ราชกิจจาฯ ประกาศ หน้ากากอนามัยห้ามขายเกินชิ้นละ 2.50 บาท หากนำเข้าต้องแจ้งราคา

LIEKR:

ดูเหมือนราคาจะไปไกลแล้วนะ !!

    ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ หน้ากากอนามัย เป็นสินค้าควบคุม ให้จำหน่ายในราคาไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาท หากนำเข้าต้องแจ้งราคาทุกครั้ง ยกเว้นหน้ากากอนามัยแบบผ้า

    เมื่อวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๖๓ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ ๑๐ พ.ศ. ๒๕๖๓ เรื่อง การกำหนดราคาจำหน่ายและการแจ้งข้อมูลหน้ากากอนามัย

 

Sponsored Ad

 

    ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ ๑๐ พ.ศ. ๒๕๖๓ เรื่อง การกำหนดราคาจำหน่ายและการแจ้งข้อมูลหน้ากากอนามัย

    ตามที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ได้ออกประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๖๓ เรื่อง การกำหนดสินค้าควบคุมเพิ่มเติมลงวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๓ กำหนดให้หน้ากากอนามัย เป็นสินค้าควบคุม ไปแล้ว นั้น

 

Sponsored Ad

 

    โดยที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ได้มีมติเมื่อวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๓ กำหนดให้ผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัย จำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคาไม่สูงกว่าราคาที่กำหนด รวมทั้งให้ผู้ผลิตแจ้งต้นทุนการผลิตและผู้นำเข้าแจ้งราคานำเข้า และแจ้งให้ทราบภายในวันที่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ราคาหน้ากากอนามัยสอดคล้องกับต้นทุน ค่าใช้จ่าย และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

    อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๙ (๒) (๓) และมาตรา ๒๕ (๑) (๒)(๔) (๕) และมาตรา ๒๖ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. ๒๕๔๒ คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ จึงออกประกาศ ดังต่อไปนี้

 

Sponsored Ad

 

    ข้อ๑ ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเป็นระยะเวลาหนึ่งปีตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป เว้นแต่ข้อ ๓ วรรคสอง ให้ใช้บังคับจนถึงวันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓

    ข้อ ๒ ในประกาศฉบับนี้

 

Sponsored Ad

 

    “ต้นทุน” หมายความว่า

    (๑) ราคานำเข้า (CIF) รวมภาษีและอากรขาเข้า สำหรับหน้ากากอนามัยที่นำเข้าจากต่างประเทศหรือ

    (๒) ต้นทุนการผลิตของโรงงาน สำหรับหน้ากากอนามัยอื่นที่ผลิตภายในประเทศ

    หมวด ๑ การกำหนดราคาจำหน่าย

    ข้อ ๓ ให้ผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask) ที่ผลิตภายในประเทศจำหน่ายปลีกในราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) ไม่สูงกว่าชิ้นละ ๒.๕๐ บาท

    ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับการจำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask)ที่ไม่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของศูนย์บริหารจัดการสินค้าหน้ากากอนามัยของกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์

 

Sponsored Ad

 

    ข้อ ๔ ให้ผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask) ที่นำเข้าจากต่างประเทศหรือหน้ากากอนามัยอื่นที่นำเข้าจากต่างประเทศหรือที่ผลิตภายในประเทศ ยกเว้นหน้ากากอนามัยที่ผลิตจากผ้าและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ จำหน่ายในราคาไม่สูงกว่าราคาที่คำนวณจากวิธีการ ดังต่อไปนี้

    (๑) ราคาที่ผู้นำเข้าหรือผู้ผลิตจำหน่าย ให้คำนวณจากต้นทุน บวกค่าบริหารจัดการและค่าขนส่ง ค่าผลตอบแทนจากการขายและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้ไม่เกินร้อยละ ๑๐ ของต้นทุน

    (๒) ราคาที่ผู้จำหน่ายส่งจำหน่าย ให้คำนวณจากราคาตาม(๑) บวกค่าบริหารจัดการและค่าขนส่ง ค่าผลตอบแทนจากการขายและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้ไม่เกินร้อยละ ๑๐ ของราคาตาม (๑)

 

Sponsored Ad

 

    (๓) ราคาที่ผู้จำหน่ายปลีกจำหน่าย ให้คำนวณจากราคาตาม (๒) บวกค่ากระจายสินค้าค่าผลตอบแทนจากการขายและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้ไม่เกินร้อยละ ๒๓ ของราคาตาม (๒) ทั้งนี้ ราคาตาม (๑) (๒) และ (๓) ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

    หมวด ๒ การแจ้งข้อมูล

    ข้อ ๕ ให้ผู้นำเข้าหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask) ที่นำเข้าจากต่างประเทศหรือหน้ากากอนามัยอื่นที่นำเข้าจากต่างประเทศ ยกเว้นหน้ากากอนามัยที่ผลิตจากผ้าและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ แจ้งราคานำเข้า โดยให้แจ้งภายในวันที่มีการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ทุกครั้งให้ผู้ผลิตหน้ากากอนามัยอื่นที่ผลิตภายในประเทศ ยกเว้นหน้ากากอนามัยที่ผลิตจากผ้าและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ แจ้งต้นทุนการผลิตที่เป็นปัจจุบัน โดยให้แจ้งภายในวันที่ประกาศฉบับนี้ใช้บังคับ

Sponsored Ad

    ข้อ ๖ กรณีมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่ได้แจ้งไว้ตามข้อ ๕ ให้แจ้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้ทราบภายในวันที่มีการเปลี่ยนแปลง

    ข้อ ๗ การแจ้งตามข้อ ๕ หรือข้อ ๖ ให้แจ้งต่อเลขาธิการตามแบบที่เลขาธิการกำหนดณ สำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์การแจ้งตามวรรคหนึ่ง จะแจ้งโดยทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์(อีเมล) หรือทางโทรสารก็ได้ ในกรณีการแจ้งทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้ถือวันที่ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ได้เข้าสู่ระบบข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ กรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ เป็นวันแจ้ง ในกรณีที่แจ้งทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล) ให้ถือวันที่ได้รับจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล) เป็นวันแสดงเจตนาในการแจ้ง ในกรณีที่แจ้งทางโทรสารให้ถือวันที่ได้รับโทรสารเป็นวันแสดงเจตนาในการแจ้ง

    การแจ้งทางโทรสารหรือทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์(อีเมล) ตามวรรคสองจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อผู้ผลิต ผู้นำเข้า ได้ส่งต้นฉบับให้เลขาธิการแล้ว

    ให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ที่ประสงค์จะแจ้งทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ลงนามในบันทึกแสดงความตกลงในการแจ้งทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่เลขาธิการกำหนด

    ข้อ ๘ เมื่อผู้ผลิต ผู้นำเข้า ร้องขอต่อเลขาธิการ เพื่อขยายระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในประกาศฉบับนี้ หรือเมื่อเลขาธิการเห็นสมควร เลขาธิการอาจมีคำสั่งขยายระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ก่อนสิ้นระยะเวลานั้นได้ แต่การขยายระยะเวลาเช่นว่านี้ ให้พึงทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษหรือมีเหตุจำเป็น และผู้ผลิต ผู้นำเข้า ได้มีคำร้องขอหรือเลขาธิการได้มีคำสั่งก่อนสิ้นระยะเวลานั้นเว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย

    ประกาศณ วันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ


.

.

ข้อมูลและภาพ จาก www.ratchakitcha.soc.go.th , Kapook , มติชน

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ