"เบเบ้-ธันย์ชนก" จาก "สาวไซส์มินิ" สู่เจ้าหญิงแห่งการออกกำลังกาย สร้างความมั่นใจ พร้อมบอกเคล็ดลับ!

LIEKR:

อยากมีหุ่นแบบนี้จังเลยค่ะ

        จากผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่วันนี้ “เบเบ้-ธันย์ชนก ฤทธินาคา” กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้หลายคนลุกขึ้นมาออกกำลังกายและมีหุ่นเป๊ะเว่อร์เหมือนเธอ เบเบ้บอกว่าหุ่นดีทำได้ไม่ยาก แค่มีความคิดว่าอยากหุ่นดีก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแล้ว ที่เหลือก็แค่ “ลงมือทำ” 

        เพราะผลลัพธ์ของการออกกำลังกายไม่ใช่แค่รูปร่างที่สวยงาม แต่จะเปลี่ยนความคิดให้คุณกลายเป็นคนที่มั่นใจ ภูมิใจ และรักในรูปร่างของตัวเองในแบบที่ไม่ต้องเหมือนใคร

 

Sponsored Ad

 

Workout is my job

        สำหรับเบ การออกกำลังกายไม่ใช่สิ่งที่ทำเล่นๆ ฆ่าเวลา เพราะชื่อก็บอกแล้วว่า “Workout” ดังนั้นมันคือการทำงาน ซึ่งในการทำงานทุกอย่างเราต้องทุ่มเท จริงจัง และทำให้เป็นประจำ กว่าจะได้หุ่นแบบนี้เบออกกำลังกายมา 3 ปี แถมเพิ่งมารู้เรื่องจริงๆ คือทำแบบมีความรู้ว่าเล่นท่านี้เพื่ออะไร ให้ได้ผลลัพธ์แบบไหน ก็เพิ่ง 1 ปี ที่ผ่านมานี้เอง 

 

Sponsored Ad

 

        ดังนั้นเราจะออกกำลังได้ ต้องไม่รู้สึกว่าน่าเบื่อ ต้องรักมันให้ได้ ถ้าเบื่อก็ต้องหาลูกเล่น ไม่ว่าจะเป็นการหาท่าออกกำลังใหม่ๆ หรือเพิ่มสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ เช่น หูฟังน่ารักๆ หรือชุดออกกำลังสวยๆ ใส่แล้วรู้สึกดี ก็จะอยากออกกำลังกาย เป็นอีกแรงผลักให้อยากลุกขึ้นไปเวิร์คเอ๊าต์ ทุกวันนี้นอกจากออกกำลังกายเองแล้ว ยังให้คำแนะนำเบื้องต้นกับคนอื่นด้วย 

        นี่เบเพิ่งไปลงเรียนเพื่อให้ได้ใบรับรองการเป็นเพอร์ซันนัลเทรนเนอร์แบบสากล (Certified Personal Trainer) จริงจัง เพิ่งเริ่มเป็นคอร์สแรก คงใช้เวลาอีกสักระยะ จะได้มีความรู้จริงๆ เวลามีใครมาถามข้อมูลเชิงลึก (ยิ้ม)

 

Sponsored Ad

 

Bebe’s program

        เวลาออกกำลังกายเบเน้นคาร์ดิโอเป็นหลัก 5 วันต่อสัปดาห์ เพราะช่วยเผาผลาญและสร้างความแข็งแรงให้หัวใจ ทำให้เราเหนื่อยยาก การจะคาร์ดิโอให้ได้ผลต้องทำให้หัวใจเราเต้นและทำงานติดต่อกันเป็นระยะเวลา 30-45 นาทีสม่ำเสมอ โดยอาจสลับเปลี่ยนรูปแบบการคาร์ดิโอไปเรื่อยๆ เพื่อแก้เบื่อค่ะ ส่วนยิม เบจะเข้าวันเว้นวัน ตก 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อสร้างกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน เช่น ก้น ต้นขา

 

Sponsored Ad

 

กินได้ แค่มีสติ

        สารภาพตรงนี้เลยว่าเบชอบกินขนมปังมากค่ะ หลายคนรู้แล้วตกใจว่าออกกำลังกายแล้วกินแป้งได้หรือ ความจริงแล้วเบไม่ได้เข้มงวดกับการกินขนาดนั้น ถ้าออกกำลังกายหนักก็ต้องกินเยอะหน่อย ไม่อย่างนั้นร่างกายจะไม่ไหว ทุกวันนี้เบกินข้าว 3 มื้อตามปกติ 

        แต่กินแค่พออิ่ม เน้นโปรตีนในแต่ละมื้อเยอะหน่อย เช่น พวกเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน หลีกเลี่ยงของมันและทอด อย่างผัดกะเพราก็ใช้น้ำแทนน้ำมัน แล้วไม่ปรุงเยอะ ที่ไม่กินเลยคือบุฟเฟ่ต์ เพราะรู้สึกว่าเราควบคุมปริมาณอาหารไม่ได้ คือเรางกเงิน จ่ายแล้วต้องกินให้คุ้ม (หัวเราะ) ดังนั้นไม่กินเลยจะดีกว่า

 

Sponsored Ad

 

        ผลไม้ก็ต้องกิน เพราะให้กากใย ดีต่อระบบขับถ่าย ของโปรดคือส้มโอ ของหวานกับน้ำหวานก็มีบ้าง ไม่ถึงกับอดเลย ไว้แก้เบื่อ แต่เบจะเลือกเครื่องดื่ม แคลอรีต่ำ หรือเลือกส่วนผสมที่ให้รสชาติหวาน แต่ไม่ใช้น้ำตาล ซึ่งทุกวันนี้มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ไม่ก็พวกชาเขียวไม่ใส่น้ำเชื่อมก็ได้

 

Sponsored Ad

 

        หลักๆ คือแค่ดูตัวเองค่ะ ถ้าวันไหนรู้สึกว่ากินเยอะไปก็ตื่นมาวิ่งให้เยอะกว่าเดิม (หัวเราะ) สำหรับใครที่อยากลดน้ำหนัก เบแนะนำให้กินอาหารครบ 3 มื้อ แต่ต้องกินมื้อสุดท้ายให้เสร็จ 4 ชั่วโมงก่อนนอน ให้ท้องว่าง ถ้าหิว เบแนะนำให้ลุกขึ้นไปแปรงฟันหรืออมน้ำยาบ้วนปากเผ็ดๆ แล้วนอนต่อ (หัวเราะ) วันรุ่งขึ้นค่อยตื่นตี 5 แล้วอัดขนมปังให้หายหิว กินเยอะตอนเช้าได้ค่ะ เพราะร่างกายเราแอ๊คทีฟแล้ว แต่ไม่ใช่กินแล้วกลับไปนอนต่อนะ (หัวเราะ) ให้ลุกขึ้นเดินไปเดินมาหาอะไรทำด้วย

Sponsored Ad

Make-up for workout 

        ตอนออกกำลังกายก็สวยได้ ส่วนตัวเบจะขอปัดคิ้วนิดหนึ่งพอให้เข้ารูป ทาลิปกลอสนิดหน่อยพอให้ดูระเรื่อสดใส เดี๋ยวปากซีดแล้วคนจะนึกว่าป่วย ส่วนแป้ง ไม่ทาเลย เพราะสุดท้ายแล้วเหงื่อจะออกเยอะมาก แต่ไม่ต้องกังวล เพราะเวลาผู้หญิงเหงื่อออกจะสวย ผิวจะอมชมพูเลย เชื่อเบ (ยิ้ม)

Work it out baby!

        สำหรับคนที่อยากเริ่ม เราต้องเริ่มจากการเปลี่ยนความคิดตัวเองก่อนเลยค่ะว่าจะออกกำลังกายแล้วนะ ไปหารูปนางแบบสวยๆ หุ่นฟิตๆ มาดูเป็นกำลังใจก็ได้ สเต็ปต่อมาคือลุกขึ้นไปออกกำลังกาย! แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าไม่ใช่ไปถึงปุ๊บต้องเริ่มท่ายากเลยนะคะ ทุกอย่างต้องใช้เวลาฝึกฝน มีสเต็ปของมัน ต้องไม่ใจร้อน ค่อยๆ ทำไปค่ะ 

        อีกอย่างคือแต่ละคนมีสรีระไม่เหมือนกัน ตามดีเอ็นเอ เราไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ เช่น รูปทรงของกระดูกหรือความยาวขา อย่าไปเปรียบเทียบกับใคร การออกกำลังกายจะทำให้เราดูดีที่สุดในแบบของเราเอง ซึ่งไม่ว่าจะมีรูปร่างแบบไหน เราก็จะมีข้อดีและข้อด้อยอยู่ในตัว อย่างเบแต่เดิมผอมอยู่แล้ว พอมาออกกำลังกายจึงเห็นกล้ามท้องได้ชัดค่อนข้างเร็ว (ต้องอธิบายก่อนว่าทุกคนมีกล้ามท้องอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่จะมีไขมันมาบังไว้ พอออกกำลัง ไขมันที่สะสมอยู่ก็จะค่อยๆ หายไป ทำให้เห็นกล้ามท้องชัดขึ้น) ซึ่งคนผอมที่มีไขมันตรงหน้าท้องน้อยก็จะเห็นผลเร็วหน่อย 

        แต่ถ้าอยากให้ขาและก้นเด้งนี่ทำยากมาก ในขณะที่ผู้หญิงเจ้าเนื้อหน่อยจะปั้นขาและก้นได้ง่ายกว่า เพราะมีเนื้ออยู่แล้ว ทำให้กล้ามจับตัวได้เร็วกว่า ดังนั้นที่อยากบอกคือ เราไม่ต้องกังวลหรือหมกมุ่นเรื่องรูปร่างของตัวเองมาก เพราะเมื่อออกกำลังกายไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่งที่เห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปร่าง เราจะชอบตัวเอง 

        รักที่เราเป็นแบบนี้ เพราะทุกอย่างล้วนเกิดจากความพยายามและทุ่มเทของเราเอง ทำให้เราภูมิใจและไม่สนใจเลยว่าซิกซ์แพ็คหรือกล้ามของเราเป็นแบบไหน แต่เราจะรักที่มันเป็นแบบนี้ เหมือนพ่อแม่ที่ภูมิใจในตัวลูกของตัวเอง (หัวเราะ)

.

ข้อมูลและภาพ จาก praew

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ