รร.วัดบวรนิเวศ ประกาศเป็น "โรงเรียนปลอดการบ้าน" ชิ้นงานต้องจบในคาบเรียน ตั้งเป้าปี 63

LIEKR:

คิดเห็นอย่างไรกับ #โรงเรียนปลอดการบ้าน ชิ้นงาน แบบฝึก ทำให้เสร็จในคาบเรียน!

        เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ชาวเน็ตได้ให้ความสนใจ จากกระแสโซเชียลมีเดีย กรณีโรงเรียนวัดบวรนิเวศ ตั้งเป้าเป็นโรงเรียนปลอดการบ้าน ในปี 2563 ได้รับเสียงชื่นชมในด้านแนวคิดอย่างมาก เนื่องจากปัญหาของนักเรียนส่วนใหญ่คือ ต้องทำการบ้านหลายวิชาตลอดทั้งเทอม ทำให้ไม่มีเวลาในการพักผ่อน รวมทั้งการค้นหาความสามารถพิเศษของตนเอง

        โดยเฟซบุ๊กเพจ "โรงเรียนวัดบวรนิเวศ" ได้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า "เป้าหมายที่เรากำลังจะทำ โรงเรียนปลอดการบ้าน บวรนิเวศเกรียงเดชเกริกก้องเกรียงไกร โรงเรียนชายล้วนหกแผ่นดิน" ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีเด็กๆ รวมถึงผู้ปกครองเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ถึงขนาดที่บางคนบอกว่า เป็นโรงเรียนในฝัน

 

Sponsored Ad

 

        ต่อมา ทางเพจโรงเรียนวัดบวรนิเวศ ได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมว่า โรงเรียนอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม นำไปสู่โรงเรียนปลอดการบ้าน โดยชิ้นงาน แบบฝึก กิจกรรมต่างๆ จะอยู่ในคาบเรียน ห้องเรียน และกิจกรรมเสริมหลักสูตร บูรณาการในสาระวิชาต่างๆ เพื่อลดจำนวนงาน ไม่ต้องทำส่งเป็นการบ้าน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เราจะทำในปีการศึกษา 2563 และจะรายงานความคืบหน้าหลังจากได้เริ่มดำเนินการเป็นระยะต่อไป

        ผอ.เขษมชาติ อารีมิตร ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ โรงเรียนวัดบวรนิเวศ ได้กล่าวถึงแนวคิดของ "โรงเรียนปลอดการบ้าน" ว่ากำลังดำเนินการ อยู่ในขั้นตอนของการศึกษาแนวทาง รูปแบบของการเรียน แต่จะเกิดขึ้นแน่นอนในปีการศึกษา 2563 นี้ โดยจะใช้แนวคิดการจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน คือเน้นการเรียนรู้ด้วยตนเองตามทักษะและความสามารถของแต่ละคน และใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอนมากขึ้นแทนการใช้กระดาน ให้นักเรียนเรียนน้อยลง มีเวลาว่างมากขึ้นเพื่อทำกิจกรรม ซึ่งโรงเรียนบวรนิเวศพร้อมสนับสนุนกิจกรรมหลากหลายรูปแบบของนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านกีฬา ดนตรี หรือแม้กระทั่งกีฬาอีสปอร์ต

 

Sponsored Ad

 

        ในส่วนของการยกเลิกการบ้านนั้น ผอ.เขษมชาติ กล่าวว่า "การบ้านเยอะมีปัญหากับนักเรียนทุกระดับ ครูหนึ่งวิชาสั่งการบ้านทั้งเทอม นักเรียนต้องทำการบ้านทุกวิชา ยังไม่รวมงานกลุ่ม งานชิ้น ดังนั้นเราควรเคลียร์การบ้านให้เสร็จตั้งแต่ในห้องเรียนและใช้เวลาไปทำกิจกรรมอย่างอื่นที่สนใจ คนเก่งไม่ได้มีแค่เก่งวิชาการ เราควรมองว่าเด็กทุกคนมีความเก่งอยู่ในตัว อยู่ที่ว่าเก่งด้านไหน และจะดันให้เด็กเก่งขึ้นได้อย่างไร ซึ่งทางโรงเรียนต้องการเด็กแบบนี้ ได้ส่งเสริมในสิ่งที่เขาชอบ และ เก่ง ดี มีสุข ที่แท้จริงตาม พระราชบัญญัติการศึกษาไทย"

 

Sponsored Ad

 

        การค้นหาความสามารถของนักเรียน จะมีขึ้นตั้งแต่การสอบเข้า โรงเรียนจะมีแบบทดสอบความถนัดเพื่อทดสอบความสามารถแฝง เช่น เรียนวิทย์คณิตแต่มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ ก็จะส่งเสริมเพิ่มเติม นอกจากนี้คุณครูทุกท่านต้องปรับตัวจากการสอนแบบเดิมมาเป็น "โค้ช" เพื่อแนะนำวิธีการศึกษาให้นักเรียนหาข้อมูลด้วยตนเองมากขึ้น และกลับมาทำแบบฝึกหัดไปพร้อมกับการอธิบาย วิธีนี้นักเรียนจะไม่มีการบ้านและได้เรียนรู้จากการทำแบบฝึกหัดไปในตัว การดูแลนักเรียนรายบุคคลก็เป็นเรื่องสำคัญมาก ครูต้องรู้จักชื่อนักเรียน ประวัติ รวมถึงความสามารถพิเศษด้วย

 

Sponsored Ad

 

        ด้านการวัดผล จะเป็นการสอบ และวัดผลโดยใช้วิธีประเมินตามสภาพจริง สามารถให้โอกาสนักเรียนสอบใหม่หรือค้นคว้าทำงานที่เกี่ยวข้องมาส่ง เพราะเชื่อว่านักเรียนทุกคนมีความแตกต่าง เขาอาจตอบไม่เก่ง แต่สามารถนำเสนอความรู้ความเข้าใจด้วยวิธีอื่นได้

ข้อมูลและภาพจาก thairath, โรงเรียนวัดบวรนิเวศ (Wat Bowonniwet School)

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ