะ ของหายในบีทีเอส ถ้าเป็นของเรา ยังไงก็ต้องได้คืน

    ในคืนนั้นเธอไปนอนบ้านเพื่อนชั่วคราว ... #คุณกบ พลเมืองดีก็ยังโทรถามไถ่ ... ว่ามีเงินใช้ไหม?

    คุณกบจะให้เงินช่วยเธอสัก 2-3 พันบาท จะได้มีเงินไปส่งลูกที่เมืองลาว

    เธอไม่กล้ารับไว้ เพราะเกรงใจ

    จนในที่สุดวันรุ่งขึ้น ... เจ้าหน้าที่บีทีเอสโทรมาบอกว่า พบกระเป๋าสตางค์ของเธอแล้ว

 

Sponsored Ad

 

    มีพลเมืองดี เป็นน้องเด็กนักเรียนชายชั้น ป.4 เป็นคนพบ และนำมามอบให้เจ้าหน้าที่บีทีเอสสถานีเคหะฯ เก็บไว้ให้

    เธอรีบมารับกระเป๋าคืนทันที....น้ำตาไหลซาบซึ้งจากใจ ในน้ำใจของคนไทย

 

Sponsored Ad

 

    เธอนึกถึง #คุณกบ พลเมืองดีที่มาช่วยเธอทันที ... เจ้าหน้าที่บีทีเอสที่ช่วยปลอบใจ และยังให้เงินส่วนตัวมาอีก 100 บาท ... น้องนักเรียนชั้นป.4 ที่เก็บกระเป๋าได้ ถึงจะยังเป็นเด็ก แต่น้ำใจงดงาม

    "เงินเดือนหนูก็มีแค่นี้ แต่คนไทยใจดีมาก ชาตินี้หนูคงไม่มีวันลืม" ... เธอบอกแอดมิน

    "ขนาดแม่หนู ยังบอกว่า คนไทยใจดีจริงๆ ถ้าเป็นที่อื่น เราคงไม่ได้เงินคืน"

-------------------

Sponsored Ad

    ครับ...เหตุการณ์จะเลวร้ายแค่ไหน แต่ก็ผ่านไปได้ถ้าเรามีน้ำใจ เห็นอกเห็นใจกันเสมอ

    เหตุการณ์นี้ ต้องขอขอบคุณอีกครั้ง ทั้งคุณกบ พลเมือง น้องนักเรียนป.4 ที่เก็บกระเป๋าได้ ....ไปจนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และผู้บริหารบีทีเอส ที่ติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น

    เป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนเอาใจช่วยกัน รวมหัวใจกัน จนเรื่องร้ายกลายเป็นดีได้ครับ
---------------

    สำหรับผู้โดยสารทุกท่าน หากของหายในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสไม่ต้องตกใจนะครับ แจ้งหายได้ทันที ที่เจ้าหน้าที่สถานี หรือไลน์ @btsskytrain ครับ

    #รถไฟฟ้าบีทีเอส #เรื่องราวดีๆ #คนไทยน้ำใจงาม #ของหายได้คืน #เราดูแลเพราะแคร์คุณ

โพสต์ต้นฉบับ

ข้อมูลและภาพจาก รถไฟฟ้าบีทีเอส

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ