เเซ่บมาก ! "กวาง ฟ้ารุ่ง" ควงเจ้าบ่าวนักธุรกิจ ปิดรีสอร์ตจัดงานแต่งริมทะเล พร้อมวิเคราะห์ "นิ้ง โศภิดา" มงลงหรือเปล่า ?!

LIEKR:

เเซ่บมาก ! "กวาง ฟ้ารุ่ง" ควงเจ้าบ่าวนักธุรกิจ ปิดรีสอร์ตจัดงานแต่งริมทะเล พร้อมวิเคราะห์ "นิ้ง โศภิดา" มงลงหรือเปล่า ?!

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

    กวาง ฟ้ารุ่ง เล่านาที แอนดี้ แฟนฝรั่ง ขอแต่งงาน เตรียมปิดรีสอร์ตริมทะเลจัดงานวิวาห์หวาน พร้อมเผยถึง นิ้ง โศภิดา จะมงลงหรือไม่ 

    เตรียมตัวเป็นว่าที่เจ้าสาวคนต่อไปของวงการแล้ว สำหรับนางงามสาว กวาง ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม ล่าสุดเจ้าตัวควงว่าที่เจ้าบ่าว แอนดี้ มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และหนิง ปณิตา เป็นพิธีกร

เห็นว่ากำลังจะเข้าสู่ประตูวิวาห์เร็ว ๆ นี้ มีเตรียมตัวยังไงบ้าง ?

         กวาง : ก็จริง ๆ ตอนนี้ยังวุ่นอยู่เลยค่ะ มีการเตรียมหลาย ๆ อย่าง แล้วก็ส่วนมากจะเป็นแขกของคุณแอนดี้ที่มาจากต่างประเทศค่ะ ย้อนกลับไปสมัยประกวดนางงาม ผลตัดสินออกมาว่าเราพลาดมง รู้สึกยังไงบ้าง ?          กวาง : ใจหนึ่งก็รู้สึกว่าเราทำดีที่สุดแล้ว แล้วก็ตั้งความหวังไว้ว่าให้คนไทยมีความสุข มีรอยยิ้ม ซึ่งเราก็ทำได้สเต็ปนึงแล้ว แต่พอมันไม่เข้าเราก็รู้สึกเสียใจเหมือนกันค่ะ จริง ๆ ทุกวันนี้ยังไม่กล้าดูเลยนะ โอเคมันอาจจะดีขึ้นแล้วแหละ แต่ว่าสมัยก่อนเรารู้สึกว่าเป็นข้อผิดพลาดของตัวเอง ก็นำข้อผิดพลาดเหล่านั้นมาบอกกับน้อง ๆ รุ่นต่อมาว่าต้องเตรียมตัวยังไง ทำแบบไหน ให้ตัวเองเป็นจุดที่น่าสนใจแล้วก็เข้ารอบลึก ๆ ได้

เห็นว่า นิ้ง โศภิดา ก็เป็นลูกศิษย์ของ กวาง ฟ้ารุ่ง ด้วยเหมือนกัน ?

         กวาง : อ๋อค่ะ คือกวางมีสถาบันสอนเกี่ยวกับบุคลิกภาพค่ะ แล้วน้องนิ้งก็มาเรียน ตั้งแต่ก่อนประกวด Miss Universe Thailand ซึ่งน้องนิ่งเขาก็มีความฝันว่าอยากจะเป็น Miss Universe Thailand เขาก็ถามว่าต้องทำยังไงบ้าง ก็เลยบอกเขาว่า มันก็จะต้องเริ่มเรียนจากบุคคลิกภาพก่อน แล้วเขาก็มาเริ่มเรียนเลยค่ะ ตั้งแต่ฝึกการใส่รองเท้าส้นสูง ต่าง ๆ นานามาจนถึงทุกวันนี้เลยค่ะ

คิดว่า นิ้ง โศภิดา จะสามารถผ่านเข้าไปถึงรอบไหน ?

         กวาง : อันนี้มันน่าสนใจมาก พอกวางรู้ว่าประกวดที่เมืองไทยมันก็น่าสนุกแล้ว เพราะว่าแฟนคลับคนไทยน่าจะเยอะแล้วก็เป็นที่น่าจับตามองอย่างแน่นอน แล้วน้องนิ้งเนี่ยเขามีข้อดีตรงที่ว่า เขาเป็นคนที่มีความอดทนสูงมาก ๆ และเขาก็พัฒนาตัวเองได้เร็วมาก ๆ ด้วย ถ้าทุกคนสังเกตคือตั้งแต่ที่เขารับตำแหน่งมาเนี่ยจะมีกระแสลบค่อนข้างเยอะเหมือนกัน แต่สิ่งที่กวางสัมผัสได้กับน้องคือน้องเป็นคนที่ตั้งใจมาก ๆ แล้วเขาก็พร้อมที่จะพัฒนาตัวเองเสมอ และเขาก็ไม่เคยย่อท้อ พยายามทำให้ตัวเองดีที่สุด

แล้วคิดว่ามงจะลง นิ้ง โศภิดา หรือเปล่า ?

         กวาง : ลุ้นค่ะ ลุ้นมาก ๆ เลยค่ะ

คิดว่าทุกวันนี้ความงามของนางงามเปลี่ยนไปตามยุคสมัยหรือเปล่า ?

         กวาง : เปลี่ยนค่ะ คือสมัยก่อนจะบอกว่า ความงามจากภายนอกต้องนำมาก่อน แต่สมัยนี้ มันมีเรื่องของบุคลิกภาพภายในเข้ามาด้วย คือเรื่องของหลักการความคิด ซึ่งน้องนิ้งเนี่ยเขามีหลักการความคิดภายในที่ดีมาก ๆ แล้วเขาเป็นคนที่สู้คน รวมถึงเขาเป็นคนมีประสบการณ์แล้วก็มาอะแดปตัวเองให้มีพลังในด้านบวกขึ้นเยอะมาก ๆ เพราะฉะนั้นตรงนี้เนี่ย Miss Universe เอง ก็กำลังมองหาผู้หญิงในการสร้างความงดงามแบบใหม่ ที่ไม่ใช่แค่รูปร่างภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของความคิดภายในด้วยค่ะ ถามถึงเราบ้าง จากนางงาม มาเป็นนางเอก เล่นละครดังมาก ๆ ด้วย ?          กวาง : ก็บู๊เลยค่ะ เล่นเสาร์ 5 ของอาฉลอง ภักดีวิจิตร ก็เล่น 2 ภาคเลย คือต้องบอกว่าพอเราเป็นนางงามแล้วเนี่ย Pattern ตอนนั้นก็จะต้องได้เล่นละคร ตอนนั้นก็เล่นคู่กับพี่เอก รังสิโรจน์ ซึ่งก็บู๊หนักมาก ๆ เลยค่ะ ก็รู้สึกดีที่ได้มีโอกาสได้เล่นตรงนั้นค่ะ

เป็นดาราดัง แล้วอยู่ ๆ ทำไมถึงหายจากวงการไปเลย ?          กวาง : คือช่วงนั้นเป็นช่วงที่กวางได้มีโอกาสเจอกับโมเดลลิ่งเอเจนซี่ต่างประเทศ คือกวางทำนางแบบก่อนแล้วก่อนที่จะมาเป็นนักแสดง แต่พอได้ตำแหน่งก็มีเอเจนซี่เข้ามาทาบทาม ว่าอยากไปเดินแบบต่างประเทศไหม เราก็แอบกลัว ๆ แล้วอีกอย่างนึงคือเรายังไม่เคยไปต่างประเทศเลย แต่ตอนนั้นก็ตัดสินใจไปที่ฮ่องกงก่อน เพราะว่าอยู่ใกล้ ๆ แล้วก็คิดว่ามันมีโอกาสที่ดี เราก็น่าจะลองทำสิ่งใหม่ ๆ บ้าง เราก็จะได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้วย แล้วมาเจอกับแฟนคนนี้ได้ยังไง ?          กวาง : อาจจะคิดว่านายแบบกับนางแบบก็น่าจะเจอกันอยู่แล้ว แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่เลย เจอกันทาง Hi5 ค่ะ ซึ่งนานมากค่ะ มันก็จะเป็นเหมือน Facebook นี่แหละ เขาก็เข้ามาทักแบบเป็น Friend กันอะไรแบบนี้ อินบ็อกซ์ส่งอีเมลมาให้ แต่ก็แอบเห็นว่ามีสาว ๆ เข้ามาเมนต์เต็มเลย เราก็เลยรู้สึกว่าเขาน่าจะมีผู้หญิงเยอะแน่เลย ก็ไม่สนใจ ไม่ได้ตอบกลับ แต่หลังจากนั้นเขาก็ทักมาบ่อย ๆ ก็เลยแอดเข้าไปแล้วมีโอกาสได้คุยกัน เป็นเพื่อนอยู่ประมาณ 3 ปีค่ะ โดยที่ไม่เจอหน้ากันเลย ไม่เคยแบบนัดไปกินข้าวหรือว่ายกหูโทรศัพท์คุยกันเลย จะคุยแบบแชตกันตลอด

อะไรเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ต้องนัดเจอกัน ?

         กวาง : ก็คือพอกวางไปทำงานที่ต่างประเทศเนี่ย เราคุยกับเขาแล้วเขาก็มีประสบการณ์ในการทำงานต่างประเทศมาก่อน เขาก็จะคอยบอกเรา แบบให้อดทนนะ ให้คำปรึกษาเรามาเรื่อย ๆ ก็รู้สึกว่าเราสามารถคุยกับเขาได้ทุกเรื่อง แล้วเขาก็รู้เรื่องของเราหมดเลยนะ ตั้งแต่สมัยแบบมีแฟนเก่าอะไรแบบนี้ เพราะว่าด้วยความที่เราไม่เคยเจอหน้าเขาไงคะ ก็คุยกันทุกเรื่อง เราก็รู้สึกว่าคนนี้เป็นเพื่อนเราคนหนึ่ง เป็นเหมือนเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง แต่เขาก็จะให้คำแนะนำแบบผู้ชายนะ แล้วให้เรามองอีกมุมมองนึงค่ะ

เจอกันครั้งแรก รู้สึกชอบเลยไหม ?          กวาง : เขินมากกว่าค่ะ คือในระยะเวลา 3 ปีเนี่ย เราคุยกันทุกเรื่อง แต่พอมาเจอหน้ากัน เรารู้สึกเหมือนแบบเหมือนเราเพิ่งเคยเจอคนนี้แบบเต็ม ๆ อะ คือใน 3 ปี เราก็วางตัวกันแบบเป็นเพื่อนกันมาตลอดอะไรแบบนี้ ไม่ได้มีการที่แบบก้าวก่ายกันหรือว่าลึกซึ้งอะไรกันมากมาย ก็เลยรู้สึกว่าเราสบายใจที่จะเป็นเพื่อนกันมากกว่า แต่ตอนที่เจอกันมันมีความรู้สึกที่มากกว่าเพื่อนแล้วแหละ

หลังจากนั้นใช้เวลานานไหมกว่าจะตัดสินใจเป็นแฟนหรือคบกัน ?

         กวาง : จริง ๆ หลังจากที่ตัดสินใจเจอกันก็ไม่กี่เดือนค่ะ ก็รู้สึกว่าเราอินเลิฟกับคนนี้แล้วแหละ เพราะว่าเราเรียนรู้กันมาก่อนยาวนานแล้ว เรารู้ว่าเขาเป็นยังไง เรารู้ว่าเขาต้องการอะไรในอนาคต ในชีวิต แล้วเขาก็รู้ว่าเราต้องการอะไร เราเป็นแบบไหนอะไรแบบนี้ค่ะ

ตอนโดนขอแต่งงาน แล้ววินาทีที่เราตอบตกลง รู้สึกยังไงบ้าง ?

         กวาง : รู้สึกอึ้งมากค่ะ ตื่นเต้นด้วยค่ะช่วงนั้น แล้วกวางก็นั่งแบบนิ่งมาก แล้วเขาก็ถามว่าสรุปแล้วจะแต่งไหมเนี่ย ยูจะแต่งไหมอะไรแบบนี้ค่ะ มันเป็นโมเมนต์ที่แบบจริง ๆ แล้วคือเติบโตกันมาเรื่อย ๆ เราสร้างบริษัทด้วยกัน มีการทำงานร่วมกัน คือคุณแอนดี้เนี่ยเป็นมากกว่าแฟน มากกว่าคนรักคนหนึ่ง แต่เปรียบเสมือนครอบครัว ที่เขาให้ความอบอุ่นทางใจเรามาตลอด เรารู้สึกว่าคนนี้แหละที่เราอยู่ด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัยค่ะ

งานแต่งงานเห็นว่าจะปิดรีสอร์ตริมทะเลแต่งเลย จริงหรือเปล่า ?

         กวาง : ก็ด้วยความที่แขกของคุณแอนดี้มาจากต่างประเทศก็ค่อนข้างเยอะด้วย เราก็ต้องมีการรับรองตรงนี้อะค่ะ เลยอยากให้ทุกคนมีความสุข ก็เป็นแบบนั้นเลยค่ะ แขกในงานทั้งหมดก็ประมาณ 100 กว่าคนค่ะ คือจริง ๆ จะเป็นการรับรองทางต่างประเทศค่อนข้างเยอะมากกว่า แล้วมันเป็นช่วงที่แบบสิ้นปีพอดีค่ะ ทุกคนในครอบครัวก็จะได้มาอยู่พร้อมหน้ากันด้วยค่ะ

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ข้อมูลและภาพจาก kapook