คุณครูแต่ละโรงเรียนล้วนมีกลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อที่จะผลักดันทำให้นักเรียนของตนเองมีผลการเรียนที่ดี และมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ถ้าใช้วิธีการหยามเกียรตินักเรียนนั้นดูท่าจะไม่เป็นสิ่งที่ดีแน่ๆ เหมือนเช่นคุณแม่ท่านนี้ที่ไปร่วมงานประชุมผู้ปกครองของลูกชาย แต่กลับเจอคุณครูพูดหยามเกียรติกันซะงั้น

    สื่อนอกเผยมีคุณแม่ชาวไต้หวันท่านหนึ่ง โดยขอตั้งชื่อนามสมมุติว่า อาชิงและสามีทำธุรกิจส่วนตัว ทำให้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันค่อนข้างยุ่งมาก พวกเขาก็ไม่คาดหวังให้ลูกต้องมีผลการเรียนที่เด่นอะไรมากมาย หลายครั้งที่ลูกชายมักจะสอบได้คะแนนคนสุดท้ายของห้อง แต่อาชิงก็ไม่เคยดุด่าว่าลูกเลย แต่ขออย่างเดียวคือ “อย่าลอกข้อสอบเด็ดขาด ทุกอย่างต้องสุจริต” ไม่ว่าจะสอบได้คะแนนเท่าไหร่ก็ตามจะไม่ดุด่า

    มีอยู่อาทิตย์วันหนึ่ง อาชิงได้ไปร่วมงานประชุมผู้ปกครองประจำชั้นเรียนของลูกชาย จากนั้นครูประจำชั้นก็จะเรียนเชิญผู้ปกครองของนักเรียนที่สอบได้คะแนนสูงสุดและต่ำสุดของห้องขึ้นไปพูดหน้าห้องทีละคน ซึ่งครั้งนี้ลูกชายของอาชิงสอบได้คะแนนอันดับสุดท้ายของห้อง ดังนั้นอาชิงจึงถูกครูประจำชั้นเชิญขึ้นไปพูดหน้าชั้นเรียน แต่การเชิญของคุณครูค่อนข้างหยามกันมาก โดยพูดว่า “ขอเชิญผู้ปกครองนักเรียนที่สอบได้อันดับหนึ่ง เรียงจากคะแนนห่วยที่สุดของห้องขึ้นมาพูดอะไรหน่อย”

    แน่นอนว่าผู้ปกครองทั่วไปหากได้ยินคำพูดประมาณนี้ก็จะไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่อาชิงไม่แสดงออกอย่างนั้น พร้อมกับใช้สติปัญญาในการพูด จนคุณครูรู้สึกอายไปเลย อาชิงกล่าวหน้าชั้นเรียนว่า “ก่อนอื่นขอพูดก่อนว่า ลูกชายของฉันชื่อ เหยียนเหยียน ไม่ได้ชื่อคะแนนห่วยที่สุด แม้ว่าครั้งนี้เขาจะสอบได้คะแนนน้อยที่สุดของห้องก็ตาม แต่ในฐานะผู้ปกครองฉันไม่รู้สึกว่ามันจะน่าอับอายตรงไหน เพราะฉันรู้ว่าลูกชายของฉันตั้งใจทำดีที่สุดแล้ว สุดท้ายในฐานะผู้ปกครองฉันหวังว่า อย่าใช้คำสรรพนามนี้เรียกคนอื่นอีก เพราะมันเป็นการแสดงให้เห็นถึงการไม่ให้เกียรติคนอื่นเป็นอย่างมาก”

     เมื่ออาชิงพูดจบก็เดินลงมานั่งที่เดิม ผู้ปกครองทุกคนอึ้งไปเลย พร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของอาชิง จนคุณครูก็รีบออกมาขอโทษกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาก็เปิดเผยว่า “ไม่ควรใช้คะแนนหรือเกรดในการวัดคุณภาพของเด็ก เพราะเช่นนี้จะเป็นการทับถม ปิดกั้นพรสวรรค์และจุดแข็งของเด็กเท่านั้น ซึ่งไม่เอื้อต่อพัฒนาการโดยรวมของเด็ก ในทางกลับกันผู้ใหญ่ควรใช้การให้กำลังใจแทนการดุด่าและต้องมีความอดทนมากขึ้น เพราะมันจะทำให้พัฒนาการเรียนรู้ของเด็กดีขึ้นเรื่อยๆ”

ที่มา : teepr | เรียบเรียงโดย Liekr