จากกรณีข่าวของหนุ่มไทยที่ถูกกักตัว ณ ประเทศลาว เหตุไม่ได้ประสานหรือแจ้งเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเมื่อเดินทางเข้าไปถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง จนกระทั่งทางการไทยได้ช่วยประสานจนท.ลาว เพื่อปล่อยตัวเนื่องจากเป็นการเข้าใจผิด และทำให้เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างลาว-ไทย จบลงด้วยดีนั้น...

        เหตุการณ์ครั้งนี้ ได้ถูกแชร์ไปอย่างมากในโซเชียล ทำให้มีชาวเน็ตหลายคนออกมาเผยเรื่องราวประสบการณ์ที่เคยไปเที่ยวประเทศลาว เขาได้เล่าเรื่องทั้งหมดที่เคยเจอมา พร้อมระบุข้อความว่า "พูดตรงๆ นะ ไม่ได้โลกสวย คือ ลาว เป็นประเทศเดียวในเอเชียที่มีอัตรานักท่องเที่ยวลดลงทุกปี เพราะคนที่ไปเที่ยวลาวแล้ว จะไม่อยากกลับไปอีก..."

        "...ไอ้ประเภทมานอนมโนเอาเองว่า ลาวธรรมชาติสวยงาม บ้านเมืองสงบ คนลาวคนซื่อๆ ไม่มีพิษมีภัย คนลาวจิตใจดี อยากแบกเป้ไปเที่ยววังเวียง อยากนุ่งผ้าสิ้นคุกเข่าใส่บาตรที่หลวงพระบาง ถ้าคุณได้ไปสัมผัสกับประเทศลาวจริงๆ คุณจะไม่อยากกลับไปอีก"

        "เช่น ค่าครองชีพที่ลาวสูงมากถึงมากที่สุด คนไทยกินก๋วยเตี๋ยวริมถนนชามละ 40 บาท น้ำขวดที่เซเว่น 7 บาท ที่ลาว "เฝอ" คล้ายก๋วยเตี๋ยวชามละ 100 บาท น้ำขวดละ 20 บาท ค่าแรงขั้นต่ำที่ลาวตามประกาศปี 2018 วันละราว 147 บาทไทยเอง 

        เที่ยงมาคนลาวจะกลับไปกินบ้านไม่มีเงินมานั่งกินร้านตามสั่งเหมือนไทยนะ ไก่ย่างเสียบไม้ตัวละ 600 บาทไทย ผู้ประกอบการลาวเจอนักท่องเที่ยวไทยยังกะผีดิบเจอเหยื่อ ทุกอย่างถูกบวก บวก เซอร์วิสชาร์จเข้าไปอีก กระทั่งรถ 3 ล้อ คนไทยไปเที่ยววัดในลาว วัดดันอยู่ในเขตทหาร ถ่ายรูปจากมือถือชมความงามถูกจับข้อหาสายลับติดคุกลาว"

โพสต์ดังกล่าว

        "คนไทยขับรถเที่ยวลาวนำรถจากไทยไป ใช้หนังสือเล่มม่วงจอดชมวิวข้างถนน ขี้เมาลาวขับมอเตอร์ไซต์มาชนโครม ตำรวจลาวบอกคนไทยผิด "ถ้าเจ้าไม่ข้ามมาเที่ยว เขาก็จะไม่ชนเจ้า" คนไทยต้องจ่ายเงินให้ขี้เมาลาวเป็นค่าเสียหาย ยังไม่พอ 

        ยังไม่พอคนไทยข้ามแดนไปเที่ยวลาว ตม.ลาวไม่แต้มพาสปอร์ตขาเข้าให้ ขาออกมันออกไม่ได้ เพราะมันกลายเป็นคนหนีเข้าเมืองต้องถูก ตม.ลาวไถเงินค่าผ่านแดน ถึงปล่อยกลับไทยได้ จะเอาอะไรกับลาวเหรอ อย่าโลกสวย ในรีวิวท่องเที่ยวให้มาก อยู่กับความเป็นจริง"

ความคิดเห็นชาวเน็ต

        ทั้งนี้ ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย บ้างก็ว่าความคิดเห็นนี้พูดเกินจริงเกินไป แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในการเดินทางข้ามประเทศไม่ว่าประเทศไหน สำคัญที่สุดจะต้องมีการศึกษาขั้นตอนการเดินทางรวมถึงระเบียบข้อกฎหมาย เพราะแต่ละประเทศมีกฎหมายระเบียบวิธีปฏิบัติที่แตกต่างกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง หากทำผิดอาจถูกดำเนินคดี ซึ่งทาง ตม.มีเจ้าหน้าที่ดูแลแนะนำทุกจุด ก่อนเดินทางออกนอกประเทศ ส่วนการช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหา ต้องทำตามขั้นตอน เพื่อไม่ให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ข้อมูลและภาพจาก โชคชัย บุญวรเมธี, siamnews