คนเราพออายุ 50 ปี ต้องจำ "5 ประโยคนี้" ไว้ให้ขึ้นใจ เวลาผ่านไปไวกว่าที่คิด

LIEKR:

อายุยังไม่ถึง 50 ก็ควรรู้ไว้

        เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แค่พริบตาเดียววัยเยาว์ก็ผ่านไป ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ เมื่อมองย้อนกลับไปก็รู้สึกเสียดาย แค่พริบตาเดียว เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถย้อนกลับมาได้อีก

        โดยเฉพาะเมื่ออายุขึ้นเลข 6 เลข 7 แล้ว จะรู้สึกตัวเองแก่แล้ว ทั้งๆ ที่เรื่องราวตอนหนุ่มๆ สาวๆ ยังคงสดใสชัดเจน แต่ในวันนี้กลับสัมผัสได้ถึงเส้นผมที่เปลี่ยนเป็นสีขาว เมื่อคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านไป ทุกอย่างกลายเป็นอดีตไปแล้ว เมื่อไหร่ที่พวกเราจะสามารถโบกมือสวยๆ แล้วบอกว่า “คุ้มค่าแล้วชีวิตนี้”

 

Sponsored Ad

 

        ครึ่งแรกของชีวิตไม่ง่ายเลย แต่เมื่อวิเคราะห์ในตอนสุดท้าย การเลือกและตัดสินใจที่ผิดพลาดมากเกินไปนั้น เป็นแค่สิ่งธรรมดา ส่วนชีวิตในครึ่งหลังที่เหลือจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับแนวความคิด และวิธีที่คุณเผชิญโลกและชีวิต เมื่ออายุเข้าสู่เลข 6 เลข 7 แล้ว ต้องจำ 5 ประโยคนี้ให้ขึ้นใจ เพื่อจะได้ไม่แก่ไปอย่างไร้ประโยชน์

 

Sponsored Ad

 

ประโยคที่ 1 : ชีวิตครึ่งแรกไม่ง่าย ชีวิตครึ่งหลังที่เหลือดีกับตัวเองหน่อย

        คนเราในยุคนี้ ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ตอนอายุยังน้อยก็ทำงานหนักเพื่อลูก เพื่อครอบครัว น้อยนักที่จะดูแลตัวเอง ตอนนั้นคุณภาพชีวิตก็ไม่ดีนัก เพื่อจะทำให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดี พวกเราต้องทุ่มเทอย่างหนัก แต่ดูเหมือนจะมีแค่ตัวเองที่รู้

        ถึงวันนี้ ใช้ชีวิตมาครึ่งร้อยแล้ว เป็นเวลาที่ต้องใช้ชีวิตเพื่อตัวเองบ้าง

        ชีวิตครึ่งแรกไม่ง่าย ชีวิตครึ่งหลังที่เหลือดีกับตัวเองหน่อย อย่าเอาแต่กังวลใจกับลูก ต้องเรียนรู้ที่จะ “ปล่อยวาง” ใช้ชีวิตบั้นปลายของตัวเอง

 

Sponsored Ad

 

ประโยคที่ 2 : คิดถึงอดีต ไม่สู้ทะนุถนอมปัจจุบัน การใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันคือการใช้ชีวิตที่ดีที่สุด

        ไม่ว่าอดีตจะเป็นอย่างไร มีเรื่องที่เสียใจก็ดี ผิดพลาดก็ดี ต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง อดีตยังไงก็คืออดีต บนโลกใบนี้ มีเรื่องมากมายที่ทำให้เราเสียใจ เรื่องมากมายที่เป็นไปไม่ได้ แทนที่จะแบกไว้ ไม่สู้ปล่อยวาง มีแค่วิธีนี้เท่านั้น ถึงจะเป็นจุดจบที่ดีที่สุด

 

Sponsored Ad

 

        ปล่อยวางสิ่งที่ผ่านมา ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ถึงจะเป็น “วิธีการใช้ชีวิต” ที่ดีที่สุด

ประโยคที่ 3 : มีวินัยในตัวเอง ออกกำลังกาย ชีวิตที่เหลือต้อง “แข็งแรง”

 

Sponsored Ad

 

        ร่างกายเป็นต้นทุนของการทำทุกอย่าง ยิ่งอายุมาก ก็จะยิ่งเข้าใจความหมายที่ลึกซึ้งของประโยคนี้ ถ้าร่างกายไม่แข็งแรง ทุกอย่างก็กลายเป็นศูนย์ สำหรับคนที่อายุขึ้นเลข 6 แล้ว การรักษาวินัยในตนเองและการออกกำลังกายอย่างจริงจังเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในชีวิต

        ชีวิตในครึ่งหลัง ต้องมุ่งมั่นเพื่อ “สุขภาพ” ถ้าไม่มีสุขภาพที่ดี ต่อให้ทิวทัศน์สวยงามแค่ไหน คุณก็ไม่สามารถดื่มด่ำกับมันได้

ประโยคที่ 4 : ชีวิตก็คือกระจก คุณยิ้มให้มัน มันก็จะยิ้มตอบคุณ “ทัศนคติ” 

 

Sponsored Ad

 

        ในครึ่งหลังของชีวิตต้องดี คนเราในชีวิตนี้ ต่างใช้ชีวิตด้วย “อารมณ์” คนที่ทัศนคติไม่ดี ต่อให้ชีวิตสวยงามแค่ไหน ลูกหลานดีกตัญญูยังไง ก็ยากจะสัมผัสได้

        จริงๆ แล้ว ชีวิตก็เหมือนกระจก คุณยิ้มให้มัน มันก็จะยิ้มตอบคุณ คุณร้องไห้ให้มัน มันก็จะร้องไห้กับคุณ มีแค่ทัศนคติที่ดี ถึงจะทำให้คุณมองโลกในแง่ดี ชีวิตก็จะดีราบรื่นสบายใจ

        ประโยคที่ 5 : อย่ารบกวนลูกๆ อย่า “ควบคุม”

Sponsored Ad

        ชีวิตพวกเขามากเกินไป ใช้ชีวิตของตัวเอง หลายๆคนพอลูกๆแต่งงาน ก็ยังไม่สบายใจ รู้สึกว่าตัวเองถูกต้องตลอดเวลา ชอบที่จะไปกะเกณฑ์ชีวิตของพวกเขา ไม่ว่าพวกเขาจะต้องการหรือไม่  ใช้คำพูดว่า “เพื่อลูก” รบกวนชีวิตพวกเขาอย่างไร้ขีดจำกัด

        จริงๆ แล้ว สำหรับลูกๆแล้ว มันคือ “ภาระ” คนแต่ละรุ่นมีไลฟ์สไตล์ของตัวเอง คนเป็นพ่อแม่ อย่าไปควบคุมกะเกณฑ์ชีวิตของลูกมากเกินไป อะไรที่ช่วยได้ก็ช่วย ช่วยไม่ได้ก็ปล่อยให้พวกเขาจัดการเอง สำหรับพวกเราแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุด คือใช้ชีวิตของตัวเองให้ดี

        คนเราบนโลกนี้มีสภาพอารมณ์มากเกินไป ไล่ตามไม่ทัน รักษาไว้ไม่ได้ ปล่อยวางไม่ลง คนเรามักจะหลงทางในโลก ลืมความเป็นตัวเอง และลืมความงดงามของทิวทัศน์รอบๆ เส้นทาง

        คนเราจะใช้ชีวิตอย่างไม่สับสน ควรจะเก็บ “คำแนะนำ” เหล่านี้ไว้ในใจ จับไว้ได้ ปล่อยวางได้ ไม่โอดครวญ ไม่โลภ ไม่หวังสูงเกินไป ไม่ตำหนิตัวเอง ใช้ชีวิตกับปัจจุบัน เหยียบย่างไปทุกก้าวด้วยความมั่นคง ทุกๆวันเต็มไปด้วยสีสัน ชีวิตแบบนี้ ถึงจะคู่ควรกับการทีชีวิต

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR