ที่บ้านของคุณซักผ้าม่านบ่อยแค่ไหน? คนสมัยนี้ไม่ค่อยมีเวลา นับตั้งแต่ติดตั้งผ้าม่านก็ไม่เคยได้ทำความสะอาด ละเลยการดูแลผ้าม่าน 

        จริงๆแล้วผ้าม่านเป็นที่เก็บฝุ่นจำนวนมาก ต้องการการทำควาามสะอาดอย่างสม่ำเสมอ วันนี้เรามาลองเรียนรู้จากคุณแม่บ้านประสบการณ์กว่า 20 ปี ที่จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาได้มาก แค่ 10 นาทีก็เสร็จเรียบร้อย โดยไม่จำเป็นต้องรื้อผ้าม่านเลย

คนส่วนใหญ่ซักผ้าม่านอาจจะทำแบบนี้

จากนั้นก็บิดให้หมาด 

หรือไม่งั้นก็โยนใส่เครื่องซักผ้า

        จริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นเรื่องยากขนาดนี้ การซักผ้าม่านด้วยมือนอกจากจะกินแรงแล้ว ยังไม่แน่ว่าจะสะอาด เนื่องจากผ้าม่านไม่เหมือนเสื้อผ้า มันใหญ่กว่ามาก ส่วนการใช่เครื่องซักผ้าก็อาจจะทำให้เนื้อผ้าเสียหาย มาดูทริคที่ง่ายๆกว่านั้นกันดีกว่า!

1) ใช้เครื่องดูดฝุ่น

        ผ้าม่านใช้ไปนานๆเข้า ก็จะเก็บฝุ่นไว้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผ้าม่านที่สีเข้ม จะดูไม่ค่อยออก บวกกับในบ้านอากาศไม่ค่อยไหลเวียน หรือผนังอาจจะมีความชื้น ทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ง่าย ส่งผลต่อคุณภาพของอากาศ ถ้าใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดม่านเป็นประจำ ก็จะป้องกันปัญหาเชื้อราได้

        ถ้ารู้สึกว่าเครื่องดูดฝุ่นที่บ้านขนาดใหญ่ เอามาดูดผ้าม่านจะกินไฟเกินไป ก็อาจจะไปหาซื้อเครื่องที่วัตต์น้อยๆ สักไม่เกิน 500 วัตต์จากในเนตมาใช้ ทั้งราคาถูก ไม่กินไฟ และไม่เปลืองที่

2) น้ำยาทำความสะอาดผ้าโดยไม่ใช้น้ำ

        น้ำยาทำความสะอาดผ้าโดยไม่ใช้น้ำเหมาะกับผ้าม่านหรือเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นผ้า เช่น โซฟา ผ้าคลุมโต๊ะ และอื่นๆ ตรงไหนสกปรกก็ฉีดไปตรงนั้น จากนั้นใช้ผ้าบิดหมาดเช็ดตามลงไป ก็จะเห็นผลชัดเจน ถ้าที่บ้านมีเด็กเล็กๆที่วาดผ้าม่านซะสกปรก จนผ้าเช็ดไม่ออก ก็อาจจะต้องใช้แปรงนิ่มๆขัดเบาๆ

        น้ำยาทำความสะอาดพวกนี้ขวดละไม่กี่ร้อย แต่มันมีข้อเสียคือ ไม่สามารถละลายสีได้ และไม่สามารถใช้กับผ้าไหม และผ้าขนสัตว์

3) เครื่องทำความสะอาดแบบไอน้ำ

        เครื่องทำความสะอาดไอน้ำสามารถทำความสะอาดได้ทั้งแบบเปียกและแห้ง สามารถใช้ทำความสะอาดโซฟา พรม เสื้อผ้า ผ้าม่านและอื่นๆ เวลาใช้ทำความสะอาดผ้าม่านต้องใช้คู่กับแปรงสำหรับผ้าม่าน ก่อนอื่นเลยก็ต้องดูดฝุ่นออกไปก่อน แล้วค่อยทำความอาดด้วยไอน้ำต่อ โดยที่ไม่ต้องถอดผ้าม่านลงมาให้วุ่นวาย

        ถ้าไม่มีก็ลงทุนซื้อสักอัน ไม่เพียงใช้ทำความสะอาดผ้าม่าน ยังใช้ทำอย่างอื่นได้อีก 

        วัสดุที่เอามาทำผ้าม่านแตกต่างกันไป ผ้าฝ้ายดูดซับสิ่งสกปรกได้ง่าย เพราะฉะนั้นเวลาตัดสินใจซื้อต้องคิดให้รอบคอบ อีกอย่างก็คือผ้าโปร่ง ผ้าสักหลาดอ่อน ไม่สามารถใช้เครื่องซักได้ ผ้าสักหลาดเวลาทำความสะอาดอย่าขยี้ สีจะเปลี่ยนได้ง่าย ผ้าโปร่งจะไม่ค่อยมีฝุ่น สามารถใช้ผ้าเปียกเช็ดได้

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR