สื่อต่างประเทศรายงานว่า เกาหลีหมิง คุณแม่อายุ 39 ปีมาจากเมืองชนบทลั่วหยาง มณฑลเหอหนานของประเทศจีน เนื่องจากอุบัติเหตุตอนอายุ 17 ปีทำให้เขาต้องสูญเสียแขนขวาไป ตอนนี้เพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว แม้จะต้องลำบากแค่ไหนก็ยอม 

 

    เธอทำงานอาชีพคนส่งของ แม้ว่าจะไม่สะดวกที่จะทำงานด้วยมือซ้ายเพียงข้างเดียว แต่เธอก็สามารถจัดส่งพัสดุโดยเฉลี่ยกว่า 200 ชิ้นในทุกๆวันได้ หลายปีที่ผ่านมานี้เธอต้องทำงานอย่างหนัก

 

 

    เมื่อปีที่ผ่านมา เธอและสามีก็เก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง ก็นำมาซื้อบ้านห้องเล็กๆ ในเมือง ด้วยความพยายามอย่างหนักทำให้เธอและสามีสามารถปลดหนี้ค่าบ้านได้สำเร็จภายใน 6 ปี ก่อนช่วงก่อนตรุษจีนพอดี ก็เหมือนกับว่าบ้านหลังนี้เป็นของขวัญปีใหม่สำหรับครอบครัวเลยก็กว่าได้  

     เธอเติบโตจากเมืองชนบท ในปีนั้นที่เธออายุ 17 ปีก็เกิดอุบัติเหตุขณะทำงานทำให้ต้องสูญเสียแขนขวาตั้งแต่ต้นแขนลงมา อย่างไรก็ตามในการเผชิญกับความยากลำบาก แต่เธอไม่คิดว่านั้นคือความพ่ายแพ้ในชีวิต เธอกลับต่อสู้ดิ้นรนอย่างมาก เพื่อสมัครงานหลาย บริษัท ทำงานเป็นผู้ดูแลคลังสินค้า ผู้ดูแลอาคารและจัดส่งพัสดุ หลายปีต่อมาเธอก็ได้พบกับคนที่ยอมรับและพร้อมจะสร้างครอบครัวเล็กๆกับเธอ 

 

 

    หลังแต่งงาน เธอก็ไม่ได้งอมืองอเท้าอยู่แต่บ้าน เพื่อช่วยกันสร้างครอบครัว เธอและสามีก็ออกไปหางานทำ ด้วยความมีมานะอุตสาหะ ประหยัดอดออม ไม่นานสามีก็เปิดร้านอุปกรณ์เครื่องเขียนเล็กๆ และเธอก็ให้กำเนิดลูกสาวและลูกชายในเวลาต่อมา

     เนื่องจากมีสมาชิกเพิ่มขึ้น รายจ่ายก็มากขึ้น เธอจึงนำเงินเก็บที่มีและขอยืมเงินก้อนหนึ่งกับญาติพี่น้องเพื่อซื้อบ้านหลังเล็กๆในเมือง โดยชำระเงินดาวน์บ้านราคาสองแสนกว่าหยวน (ประมาณ 905,000 บาท) จากนั้นเธอและสามีก็เริ่มทำงานหนักมากขึ้นเพื่อหาเงินมาผ่อนจ่ายค่าบ้าน     ปกติเธอต้องออกจากบ้านประมาณ 7 โมงเช้า ตอนเย็น 6 โมงถึงจะกลับถึงบ้าน แม้ว่าเธอต้องใช้มือข้างเดียวในการทำงานดูเหมือนจะลำบากกว่าคนทั่วไป ไม่ว่าฝนตก แดดออกเธอก็ไม่เคยท้อ ไม่เคยหยุดพัก หลังจากที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 นี้ ทำให้หลายเมืองถูกปิดล้าง ทำให้ทุกครั้งที่ไปส่งของตามเมืองเหล่านั้นก็ต้องมีความอดทน ยืนตากลืมตากฝนอยู่นานกว่าจะมีคนมารับพัสดุ

 

 

.    ทุกครั้งที่ต้องแบกพัสดุกล่องใหญ่ก็พึ่งมือซ้ายเพียงข้างเดียว ทำให้ต้องเสียแรงมากหน่อย แต่ถึงกระนั้นเองเธอก็สามารถส่งพัสดุไปถึงมือผู้รับได้อย่างปลอดภัย เชื่อว่าหลายคนคงทำไม่ได้เหมือนเธอ เธอทำงานด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก

    หลังจากที่เธอเริ่มชินกับงานนี้แล้วก็ทำให้เธอสามารถส่งพัสดุได้มากขึ้นจากเดิมเป็นวันละ 200 ชิ้น และหากเป็นช่วงเวลาที่มีการส่งพัสดุมากสูงสุดก็เฉลี่ยประมาณ 400 ชิ้นต่อวันเลยทีเดียว 

 

 

    และเมื่อเธอกลับบ้าน งานบ้านเธอก็สามารถทำได้ดีด้วยมือเดียว เธอบอกว่าทุกวันที่ทำงานก็เหมือนพบกับความท้าทาย

    เมื่เวลาผ่านไปลูกคนทั้ง 2 คนก็ค่อยๆเติบโต เธอไม่เคยบ่นว่าเหนื่อยตลอดเวลาที่อยู่บ้าน แต่ลูกๆทั้งสองคนก็สังเกตได้ว่าแม่ทำงานเหนื่อยแค่ไหน ทำให้เมื่อถึงช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ก็จะขอออกมาช่วยเหลือเธอเสมอ

 

 

    ปัจจุบันลูกสาวคนโตอายุ 11 ปีแล้วและลูกชายคนเล็กอายุ 6 ขวบ ทุกครั้งที่พวกเขาขอออกมาช่วยทำงานส่งพัสดุ เธอก็รู้สึกไม่อยากให้พวกเขาต้องลำบาก แต่พวกเขาก็เป็นเด็กกตัญญูมาก ทำให้เธอมีแรงใจสู้ต่อไป

    หลังจาก 6 ปี ต่อมา ตอนนี้พวกเขาสามารถปลดหนี้ค่าบ้านได้แล้ว ทำให้พวกเขามีเงินเก็บมากขึ้น ด้วยความประหยัดอดออมทำให้ตอนนี้ชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้น ลูกๆก็มีความสุขและรักการเรียนมาก

 

 

    ส่วนสามีต้องออกไปทำงานต่างจังหวัดบ่อยๆ หลายวันถึงจะกลับบ้านครั้งหนึ่ง แต่เขาก็มักจะโทรมาหาด้วยความเป็นห่วงเป็นใยเสมอ

    จะวีดีโอคอลมาพูดคุยด้วยทุกวัน

    ทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าลูกและสามีในมือถือ เธอก็เหมือนมีกำลังใจขึ้นมาใหม่

  เพื่ออนาคตที่สดใสของเรา แม่จะอดทนทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวของเรานะ....

ที่มา:lookforward

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR