เปิดใจครั้งแรก "พั้นช์ วรกาญจน์" เล่าสาเหตุแยกทาง ตัดสินใจจบชีวิตคู่ 4 ปี วันหนึ่งรู้สึกว่าสามีไม่เหมือนเดิม

LIEKR:

เปิดใจครั้งแรก "พั้นช์ วรกาญจน์" เล่าสาเหตุแยกทาง ตัดสินใจจบชีวิตคู่ 4 ปี วันหนึ่งรู้สึกว่าสามีไม่เหมือนเดิม

    สำหรับ พั้นช์ วรกาญจน์ เป็นอีกหนึ่งสาวที่เก่งและมีความสามารถรอบด้าน ที่ล่าสุด ได้ออกมาเผยว่า ได้ตัดสินใจจบชีวิตคุณกับสามีแล้ว ทำเอาเหล่าแฟนคลับถึงกับตกใจในเรื่องราวที่เกิดขึ้น

    อ่านข่าวก่อนหน้านี้ : "พั้นช์ วรกาญจน์" เปิดใจ ยอมรับแยกทางกับสามีนักธุรกิจจริงๆแล้ว ตัดสินใจเป็นเพื่อนกัน หลังเคยมีข่าวแยกกันอยู่

 

Sponsored Ad

 

    สาวพั้นช์ ได้มาเปิดเรื่องราวในชีวิตแบบทุกซอกทุกมุมเพราะอุ่นใจที่ได้มานั่งคุยมานั่งเล่าที่นี่เป็นที่แรกแบบหมดเปลือก ถึงจะดังแค่ไหนแต่ พั้นช์ ก็ยังติดดินเสมอ บ้านที่อยู่รถใหญ่เข้าไม่ได้ เข้าได้แต่รถมอเตอร์ไซค์

 

Sponsored Ad

 

    หากถามว่า พั้นช์ วรกาญจน์ ความรักครั้งแรกเกิดขึ้นที่ไหน เธอได้ตอบว่า Puppy love ครั้งแรก ในโรงเรียนเราจะไม่มีแฟนในโรงเรียนเลยเราจะไปเจอรุ่นพี่ข้างนอก ถามว่านั่นถือว่าเป็นรักแรกไหม ก็คงใช่แต่ว่าเราก็ทำงานไปด้วยแล้วเราก็เรียนไปด้วยเราก็ขอถอยออกมา

    ตอนนั้นแค่รู้สึกว่าอยากทำงานใช่ไหมถึงได้เลิกกับแฟน ซึ่งเธอก็บอกว่า ตอนนั้นแค่รู้สึกเบื่อ แต่เขาก็ไม่โกรธอะไรเรา เขาก็ยังรอเราเสมอ

 

Sponsored Ad

 

    ที่ผ่านมา 8 ปีกับอดีตสามีไม่เคยทะเลาะจริงไหม เธอได้ตอบว่า พั้นช์ จะเป็นคนแบบว่าสบาย ๆ แบบจะไม่จู้จี้จุกจิก ไม่ตาม ตอนนั้นที่ขอเลิกกันเพราะว่าเราจับได้ว่าเขาแบบไปคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งก่อนจะแต่งงานประมาณครึ่งปีได้ ที่เรารู้เพราะว่ามันไม่เหมือนเดิมมันแปลก ๆ 

 

Sponsored Ad

 

    เธอยังบอกอีกว่า ตอนนั้นไปไหว้พระขอพระพิฆเนศว่าถ้าเขามีคนอื่นหรือว่าอะไรที่เปลี่ยนไปขอให้รู้ภายในสามวันเจ็ดวัน และเราก็ได้แต่งงานมา 4 ปี ซึ่ง พั้นช์ ก็เป็นคนพูดเอง บอกเลิกเอง ที่ตัดสินใจเลิก จุดหนึ่งที่เรารู้สึกว่ามีกับไม่มีมันรู้สึกไม่ต่างกัน

    หากถามว่ารู้สึกอินกับเพลงไหนบ้างที่เคยร้องมา เธอได้บอกว่า จะอินอยู่ช่วงหนึ่งเพลงของพี่ลุลา เรื่องที่ขอ คิดว่าทำไมมันโดนเราจังเลยเอาขึ้นไปร้องบนเวที แต่เรารู้สึกว่าทำไมแบบตอนนั้น ปัจจุบันที่เราเป็นอยู่เราอินมาก ทำไมเราร้องไม่ได้เพราะเวลาที่เราจะร้องเหมือนเราจะร้องไห้ด้วย ก็เลยยื่นให้เขาร้องเพราะตอนนั้นอินจริง ๆ

ที่มา : รายการ Club Friday Show

บทความที่คุณอาจสนใจ