เปิดโรงเรียนที่ "เจ้าชายฮิซาฮิโตะ" รัชทายาทอันดับที่ 2 ของจักรพรรดิญี่ปุ่น กำลังศึกษาอยู่ !

LIEKR:

เปิดโรงเรียนที่ "เจ้าชายฮิซาฮิโตะ" รัชทายาทอันดับที่ 2 ของจักรพรรดิญี่ปุ่น กำลังศึกษาอยู่ !

        ในช่วงนี้ เพื่อนๆน่าจะได้ดูข่าวที่โต๊ะเรียนของเจ้าชายฮิซาฮิโตะ พระโอรส (ลูกชาย) ของเจ้าชายอากิชิโนะ ซึ่งเป็นพระอนุชา (น้องชาย) ของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ จักรพรรดิองค์ปัจจุบันของญี่ปุ่น ถูกผู้ไม่ประสงค์ดีนำมีดสองเล่มมาวางไว้บนโต๊ะ ในช่วงที่เจ้าชายทรงออกไปทำกิจกรรมอยู่นอกห้องเรียน

        คนร้าย ถูกจับอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา โดยคนร้าย อายุ 56 ปี ให้การว่าปลอมตัวเป็นพนักงานซ่อมประปาเพื่อลักลอบเข้าไปในห้องเรียนของเจ้าชาย และนำมีดสองเล่มไปวางไว้ โดยในวันที่ 8 พฤษภาคม 2019 คนร้ายได้สารภาพว่า “ตั้งใจจะแทงเจ้าชาย เพราะไม่ชอบระบบราชวงศ์”

 

Sponsored Ad

 

        ที่เกิดเหตุโรงเรียนสาธิตชั้นมัธยมต้นของมหาวิทยาลัยโอฉะโนะมิสึ แต่วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักโรงเรียนสาธิตชั้นประถมศึกษาที่เจ้าชายเพิ่งจบการศึกษามาหมาดๆตอนเดือนมีนาคม โดยเราเคยมีโอกาสได้เข้าไปโรงเรียนนี้ 2 ครั้ง ตอนศึกษาแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยโอฉะโนะมิสึ จึงอยากแบ่งปันบรรยากาศโรงเรียนญี่ปุ่นให้ทุกคนได้รู้จักกัน

 

Sponsored Ad

 

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยโอฉะโนะมิสึ

        ก่อนอื่นขอพูดถึงตัวมหาวิทยาลัยกันก่อน มหาวิทยาลัยโอฉะโนะมิสึ (Ochanomizu University ชื่อย่อ: โอจะได) เป็นมหาวิทยาลัยหญิงล้วนชั้นนำของญี่ปุ่นที่มักจะถูกมองว่ามีแต่คุณหนูเข้าไปเรียน (ฮา แต่คนเขียนไม่ได้เป็นคุณหนูนะ) ตั้งอยู่ในโตเกียว แต่เห็นเป็นมหาวิทยาลัยหญิงล้วนแบบนี้ แต่ทาง ม.ได้ประกาศรับสมัครนักศึกษาข้ามเพศในปี 2020 แบบเริดๆ เรียกว่าเป็นมหาวิทยาลัยหญิงล้วนแห่งแรกในญี่ปุ่น ที่ประกาศซัพพอร์ต LGBT ในลักษณะนี้อย่างเป็นทางการ

 

Sponsored Ad

 

        และที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็มีโรงเรียนในสังกัดตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมปลายเลยล่ะ

โรงเรียนสาธิตของม.หญิงล้วน แต่ทำไมเจ้าชายถึงเข้าไปเรียน!?

 

Sponsored Ad

 

เจ้าชายตอนเข้าเรียนชั้น ป.1

        ถึงแม้จะเป็นโรงเรียนสาธิตของม.หญิงล้วน แต่ในชั้นอนุบาลไปจนถึงมัธยมต้นโรงเรียนจะเป็นระบบสหศึกษาค่ะ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเจ้าชายถึงเข้าไปเรียนได้

 

Sponsored Ad

 

เจ้าชายตอนจบชั้น ป.6

        โรงเรียนสาธิตเองก็มีความฮอตไม่แพ้มหาวิทยาลัย ด้วยความที่มีค่าเทอมที่ถูกแสนถูก บวกกับระบบการสอนที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี ทำให้ทุกปีมีจำนวนผู้สมัครเยอะมาก อย่างชั้นประถมนี่รับนักเรียนแค่ปีละ 50 คนเท่านั้น!! เรียกได้ว่าเป็นอีกโรงเรียนในญี่ปุ่นที่มีอัตราการแข่งขันในการสอบเข้าที่สูงมาก

        ด้วยความที่เป็นโรงเรียนที่มีค่าเทอมถูก เด็กๆจึงมาจากหลากหลายครอบครัว ไม่ใช่โรงเรียนที่มีแต่คุณหนูเข้าไปเรียนแบบในละครนะ

บรรยากาศในโรงเรียน

 

Sponsored Ad

 

        เรามีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมโรงเรียนสาธิตโอฉะโนะมิสึ ในปี 2016 และ 2017 จุดประสงค์คือเข้าไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับเด็กๆ ในวิชาพิเศษสำหรับนักศึกษาต่างชาติของมหาวิทยาลัย ระบบความปลอดภัยสำหรับเราคือเข้มงวดมาก นักศึกษาทุกคนไม่ได้รับอนุญาตให้พกโทรศัพท์เข้าไป (นี่คือเหตุผลที่ทำให้บทความนี้มีแต่รูปสมมติค่ะ…) เพื่อป้องกันปัญหาการละเมิดความเป็นส่วนตัวของเด็กๆ จริงๆข้อนี้อาจจะไม่ได้เป็นแค่ที่นี่ แต่เป็นทั้งประเทศเพราะญี่ปุ่นค่อนข้างซีเรียสเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว ใครไปเที่ยวญี่ปุ่น ก็พยายามอย่ายกกล้องถ่ายใครมั่วล่ะ

Sponsored Ad

        ไม่ใช่แค่โทรศัพท์ เพราะสัมภาระอื่นๆ เราก็ไม่อนุญาตให้นำเข้าไป ตอนแรกเราจะทำของฝากไปให้เด็กๆ แต่ทางโรงเรียนไม่ให้ทำ ด้วยเหตุผลที่ว่า “จะเกิดความไม่เท่าเทียมสำหรับคนที่ไม่ได้” ซึ่งเราก็เห็นด้วย นอกจากความปลอดภัยด้านร่างกายแล้วยังมองไปถึงเรื่องจิตใจด้วยแฮะ

        ก่อนเข้าแน่นอนว่ามีการตรวจบัตรนักศึกษา ใครไม่มีต้องให้อาจารย์เขียนใบรับรองกันวุ่นวาย แอบกระซิบว่าไม่ใช่แค่โรงเรียน แต่เวลาเข้ามหาวิทยาลัยก็ต้องโชว์บัตรเช่นกัน ค่อนข้างแตกต่างจากมหาวิทยาลัยไทยพอสมควรเลย

        โรงเรียนกว้างมาก มีสนามขนาดใหญ่ให้เด็กๆได้วิ่งเล่น และเล่นกีฬา พอเข้ามาในตัวห้องเรียนก็ได้เจอเด็กๆ ป.5 มาต้อนรับ พอได้คุยก็สัมผัสได้ถึงความฉลาดและมีไหวพริบสมเป็นนักเรียนที่เรียนในโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงจริงๆ มีทั้งเด็กที่โตที่ต่างประเทศ เด็กที่มีความเป็นผู้นำอย่างเห็นได้ชัด ทุกคนไม่มีทีท่ากลัวคนต่างชาติ บางคนเข้ามาคุยเป็นภาษาอังกฤษก็มี เริดมากๆ

        โรงเรียนอนุบาลจนถึงมัธยมต้นส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นจะมีอาหารกลางวันที่โรงเรียนเตรียมไว้ให้ซึ่งเรียกว่า “คิวโชขุ (Kyuushoku – 給食)” ซึ่งเป็นอาหารกลางวันที่ทางโรงเรียนจัดเตรียมไว้ให้ เด็กๆแต่ละคนต้องผลัดกันเป็นผู้เตรียมภาชนะ และผู้เสิร์ฟอาหาร โดยอาหารในแต่ละวันจะสลับปรับเปลี่ยนไม่เหมือนกัน

        ความว้าวคือ มีตารางเขียนเกี่ยวกับส่วนผสม และคุณค่าทางโภชนา เกี่ยวกับอาหารแต่ละมื้อด้วย มีการบันทึกด้วยว่าเด็กคนไหนแพ้อาหารอะไรบ้าง อาหารที่เราได้กินคือข้าว แกงกะหรี่ ซุปมิโสะ ขนมปัง กล้วย และทุกมื้อจะมีสิ่งที่ขาดไม่ได้คือนมกล่อง เด็กที่นั่นเล่าให้ฟังว่าบางมื้อเป็นทงคัตสึด้วย (ตอนพูดหน้าน้องเป็นประกายมาก 555) อาหารหน้าตาดูธรรมดา แต่รสชาติอร่อยมาก

        อาหารสามารถเติมได้กี่ครั้งก็ได้ตามที่ใจต้องการ พอทานกันเสร็จแล้ว ทุกคนก็จะเอาภาชนะไปเก็บ แล้วเวรในวันนั้นก็จะเอาภาชนะไปให้คุณป้าภารโรงล้างอีกที เป็นวิธีที่หัดให้มีความรับผิดชอบตั้งแต่เด็กๆ

        ถึงจะเป็นโรงเรียนชั้นนำ แต่มื้อกลางวันก็เป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นธรรมดาที่มีสารอาหารครบถ้วน เด็กๆที่เป็นเวรจะออกมาในชุดแบบนี้ มีการเก็บผม และใส่ผ้าปิดปาก น่ารักอนามัยมากๆ

        จุดประสงค์ของบทความนี้ เราอยากให้ทุกคนได้สัมผัสกับโรงเรียนชั้นนำของญี่ปุ่น ว่ามีส่วนคล้าย หรือแตกต่างจากโรงเรียนไทยอย่างไร ส่วนข่าวของเจ้าชายฮิซาฮิโตะ ทีมงาน ANNGLE ก็ยังคงตามอย่างต่อเนื่อง ไม่ปล่อยให้เงียบซา เพราะถือเป็นข่าวที่น่ากลัว และอาจสร้างภาวะ Trauma (ภาวะช็อกยาวนาน หลังจากประสบเหตุการณ์ทำร้ายจิตใจ) ให้กับเจ้าชายและเพื่อนร่วมชั้นได้ ยังไงเราก็หวังว่าทางตำรวจญี่ปุ่นจะสามารถเคลียร์ปัญหาทั้งหมดได้อย่างเร็วที่สุดค่ะ

        อ่านบทความเพิ่มเติม : เจ้าชายน้อย "เจ้าชายฮิซาฮิโตะ" ทรงใช้ชีวิตตามปกติ หลังถูกมือดี เอามีดไปวางใต้โต๊ะนักเรียน!

ข้อมูลและภาพ จาก sanook

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ