"ซี ศิวัฒน์" เปิดใจทำไมถึงไม่มีทายาทสักที เล่าสิ่งที่เสียใจที่สุดในชีวิต จนกลายเป็นปมในใจ

LIEKR:

พอได้ฟังเหตุผลก็เข้าใจทั้งคู่เลยค่ะ

    เรียกได้ว่าเป็นคู่ที่น่ารักและครองคู่กันมาอย่างยาวนาน สำหรับซี-ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ และ เอมี่ กลิ่นประทุม โดยเมื่อไม่นานมานี้ หนุ่มซี-ศิวัฒน์ ก็ได้เปิดใจเป็นครั้งแรก ถึงเรื่องราวความผิดพลาดในอดีตระหว่างครอบครัว จนกลายเป็นปมที่ทำให้ต้องเสียน้ำตา 3 ครั้งในชีวิต และเปิดใจถึงสิ่งที่หลายคนอยากรู้ว่าทำไมคู่ของตนถึงไม่ยอมมีทายาทสักที ในรายการ WOODY FM

    ซี ศิวัฒน์ เผยว่า คู่ของตนเป็นทุกอย่างที่อยากให้เป็น ทั้งเพื่อน  ทั้งพี่ ทั้งสามี ทั้งเพื่อนสาว เป็นได้หมด บางทีก็ช่วยช้อปปิ้ง หลายคู่ที่ตอนคบกันใหม่ ๆ เราจะค่อนข้างหวาน แต่คู่เราไม่ใช่ ตอนคบกันใหม่ๆ คือ ดาร์กมาก ก็คนหัวดื้อทั้งคู่มาคบกัน เพราะฉะนั้นมันเป็นตัวของตัวเองมากซะจนมันจึงชัดมาก แย่มาก โหดมาก มีทุกอย่างจะทะเลาะกันรูปแบบไหน ยกเว้นลงไม้ลงมือแค่นั้นเอง

 

Sponsored Ad

 

    เมื่อถามว่า "ทำไมถึงยังไม่มีทายาท" ซี เปิดใจว่า เราตัดสินใจกันแล้วว่า "เราจะไม่มี" เป็นความจำยอมของทั้ง 2 ฝ่าย ตนเคารพภรรยามาก แม้ว่าเขาจะเลือกอะไรก็ตาม อาจจะมีความรู้สึกนิดหนึ่ง เพราะตนอยากมีลูกมากที่สุดในวันนี้ 

    ซี บอกอีกว่า ผมไม่ได้ต้องการอะไรเลยพี่วู้ดดี้ ผมอยากมีลูกมาก แต่ในเมื่อคนที่ผมรักที่สุดในโลกใบนี้เขาต้องการแบบนั้น ผมก็สามารถหาความสุขไปเวอื่นได้แล้ว เราสามารถมีความสุขในมุมอื่นได้ เมื่อใดก็ตามที่เราอยากจะรีแลกซ์ตัวเอง เราจะอยู่กัน 2 ผัวเมียเราก็มีความสุขได้

 

Sponsored Ad

 

    ที่ทำให้คบกันมานานหลายปี คือ ไม่มีไม่มีเคล็ดลับอะไรเลย แต่เป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน และยอมรับซึ่งกันและกันเสมอ มีอย่างเดียวเลยว่า ถ้าคุณรักกันอยู่คุณต้องอภัยให้กัน ถ้าเมื่อใดก็ตามที่คุณยังให้อภัยกันอยู่ คุณก็สามารถอยู่ด้วยกันได้ ผมว่าคนที่อยู่ด้วยกันยาวๆ มันไม่ใช่ว่าเรารักกันมากแค่ไหน วันนี้คุณยังอภัยให้กันอยู่หรือเปล่าแค่นั้นเองไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องน้อย ถ้าคำว่าให้อภัยของคุณหมดลงแล้ว สิ่งที่ตามมามันก็จะเต็มไปด้วยอคติ จริงๆ

    ส่วนเรื่องที่ทำให้ "ซี ศิวัฒน์" เสียใจจนถึงขั้นร้องไห้ออกมา เพราะในชีวิตร้องไห้นับครั้งได้ มีเพียงแค่ 3 ครั้ง ครั้งแรกที่ร้องไห้คือคุณพ่อเสีย ตอนนั้นอายุ 18 ร้องไห้จริงๆ ก็ตอนสุดท้ายที่ส่งคุณพ่อจะเผาแล้ว ครั้งที่ 2 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักของผม ที่มันไม่สามารถบอกใครได้ในขณะนั้น ซึ่งไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวผมเอง ผมจำได้ว่าผมทำอะไรไม่ถูกขับรถไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองขับรถไปไหน ในขณะที่เราต้องการใครสักคนหนึ่งมาอยู่ข้างๆ อยู่ๆ ก็มีโทรศัทพ์โทรเข้ามาหาเป็นเบอร์ที่ผมคุ้นเคย แต่เป็นเบอร์ที่ผมไม่เคยนึกถึงเลย ซึ่งเบอร์โทรศัพท์นั้นก็คือเบอร์คุณแม่ผม 

 

Sponsored Ad

 

    ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคุณแม่มันคล้าย ๆ เหมือนรถไฟเหาะ ขึ้น ๆ ลง ๆ คือสมัยตอนเด็ก ๆ ผมค่อนข้างมีปมในชีวิต ผมค่อนข้างที่จะเกเรมากตอนเด็ก ๆ พี่น้องผมเป็นเด็กเรียนดีทุกคน แต่ผมเรียนแย่มาก อะไรที่เรามองว่าไม่ใช่ปุ๊บไม่เอาเลย ก็เลยจะออกแนวเป็นแกะดำในบ้าน แล้วผมก็จะถูกเปรียบเทียบอยู่เสมอกับพี่ชาย จนมันเก็บไว้ แต่เรารู้ว่าตัวเรามีค่าพอ เราดีกว่านี้นะ

    แล้ววันนั้นเขาโทรมาว่าฮัลโหลน้องซีทำอะไรอยู่ลูก ผมในตอนนั้นคือแย่มาก ยังไม่ทันได้พูดอะไร แล้วคุณแม่ผมคงจับอะไรบางอย่างได้ ท่านก็ถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่าลูก มีอะไรไหม ในโมเม้นต์นั้นนะครับพี่วู้ดดี้ ผมไม่สามารถพูดอะไรได้เลย มันพูดไม่ออก ผมพูดเสียงสั่น ๆ ว่าหม่าม๊าเดี๋ยวขับรถก่อน เดี๋ยวโทรกลับหลังจากวางโทรศัทพ์ผมร้องไห้หนักมาก ถามว่าทำไมร้องไห้หนักขนาดนั้นเพราะความรู้สึกมันมาหลายอย่าง ทั้งเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรา และเสียใจกับสิ่งที่เราทำกับแม่เอาไว้ 

 

Sponsored Ad

 

    ในขณะที่เราต้องการใครก็ได้สักคนหนึ่งแต่คนแรกที่โทรมากลับเป็นคนสุดท้ายที่เราคิดถึง จึงย้อนกลับไปในเหตุการณ์ว่าตลอดเวลาที่เราใช้ชีวิตมาเราทำอะไรอยู่ ทำไมเราถึงเป็นแบบนี้ ทำไมถึงสร้างปมในชีวิตตัวเอง สร้างกำแพงขึ้นมาแบ่งกั้นระหว่างแม่ตัวเองกับตัวเรา ทั้งๆ ที่คนๆ นี้คือคนที่ให้เรา มีความสุขกับโลกใบนี้อะไรก็ตาม ถ้าไม่มีแม่เราคงไม่มีโอกาสเจอสิ่งเหล่านี้แน่นอน แต่เรากลับไม่เห็นคุณค่าเขาเลย ผมเคยคิดว่าผมจะหาเงินให้ได้ 300 ล้าน โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเอาเงินนี้ไปทำอะไร แล้วผมคิดว่าการให้เงินแม่ผมมันคือที่สุดของความเป็นลูกแล้ว จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่เลย คุณแม่ผมไม่เคยต้องการเงินจากผม เขาต้องการผม แต่ผมไม่เคยอยู่ในโมเม้นต์นั้นให้เขาเลย

 

Sponsored Ad

 

    นับตั้งแต่วันนั้นผมก็พบทางสว่างของชีวิต ว่าความฝันเป้าหมายที่สร้างไว้พุ่งชนกับมัน ผมดีใจ แต่ผมไม่เคยมีความสุขกับมันเลย เพราะผมทำมันเพื่อตัวเอง ไม่ได้ใช้ลมหายใจนี้เพื่อคนที่ผมรักหรือคนที่เขารักผมเลย ต่อให้มีชื่อเสียง มีเงินมากมายแต่สุดท้ายคนที่เรารัก เขาไม่อยู่กับเรา มันไม่มีความหมายเลยแม้แต่นิดเดียว 

    ที่ผ่านมาเราใช้ชีวิตผิดมาโดยตลอดเลย ผมเลยกลับบ้านคืนนั้นเลย ผมตั้งปณิธานว่าจะต้องกราบเท้าคุณแม่ผมให้ได้ ผมก็บอกแม่ว่าหลังจากนี้เป็นต้นไป น้องซีจะทำให้หม่าม๊ามีความสุขที่สุดเท่าที่น้องซีจะทำได้ ลูกคนเดิมมันได้ตายไปแล้ว นี่คือเป็นลูกคนใหม่ หลังจากนี้น้องซีจะบวชให้หม่าม๊านะครับ แม่ผมก็ร้องไห้ แล้วผมก็ได้มีโอกาสบวชให้แม่ หลังจากบวชประมาณปีครึ่งคุณแม่ผมก็เสีย ตอนที่แม่ผมเสียก็เป็นครั้งที่ 3 ในชีวิตที่ผมร้องไห้

 

Sponsored Ad

 

    วันนี้เรามีความฝันได้ เราดูแลฝันเราได้ แต่เราก็สามารถดูแลคนที่เรารักได้เช่นเดียวกัน สิ่งที่ผมทำ ผมดูแลความฝันผม สุจริตต่อความฝันผม และเซ็ตมันเป็นเป้าหมาย แต่ผมลืมที่จะใช้ลมหายใจนี้เพื่อคนที่เรารัก มันจึงทำให้ผมไม่มีความสุขเลย ผมจะมีชื่อเสียงมีเงินทอง ผมภูมิใจกับมัน แต่ผมไม่ได้มีความสุขกับมัน เพราะวันนี้ผมไม่มีแม่ไม่มีพ่อให้ร่วมยินดีกับผมแล้ว ทุกครั้งที่เป็นวันพ่อ วันแม่ เป็นวันที่ผมไม่มีความสุขที่สุด 

    แม้ว่าวันนี้ผมอภัยให้กับตัวเองแล้วก็ตาม แต่มันก็จะเป็นโมเม้นต์ที่เราทำทุกวันนี้เพราะอยากให้เขาภาคภูมิใจ ให้เขาเห็นว่าพ่อและแม่เลี้ยงผมได้ดีที่สุดในโลก แม้ว่าผมจะเกเรยังไงก็ตาม ผมอยากได้สิ่งไหนผมก็ได้เสมอ ฉะนั้นมันเป็นความรู้สึกที่ยังกรุ่นในใจผมเสมอ แต่ในวันนี้ผมข้ามสิ่งเหล่านั้นมาได้แล้วนะครับ ท่านคงอยู่ที่ไหนสักแห่ง และเชื่อว่าท่านจะภูมิใจในตัวผม ในสิ่งที่ผมเป็น ผมอยากจะบอกทุกคนเลยในวันนี้ ใครก็ตามที่ยังมีคุณพ่อคุณแม่อยู่แม้วันนี้เราอาจจะไม่ได้ร่ำรวยกว่าใคร อาจไม่ได้มีทุกสิ่งทุกอย่าง ขอให้มีข้าวปลาทู 1 จาน แต่ทุกคนนั่งกินพร้อมหน้าพร้อมตาได้เห็นรอยยิ้มซึ่งกันและกัน ความสุขอยู่รอบกายเราครับ แค่นั้นมันก็มีความสุขแล้ว

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

ที่มา : WOODYFM

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ