เปิดคฤหาสน์หรูร้อยล้าน "ไซซะนะ" ทำผิดข้ามชาติ "รวย" บนความเดือดร้อนของคนอื่น

LIEKR:

รวยในลาว แต่ติดคุกในไทย

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        สร้างบ้านใหญ่โตไว้หลายหลังในประเทศลาว ด้วยน้ำพักน้ำแรงจากการ "ค้ายาเสพติดข้ามชาติ" ปลูกคฤหาสน์หรูปรนเปรอญาติพี่น้องจนสุขสบาย กระจายส่งยาข้ามชาติแดนมาทำลายความมั่นคงของประเทศไทย 

        สุดท้ายชีวิตต้องซุกตัวอยู่หลังกำแพงคุก ถูกจำกัดอิสรภาพชีวิต เพราะคิดตื้นๆ อยากรวยทางลัด มีรถราคาแพง บ้านใหญ่หรูหรา ทำมาหากินบนความทุกข์ของคนอื่น ...บทเรียนของความโลภ กับวิถียานรกที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ตัดสินใจทำธุรกิจผิดกฎหมายเพราะคิดว่าเงิน "ได้มาง่ายๆ" 

 

Sponsored Ad

 

        ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2560 ข่าวใหญ่สะเทือนวงการนักค้ายา คงหนีไม่พ้น เมื่อ นายไซซะนะ แก้วพิมพา (Xaysana Keopimpha) ชาวลาว อายุ 42 ปี หรือในแวดวงสังคมไฮโซลาวจะรู้จักในนาม “เฮียลบ” ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดจับกุมยังสนามบินสุวรรณภูมิ หลังเดินทางกลับจากท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต พบความเชื่อมโยงว่านายไซซะนะ เป็นนายทุนใหญ่จัดงานปาร์ตี้ขอบคุณเอเย่นต์ ผู้ค้ายาเสพติด ที่จัดงานเลี้ยงในรีสอร์ตหรูย่านเขาใหญ่ 

 

Sponsored Ad

 

- ชีวิตหรูหราเพราะ ขายยานรก - 

        การสืบค้นขยายผลของเจ้าหน้าที่ยังพบว่า นายไซซะนะ เคยมีภาพถ่าย หรือคบหากับคนดังในแวดวงสังคม และมักจะตกเป็นเป้าสายตาของคนในสังคม ทั้งไทยและลาว นายไซซะนะ มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านดอนลับ เมืองหินบูน แขวงคำม่วน คนลาวทราบกันดีว่า "นายไซซะนะ" เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ ร่ำรวยจากการทำโรงแรม และโรงเลื่อย มีของสะสมเป็นรถซุปเปอร์คาร์หลายคัน จึงไม่แปลกนักที่จะมีภาพของนายไซซะนะ ออกงานสังคม ถ่ายภาพร่วมกับบุคคลมีชื่อเสียงทั้งในประเทศไทย และลาว ขณะเดียวกันเขายังชอบเล่นกีฬาไก่ชน และมีข่าวคราวการเดิมพันด้วยเงินมูลค่ามหาศาล

 

Sponsored Ad

 

        นอกจากนี้ยังพบว่า มีบ้านพักและทรัพย์สินอยู่ในเมืองไทย โดยใช้นอมินีเป็นผู้จัดการให้ โดยบุคคลเหล่านี้ แฝงตัวอยู่ในวงการไฮโซ และวงการบันเทิง ทำหน้าที่โยกย้าย เปลี่ยนถ่ายทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับ ป.ป.ส. และปปง. ต้องบุกตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายตามคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหาจากทั่วประเทศทั้งหมด 40 จุด ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายของการตรวจค้นนั้นคือร้าน “แอเรีย 51” ในซอยอินทามระ 51 ของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง แฟนหนุ่มดาราสาว หลังพบว่าทรัพย์สินบางรายการ โดยเฉพาะรถยนต์หรูยี่ห้อลัมโบร์กินี กัลลาร์โด (Lamborghini Gallardo) รุ่น Super Leggera LP 570-4 สีเทาดำ ที่มีมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ที่นายอัครกิตติ์ครอบครองอยู่ มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายของนายไซซะนะ  

 

Sponsored Ad

 

- พี่น้องในลาวสุขสบาย มีบ้าน 3 หลังใหญ่ ที่คำม่วน -

        เรียกว่ารวยขึ้นทันตาเป็นเศรษฐีขึ้นมาภายในระยะเวลาไม่กี่ปี ปลูกคฤหาสน์หรูร้อยล้านในประเทศลาวให้พี่สาวและญาติๆ หลายแห่ง และหนึ่งในนั้นถูกปลูกสร้างอยู่ที่ฝั่งประเทศลาว แขวงคำม่วน ข้ามฝั่งแม่น้ำโขงจากจังหวัดนครพนม ประเทศไทย ทีมข่าวเจาะประเด็นเดินทางโดยรถข้ามฝั่งไปพบว่า บ้านดังกล่าวเนื้อที่หลายไร่ ใหญ่โตหรูหรา แต่ปัจจุบันถูกอายัดทรัพย์โดยหน่วยงานภาครัฐประเทศลาว ถูกปล่อยทิ้งร้างมีหญ้าขึ้นในบริเวณบ้าน พร้อมติดป้ายประกาศชัดเจนตรงประตูทางเข้า 

 

Sponsored Ad

 

        "บ้านหลังดังกล่าว เลขที่ 19 อยู่ติดถนนใหญ่ หน้าบ้านเขียนด้วยภาษาลาวว่า บ้านนี้ดีอยู่แล้วรวย รอบๆ บ้านเป็นที่รกร้าง และไม่มีบ้านขนาดพอๆ กันปลูกสร้างใกล้เคียงแม้แต่หลังเดียว" 

- ขนของย้ายหนีหาย หลังน้องชายถูกจับกุม - 

        เพื่อนบ้านของพี่สาวนายไซซะนะ ให้ข้อมูลกับเราว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยทราบมาก่อนว่าเจ้าของบ้านเป็นใคร ทำธุรกิจอะไร? 

        รู้เพียงแค่ว่าเป็นบ้านหลังที่ถูกปลูกสร้างขึ้นใหญ่สุดในคำม่วน ในบ้านมีรถหรูและใช้ชีวิตกันอย่างสุขสบาย แม้ว่าความรวยของคนในบ้านจะโดดเด่นแปลกแยกจากเพื่อนบ้าน ก็ไม่มีใครรู้ หรือสงสัยว่าคนในบ้านทำธุรกิจอะไร กระทั่งกลายเป็นข่าวใหญ่ที่ไทยว่านายไซซะนะ น้องชาย เจ้าของบ้านถูกจับคดีค้ายาเสพติด หลังจากนั้นทุกคนก็หนีหาย ตำรวจลาวเข้ามาตรวจยึดอายัดทรัพย์สิน โดยที่ไม่รู้ว่าทุกคนแยกย้ายไปอยู่ที่ไหนกัน 

 

Sponsored Ad

 

        "ทราบว่าเขามีบ้านหลังใหญ่กว่านี้อีก 2 หลังในประเทศลาวแต่จำไม่ได้ว่าอยู่ที่ไหนบ้าง ปัจจุบันถูก ป.ป.ส.ลาว อายัดหมดแล้วทุกหลัง คนลาวส่วนใหญ่ที่รวยๆ กัน เพราะทำธุรกิจตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ พวกรวยกะทันหันไม่ค่อยจะมี ยิ่งบ้านหลังใหญ่ๆ แบบนี้ นานๆ ทีกว่าจะได้เห็นปลูกสร้างขึ้นมา" 

Sponsored Ad

- จุดจบนักค้ายา บ้านหลังใหญ่ไม่ได้อยู่ เพราะจำคุกตลอดชีวิต - 

        เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 ก.ย.2561 ที่ห้องพิจารณา 904 ศาลอาญา ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดียาเสพติด หมายเลขดำ อย.2833/2560 ที่พนักงานอัยการคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ฟ้องนายไซซะนะ แก้วพิมพา, นายชุมพร พนมไพร และนายรัชพล หรือกิมเล้ง รัฐสพลพกรณ์ เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานสมคบกันค้ายาเสพติดฯ

        โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 24 ก.ค.- 16 ก.ย. 2558 จำเลยที่ 1-2 กับพวกอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง บังอาจสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปโดยแบ่งหน้าที่กันทำในรูปขบวนการเครือข่ายยาเสพติด โดยจำเลยที่ 1 กับพวกที่อยู่ใน สปป.ลาว ร่วมกันจัดหาเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า และจัดหาเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการลักลอบขนส่งลำเลียงยาเสพติด และจัดหารถยนต์สำหรับซุกซ่อนยาเสพติดจำนวน 2,381,400 เม็ดไปส่งให้กับเครือข่ายทางภาคใต้ของไทย และมาเลเซีย

        ต่อมาระหว่างวันที่ 17-22 ส.ค. จำเลยทั้งสาม ร่วมกันสมคบกันลักลอบส่งยาบ้าจำนวน 1 ล้านเม็ดส่งให้เครือข่ายทางภาคใต้โดยติดต่อกับนายไซนุเด็ง มะ ที่ประเทศมาเลเซีย โดยจำเลยที่ 3 ทำหน้าที่ธุรกรรมการเงินรับโอนเงินค่ายาเสพติดจากนายไซนุเด็ง หลายครั้งหลายหนจำนวน 144 ล้านบาทไปส่งมอบให้เพื่อนของจำเลยที่ 1 ที่ สปป.ลาว เพื่อสะดวกในการกระทำผิด

        ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมพวกจำเลยได้พร้อมของกลางหลายรายการ อาทิ ยาเสพติด รถยนต์กระบะที่ใช้กระทำผิด โทรศัพท์มือถือและอื่นๆ เหตุเกิดที่ สปป.ลาว จ.นครพนม จ.อุดรธานี จ.สงขลา และอีกหลายพื้นที่เกี่ยวพันกัน จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธโดยตลอด ขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 100/1, 102 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33, 83, 91 และอื่นๆ

        วันนี้ศาลเบิกตัวจำเลยทั้งสาม จากทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ศาลพิพากษาประหารชีวิตนายไซซะนะ แก้วพิมพา ชาว สปป.ลาว และนายชุมพร พนมไพร จำเลยที่ 1-2 สมคบกันค้ายาเสพติด โดยคำให้การชั้นสอบสวนและคำเบิกความบางส่วนของจำเลยที่ 1-2 เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกทั้งสองไว้ตลอดชีวิต และให้นับโทษนายไซซะนะต่อจากยาบ้าคดีแรกจำนวน 1.2 ล้านเม็ดที่ศาลตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตไปแล้วด้วย และยกฟ้องนายรัชพลหรือกิมเล้ง รัฐสพลพกรณ์ จำเลยที่ 3 ที่ถูกกล่าวหารับโอนเงินค้ายา เนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัยตามสมควร

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2561 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาให้ประหารชีวิตนายไซซะนะ ฐานนำเข้าเมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 จำนวน 1.2 ล้านเม็ดเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยชั้นสอบสวนนายไซซะนะ ให้การรับสารภาพ ศาลลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกไว้ตลอดชีวิต.

ชมคลิป

เปิดคฤหาสน์หรูร้อยล้าน "ไซซะนะ" ค้ายาข้ามชาติ "รวย" บนความทุกข์คนอื่น

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<<

ข้อมูลและภาพ จาก thairath

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ