"ป๋านนท์" เสี่ยล้งทุเรียน ผวาคนนับแสนแห่สมัครลูกเขย ขอยุติเรื่องทั้งหมด ประกาศยกเลิกรับสมัครในวันที่ 1 เม.ย.นี้ พร้อมเผยเหตุผล ขณะนี้เรื่องดังกล่าวเกิดผลกระทบอย่างหนักต่อธุรกิจ...

    จากกรณี นายอานนท์ รถทอง อายุ 59 ปี เจ้าของล้งทุเรียน "ป๋านนท์@ป้าอร" ตั้งอยู่ในตลาดอวยชัย 3 ถนนเอเชีย 41 หมู่ 4 ตำบลวังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ประกาศรับสมัครลูกเขยทางเฟซบุ๊ก แถมเงินสดให้ 10 ล้านบาท บ้านและรถยนต์อีกนับ 10 คัน หวังมาช่วยลูกสาวสืบทอดธุรกิจ ตั้งแต่คืนวันที่ 2 มี.ค. 62 ที่ผ่านมา จนกลายเป็นกระแสฮอตในสื่อออนไลน์ มีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวจนโด่งดังอยู่ขณะนี้

 

 

    ล่าสุด นายอานนท์ รถทอง หรือ ป๋านนท์ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ขอยุติเรื่องทั้งหมด โดยขอประกาศยกเลิกรับสมัครลูกเขยในวันที่ 1 เม.ย.นี้ เนื่องจากปรึกษาทุกคนในครอบครัวแล้ว ว่ากลัวจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี 

    “ป๋านนท์” เสี่ยล้งทุเรียนประกาศขอยุติการรับสมัครว่าที่ลูกเขย และขอยกเลิกวันนัดรวมพลว่าที่ลูกเขยที่ จ.จันทบุรี ครวญตลอด 3 วัน 3 คืน มีคนแห่สมัครนับแสนคน แถมผู้หญิงอีกนับร้อยขอสมัครเป็นเมียน้อย จนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน ส่งผลกระทบลูกค้าโทร.ติดต่อไม่ได้ แถมโดนเมียด่า “หาเรื่องใส่ตัว” และงอนยังไม่ยอมคุยด้วย ขณะที่ลูกสาวขอโทษสังคมและผู้ที่สนใจสมัครรับการคัดเลือก ย้ำชีวิตคู่ของคนเราไม่ใช่แบบนี้ แต่ยังเปิดช่องให้ติดต่อคบหาเป็นเพื่อนทางสื่อออนไลน์

 

 

    กระแสยังร้อนแรงไม่หยุด กรณี “ป๋านนท์” หรือนายอานนท์ รถทอง อายุ 59 ปี เสี่ยเจ้าของล้งทุเรียนส่งออก “ป๋านนท์&ป้าอร” ในตลาดอวยชัย 3 ถนน เอเชีย 41 หมู่ 4 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ประกาศผ่านเฟซบุ๊กรับสมัครลูกเขยให้ “น.ส.กาญจน์สิตา รถทอง” ลูกสาววัย 26 ปี มีดีกรีปริญญาตรีเอแบคเกียรตินิยม ปริญญาโทมหาวิทยาลัยศูนย์ยะเซนต์ ประเทศจีน พร้อมแถมเงินสดให้ 10 ล้านบาท รถยนต์ 10 คัน บ้านหนึ่งหลัง ล้งทุเรียน เป็นทุนตั้งตัวทำให้มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่แห่สมัครรับการคัดเลือกลูกเขยจนนายอานนท์กับลูกสาวต้องรับสายทั้งวันทั้งคืนแทบไม่ได้นอน ขณะที่สาวแก่แม่ม่ายก็ไม่ยอมน้อยหน้าแห่เสนอตัวเป็นเมียน้อยป๋านนท์กว่า 200 ราย โดยนัดให้ผู้สมัครเป็นลูกเขยไปรวมพลที่ล้งรับในตลาดเนินสูง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เพื่อรับการคัดเลือก ขณะที่สังคมยังเฝ้าลุ้นใครจะเป็นหนุ่มผู้โชคดีคว้าภรรยาหน้าตาดีและมีทรัพย์สินนับสิบล้านไปครอง

 

 

    ความคืบหน้าการสรรหาสามีให้ลูกสาวของเสี่ยเจ้าของล้งทุเรียน เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 มี.ค. ที่ล้งทุเรียน “ป๋านนท์&ป้าอร” ตลาดอวยชัย 3 อ.หลังสวน จ.ชุมพร นายอานนท์ รถทอง กล่าวถึงการเลือกเฟ้นเขยขวัญว่า ไม่ไหวแล้ว วุ่นวายไปหมดแล้ว เมียก็ด่า ลูกสาวก็จะบ้าแล้ว ไม่คิดว่าจะมากมายขนาดนี้ คนก็สืบกันเก่ง ไม่คิดว่าจะหาเบอร์โทร. หาเฟซบุ๊กของลูกสาวเจอ ขอให้นักข่าวช่วยประกาศไปเลยว่าปิดรับสมัครแล้ว ไม่ต้องโทร.หรือจะมาสมัครด้วยตัวเองอีก และจะไม่ให้สัมภาษณ์อีกแล้ว ตนรับโทรศัพท์ ไม่ไหวแล้ว กระทบต่อธุรกิจ ลูกค้าที่จะโทร.ซื้อขายทุเรียนอย่างมาก และมีหลายรูปแบบ ขณะนี้ถ้ารวมๆ แล้วหลายหมื่นหรือเป็นแสนคน ก็กลัวว่าหากวันคัดเลือกตัวในวันที่ 1 เม.ย. ที่ตลาดเนินสูง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี หากมากันเยอะตามที่สมัครไว้อาจเกิดปัญหาเรื่องสถานที่และปัญหาอื่นๆตามมา ขอปิดรับสมัครลูกเขยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่ต้องโทรศัพท์มาสมัครอีก เจอกันวันนัดรวมพลว่าที่ลูกเขยทีเดียว

 

 

    ป๋านนท์กล่าวต่อว่า ที่หาลูกเขยจริงๆแล้วตนโพสต์ให้เพื่อนๆพ่อค้าทุเรียนในกลุ่มเฟซบุ๊กได้เห็นกัน เผื่อเพื่อนๆที่มีลูกชายเกิดสนใจมาสมัครเป็นลูกเขยตน ไม่คิดว่าจะบานปลายไปถึงคนนอกกลุ่มจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ และสมัครมากันมากมายเกินไป ตลอด 3 วัน 3 คืนมานี้แทบไม่ได้พักผ่อน แล้วยังมีปัญหากับเมียอีกด้วยเนื่องจากมีผู้หญิงจำนวนนับพันรายโทรศัพท์มาขอยืมขอกู้เงินและขอเป็นเมียน้อย ขอให้ตนเลี้ยงดูอ้างเหตุผลปัญหาชีวิตและความเดือดร้อนที่น่าสงสารเห็นใจต่างๆนานา จนเมียรับไม่ได้ด่าว่าตนหาเรื่องใส่ตัว ตอนนี้งอนยังไม่พูดกันเลย ที่ผ่านมา เห็นว่าลูกสาวอายุมากยังไม่มีสามีมาช่วยสืบทอดธุรกิจ ตนทำธุรกิจซื้อขายทุเรียนในประเทศและส่งออกตามออเดอร์ไปยังประเทศจีน เห็นว่าคนจีนค้าขายเก่งเมื่อลูกสาวเรียนจบส่งไปเรียนภาษาที่ประเทศจีน คิดว่าอาจจะได้ลูกเขยจีนกลับมาสืบทอดธุรกิจ แต่ลูกสาวกลับมามือเปล่า แฟนก็ไม่มี

 

 

    น.ส.กาญจน์สิตา รถทอง อายุ 26 ปี ลูกสาว กล่าวว่า ตนเข้าใจในความรู้สึกของพ่อ พ่อรู้สึกอย่างไรคิดอย่างไรก็จะพูดไปแบบนั้น ตนพยายามบอกกับพ่อว่าพอแล้ว อย่าไปพูดอะไรมาก เดี๋ยวสังคมสื่อออนไลน์มันแรง ส่วนตนก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ไม่ว่าพ่อจะเลือกใครแต่สุดท้ายเรื่องของความรักก็ขึ้นอยู่กับ ตัวเราด้วย ไม่ใช่มาสมัครเพราะเงินหรือเพราะงาน อย่างไรก็ตาม วันที่ 1 เม.ย. ที่พ่อนัดหมายกับผู้ที่มาสมัครเป็นลูกเขยไว้ ตนก็ต้องไปตามที่พ่อประกาศไว้ แต่จะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับพ่อของตน เพราะพ่อจะเข้าใจตนและรู้ว่าตนเป็นคนอย่างไรชอบแบบไหน

 

 

    ส่วนที่แผงทุเรียน “อานนท์ เจ้จั่น” แผงทุเรียนใหญ่ที่สุดในตลาดสี่มุมเมือง ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เจ้าของร้านชื่อเจ้จั่น นั่งเฝ้าร้านและดูลูกจ้างราว 10 คน จัดเรียงทุเรียนอยู่ เจ้จั่นกล่าวว่าตนเป็นภรรยาอีกคนของป๋านนท์ที่ประกาศหาลูกเขยจนเป็นข่าวใหญ่โต และเป็นน้องสาวป้าอร แม่ของ น.ส.กาญจน์สิตา ป๋านนท์เป็นคนตลกชอบโพสต์อะไรแบบนี้อยู่แล้ว แต่ตนไม่เคยเห็นเพราะไม่เล่นเฟซบุ๊ก แต่มารู้เพราะมีคนมาแซว ทราบว่าก่อนที่จะโพสต์ข้อความนั้น ป๋านนท์ออกไปตระเวนทุเรียนแล้วเหนื่อย แกล้งพูดว่าเดี๋ยวหาลูกเขยมาช่วยเลย กระทั่งมีการโพสต์หาลูกเขย ตนคิดเป็นเรื่องขำๆที่แกแกล้งโพสต์ไปแบบนั้น ส่วนเรื่องที่ผู้หญิงมาขอเป็นเมียน้อยนั้น ตนไม่เคยสนใจ

    ต่อมาเวลา 16.00 น. นายอานนท์ รถทอง พร้อมลูกสาว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่ล้งทุเรียน “ป๋านนท์&ป้าอร” ว่า หลังประกาศรับสมัครลูกเขยดังกล่าวได้รับความสนใจจากคนทั่วประเทศ และจากต่างประเทศมีการโทรศัพท์ติดต่อมาหาตลอดเวลาจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน ครอบครัวเราได้ปรึกษากันแล้วขอยุติการรับสมัครว่าที่ลูกเขย และขอยกเลิกวันนัดรวมพลว่าที่ลูกเขยในวันที่ 1 เม.ย.นี้ เนื่องจากมีผู้สมัครเข้ามามากกว่า 1 แสนคน เกรงไม่สะดวกทั้ง เรื่องสถานที่ เรื่องการเดินทางของผู้สมัครแต่ละคน ความวุ่นวายจากจำนวนมาก และหากคัดเลือกได้ก็อาจสร้างความไม่พอใจกับผู้ไม่ได้รับการคัดเลือก

    ด้าน น.ส.กาญจน์สิตา รถทอง กล่าวว่า หลังจากปรึกษากับครอบครัวแล้วการขอยกเลิกเรื่องทั้งหมดถือว่าดีที่สุดแล้วเพื่อยุติปัญหาที่จะตามมา เมื่อตัดสินใจยกเลิกแล้วตนก็สบายใจ เพราะคิดว่าความรักการมีชีวิตคู่ของคนเราไม่ใช่วิธีนี้แบบนี้ ต้องอยู่ที่จิตใจด้วย ต้องขอโทษสังคม ขอโทษทุกๆคนที่ติดต่อ เข้ามา ส่วนใครอยากคบหาเป็นเพื่อนกับตนก็มีอีกหลายช่องทางที่ติดต่อกันได้ทางสื่อออนไลน์

ข้อมูลและภาพจาก thairath