เปิดชีวิต "จา พนม" จากเด็กหนุ่มสุรินทร์ ตามหาช้าง ฝ่าฟันสู่ดาราฮอลลีวู้ด เผยโฉมลูกสาวทั้ง 2 คน !

LIEKR:

"ผมมีความภาคภูมิใจนะที่เวลาผมไปต่างประเทศ ผมได้ยกมือไหว้พูดสวัสดีครับ ผมมาจากประเทศไทย พูดภาษาไทย"

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

    กว่าจะมีวันนี้ได้ไม่ง่ายเลย สำหรับ จา พนม ดารานักบู๊เบอร์หนึ่งของเมืองไทย ที่ได้ก้าวเข้าสู้วงการฮอลลีวูดอย่างเต็มตัว โดยเมื่อไม่นานมานี้ จา พนม ได้เปิดใจเผยถึงเรื่องราวเบื้องหลังจากสตั๊นต์แมน ก่อนจะก้าวมาอยู่เบื้องหน้าและมีชื่อเสียงในระดับโลก

    ซึ่งผลงานล่าสุดที่เจ้าตัวภูมิใจอย่างมาก เพราะได้รับบทนักนักแสดงนำหนังฮอลลีวูดเป็นครั้งแรก ในภาพยนตร์ “monster hunter” ได้รับบทนำคู่กับซุปเปอร์สตาร์ของฮอลลีวูดอย่าง มิลลา โจโววิช อีกด้วย

 

Sponsored Ad

 

    ในรายการจา พนม ได้เล่าย้อนไปถึงอุบัติเหตุกลางกองถ่าย ทำเข้าเฝือกนานนับสัปดาห์ โต้ปิดบังภรรยาว่าบาดเจ็บ เพราะกลัวโดนสั่งห้ามเล่นหนังบู๊ พร้อมเปิดชีวิตครอบครัวสุดอบอุ่น กับความน่ารักของลูกสาว 2 คน 

    จา พนม เปิดใจว่า รู้สึกว่าตนมาไกลมากเลย ตื่นเต้น ประทับใจ แล้วก็ภูมิใจมากที่ได้มีโอกาสได้ไปร่วมกับหนังสตูดิโอที่ใหญ่ขนาดนั้น ที่สำคัญคือพลังขับเคลื่อนของเรานี่ คือเราทำเพื่อประเทศชาติ การทำเพื่อประเทศชาติ "ผมมีความภาคภูมิใจนะที่เวลาผมไปต่างประเทศ ผมได้ยกมือไหว้พูดสวัสดีครับ ผมมาจากประเทศไทย พูดภาษาไทย"

 

Sponsored Ad

 

    แต่กว่าจะได้รับบทนำในหนังฮอลลีวูดนี้ ตนตั้งฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ก่อนหน้าที่จะเข้าวงการมาใหม่ ๆ ตนทำมาทุกอย่างในกองถ่าย ความฝันตอนเด็กอยากเป็นนักแสดงแอ็คชั่น ก็ทำตามความฝันโดยไปสมัครเป็นสตั๊นต์แมนมาก่อน เริ่มต้นตอนอายุ 14 แต่พอ 18-19 เริ่มเห็นทางของตัวเอง ไปแคสต์ภาพยนตร์ของต่างชาติที่มาถ่ายที่เมืองไทย

    ตอนนั้นตนก็ได้รับโอกาสได้ไปเป็นสตั๊นต์แมนพระเอก ผู้กำกับอยากได้เตะสูง ตนเป็นนักตะกร้อมาก่อนก็ทำได้ จากนั้นอีก 2-3 ปี ก็รู้สึกว่าเป็นแค่เงา เพราะอยู่แต่เบื้องหลัง อยากเอาความสามารถของตัวเองไปอยู่เบื้องหน้า เลยทำเดโม่ขึ้นมาเพื่อถ่ายทอดความสามารถของตัวเองให้นักลงทุนเห็น ฝึกฝนด้วยตัวเองบวกกับศิลปะการต่อสู้ของไทย มวยไทยมันเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มาก จนได้มาเล่นองค์บากเมื่อ  18 ปีที่แล้ว คือจุดเปลี่ยนของชีวิตเลยจากสตั๊นต์มาเป็นนักแสดงนำ 

 

Sponsored Ad

 

    ชีวิตเปลี่ยนทุกวันนี้มีคนรู้จักมากขึ้น ก็ต้องรู้จักเข้าสังคม ออกงาน มีงานเข้ามา ปรับตัวตามสภาวะ กว่าจะมาถึงจุดเปลี่ยนก็มีเรื่องท้อ เพราะว่าคนเราไม่ได้เพอร์เฟกต์ 

    หลังจากจบต้มยำกุ้งก็หายหน้าไปช่วงหนึ่ง เป็นช่วงจุดเปลี่ยนเตรียมตัวที่จะไปฮอลลีวูด ตัดสินใจไปหาประสบการณ์ ซี่งครอบครัวก็ซัพพอร์ตอนนั้นเราพยายามคิดบวก รู้จักเรื่องสมาธิ ความต้องการและเป้าหมายของเราจริง ๆ คืออะไร

 

Sponsored Ad

 

    ไปที่โน่นวิ่งโร่ขายโปรไฟล์ค่ายหนัง โชว์เตะต่อย ให้ค่ายหนังดูเยอะมาก มันไม่ได้ง่ายเลย ต้องไปทำให้เอเจนต์ทุกค่ายเชื่อ ผมไปโชว์ความเป็นไทย ศิลปะมวยไทย ความแอ็คชั่นแบบไม่ใช้เทคนิคของเรา มันได้ใจเขา เขาเห็นแววตาเรา เขาชอบ ความกล้ากับความกลัวมันเป็นของคู่กัน ตัดความกลัวออกกล้าที่จะไป 

    สุดท้ายฝันเป็นจริง ต้มยำกุ้งดังจนเข้าตา ผู้กำกับฮอลลีวู้ด ดึงไปเล่นหนังเรื่องแรก "Fast & Furious 7" และ "monster hunter" โชคดีได้เจอผู้จัดการ คือ ไมค์ มาดูแลแนะนำเอเยนต์ที่ฮอลลีวู้ด บอกว่าด้วยความสามารถศิลปะการต่อสู้ของเราน่าจะมาอยู่ฮอลลีวู้ด

 

Sponsored Ad

 

    เรามีเป้าหมาย แล้วเราทำเพื่ออะไร ทำเพื่อประเทศ มาจากเมืองไทย ใช้ภาษาไทย ที่โน่นเขายอมรับให้เกียรติเรา ในถานะนักแสดงไทย "เราไปเราคิดถูก ต้องกล้าคิด" ภาษาไปตอนแรกก็งู ๆ ปลา ๆ พอได้มาเล่นฮอลลีวูดเป็นนักแสดงนำ มันคือเป้าหมายสูงสุดในชีวิตที่ผมอยากทำ

    เจ้าตัวเผยสุดภูมิใจ เหมือนเราไปปักธงเราทำได้ คนไทยก็ทำได้ คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก นอกจากนี้ก็ได้พูดถึงการได้ร่วมงานกับนักแสดงบู๊โลก กับ มิลลา ซึ่งเขาก็เปิดรับเราไปร่วมดินเนอร์กับครอบครัวกับลูกเขา เขาก็ทำกับข้าวให้กิน

 

Sponsored Ad

 

    เผยเหตุการณ์อุบัติเหตุกลางกอง บาดเจ็บขณะเล่นกับมิลลาตอนถ่าย ตอนนั้นข้อต่อพลิก ต้องปิดกองไปโรงพยาบาล ไปทั้งชุดที่แสดงเลย ต้องใส่เฝือก ตอนนั้นคอสตูมเต็มชุด เลือดปลอมเต็มหน้า ไม่ได้บอกที่บ้านไม่อยากให้ที่บ้านเป็นห่วง ถ่ายหนังต่อได้ เมียไม่รู้ บอกไปก็หลายเรื่อง กลัวเขาเป็นห่วง จริงๆเมียชอบดูเราแสดง เมียยุให้เล่นหนังบู๊

Sponsored Ad

    ส่วนภรรยา บุ้งกี๋ คู่ชีวิต 10 ปีแล้ว ตอนนี้มีลูกสาว 2 คน 8 ขวบ กับ 5 ขวบ ชื่อเรือนแก้ว และ จอมขวัญ ถ้าลูกอยากเข้าวงการพร้อมสนับสนุน จากนี้หลังที่ได้ไปปักธงเราสำเร็จแล้ว ผมได้เห็นโลกภาพยนตร์เยอะมาก เราเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เพราะฉะนั้นอะไรที่เราสามารถสร้างทีมในเมืองไทยได้มันจะเกิดขึ้นได้

.

.

.

.

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<

ที่มา : Tony Jaa 

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ