ไม่มีใครที่ไม่รู้จักพวกเขา พวกเขาเปลี่ยนสถานะจากประธานาธิบดีมาเป็นพลเมืองธรรมดาก็นานแล้ว สำหรับครอบครัวประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐอเมริกา แต่อย่างไรก็ตามสังคมยังคงจับตามองครอบครัวนี้อย่างใกล้ชิด 

    สื่อต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมของปี 2019  อดีตผู้นำของสหรัฐอเมริกา บารัก โอบามา (Barack Obama) ภ ร ร ย า ที่รักเพิ่งฉลองวันครอบรอบแต่งงานปีที่ 27 ไป

    งานนี้ก็มีคนแอบสังเกตจุดน่ารักเล็กๆ ผ่านแคปชั่นใน Social Media ของ โอบามาและ มิเชลล์ ว่าช่างเป็นข้อแตกต่างระหว่างผู้หญิงและผู้ชายได้ดีเหลือเกิน นั้นก็คือในขณะที่มิเชลล์ “บอกรัก” โอบาม่ายาวเหยียดหลายบรรทัด ส่วนโอบาม่ามาแบบพูดน้อยต่ อ ย ห นั ก ด้วยการอ้างเนื้อเพลง Getting Better ของ The Beatles 

    ในภาพที่โอบามาโพสต์นั้น มิเชลล์กำลังนั่งซบไหล่เขาอยู่ โดยนั่งหันหลังให้กล้องผ่าน Instagram พร้อมแคปชั่นที่ว่า 

     Like the Beatles said: It’s getting better all the time. Thanks, babe, for 27 amazing years!

    เหมือนที่ The Beatles เคยพูดไว้ว่า: “มันจะดีขึ้นและดีขึ้นตลอดเวลา ขอบคุณที่รัก สำหรับวันเวลาที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตลอด 27 ปี”

    หลังจากที่สามีที่รักอย่างโอบามาได้โพสต์บอกรักภ ร ร ย าไปแล้ว 1 ชั่วโมง มิเชลล์ก็ออกมาโพสต์ภาพทั้งคู่พร้อมกับแคปชั่นที่ว่า 

    27 years ago, this guy promised me a life full of adventure. I'd say he's delivered

    “เมื่อ 27 ปีก่อน พ่อหนุ่มคนนี้ได้สัญญากับฉันว่าชีวิตจะเต็มไปด้วยการผจญภัย และตอนนี้ฉันอยากจะบอกว่า เขาได้ทำสำเร็จแล้ว”

    แต่ไม่ว่าจะบอกรักสั้นหรือยาว ความสัมพันธ์กว่า 27 ปีของทั้งคู่ก็คงตอบได้ดีกว่าตัวอักษรแน่นอน

    โอบามาวัย 58 ปี และมิเชลล์วัย 55 ปี ทั้งคู่แต่งงานกันในปี 1992 นี่คือบรรยากาศการแต่งงานอันอบอุ่นของพวกเขา ทุกปีเมื่อถึงวันครบรอบแต่งงานหรือวันวาเลนไทน์ หรือแม้กระทั่งวันพ่อ วันแม่แห่งชาติ ทั้งสองก็จะโพสต์แคปชั่นสุดหวานแววลงสื่อออนไลน์ และบอกรักกันแบบที่ว่ามดยังเรียกพี่ พวกเขาบอกว่าการกระทำแบบนี้คือเคล็ดลับในการครองชีวิตคู่ให้ความรักสดใหม่อยู่เสมอ

    ในปี 2018 มิเชลล์ยังแบ่งปันด้วยการส่งเพลงรักที่ชื่อ《 Stand By Me》, 《 Endless Love》ให้สามีที่รัก ซึ่งเนื้อหาของเพลงเต็มไปด้วยความรักล้วนๆ แบบว่ายิ่งฟังก็ยิ่งหวานอะไรปานนั้น

    มิเชลล์และบารักพบกันในปี 1989 บารักเป็นนักศึกษาฝึกงานในช่วงฤดูร้อนและมิเชลล์เป็น "ผู้บุกเบิก" ที่คอยดูแลและชี้นำเขา ตามความทรงจำของทั้งสอง บารักไม่สนใจงานมากนัก แต่เขารู้สึกดีเพื่อนร่วมงานหญิงคนนี้เป็นอย่างมาก 

    แค่เนื่องจากมิเชลล์ไม่อยากให้เกิดเรื่องรักในที่ทำงาน จึงพยายามแสดงท่าทีว่าปฏิเสธบารักตลอดเวลา แต่ท้ายที่สุดมิเชลล์ก็ต้องยอมแพ้ต่อความรักและความพยายามของบารัก

(ทั้งคู่นั่งในรสบัสหาเสียงในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ หลังจากวันสุดท้ายของการหาเสียงในปี 2008)

    ในปี 1992 พวกเขาได้จูงมือกันเข้าประตูวิวาห์ ตัดสินใจมอบชีวิตนี้ให้กับสามีบารัก ผู้ชายที่ผอมร่างสูง แต่ทว่าในตอนนั้นมิเชลล์ดูมีความสามารถมองการไกลกว่าโอบามา หลังจากที่เธอสำเร็จการศึกษาจากคณะนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต เธอก็กลายเป็นทนายความ ในตอนนั้นเงินเดือนสูงกว่าโอบามาเสียอีก 

    "ผมจะไม่ได้ยืนอยู่ที่นี่ในคืนนี้หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนที่ดีที่สุดตลอดที่ผ่านมา 16 ปี เพราะเธอเป็นทั้งครอบครัว ภรรยา และสตรีหมายเลขหนึ่ง นั่นคือ มิเชล โอบาม่า"

    บนเวทีที่ประชุมประชาธิปไตยแห่งชาติปี 2004

    ทั้งคู่กอดกันอย่างอบอุ่นในระหว่างการชุมนุมที่สนาม Williams Brice ในเมืองโคลัมเบีย รัฐเซาท์แคโรไลนา เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2008

    ทั้งคู่จูบกันระหว่างเข้าชมการการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ในกรุงวอชิงตันเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2012

    ระหว่างฟังบรรยายในงานครบรอบ 50 ปี ของสิทธิมนุษยชน Montgomery วันที่ 7 มีนาคม 2015

    มิเชลจัดโบว์ให้บารัคในระหว่างรอต้อนรับประธานาธิบดี XI Jinping จากประเทศจีน และมาดาม Peng Liyuan ในกรุงวอชิงตันเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2015

ที่มา :  new.qq

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR