แม่วัยใส ผู้ชายไม่รับผิดชอบ ผ่านจุดที่คิดทำ แ ท้ ง สู่การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวผู้เข้มแข็ง

LIEKR:

หาคู่ง่ายแค่ปลายนิ้ว แต่กลายเป็นจุดเปลี่ยนชีวิต“ มันต้องมีทางออกที่ดีกว่าการทำ แ ท้ ง ” - สิรินันท์ ศรีระดา คุณแม่ในวัย 17 ปี

    การท้องก่อนวัยอันควรยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมไทย หลายคนไม่ได้รับการยอมรับและเลือกจบปัญหาด้วยการทำ แ ท้ ง เช่นเดียวกับเธอคนนี้ที่เคยคิดทำ แ ท้ ง  ก่อนจะคิดได้ว่าการทำ แ ท้ ง ไม่ใช่ทางออกที่ดี สู่การเป็นแม่เลี้ยงเดียวผู้เข้มแข็ง เธอมีวิธีการและความคิดอย่างไร ตามไปดูกันค่ะ

    “สิรินันท์ ศรีระดา” หนึ่งในคุณแม่วัยใสที่ยอมเปิดเผยเรื่องราวความผิดพลาดในชีวิตให้กับทางเว็บไซต์ บีบีซีไทย โดยเธอได้เปิดเผยถึงสิ่งที่ทำให้เธอกลายเป็นแม่ในวัย 17 ปี ว่าต้องผ่านเรื่องราวอัน เ ล ว ร้ า ย อะไรมาบ้าง และเธอผ่านมันมาได้อย่างไร ท่ามกลางแรงกดดันมากมาย

 

Sponsored Ad

 

    “ทุกคนมีสิทธิจะได้รับโอกาสจากสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ อยู่ที่ตัวเราให้โอกาสตัวเอง สามารถปรับปรุงตัวเองได้อย่างไร ปรับปรุงตัวเองในสถานการณ์ไหน หรือว่า เราได้รับโอกาสมาแล้วเราจะใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์อย่างไร” สิรินันท์ เล่าให้เราฟัง

    คุณแม่วัยใสรายนี้ ปัจจุบันอายุ 20 ปี และอาศัยอยู่กับลูกชายวัย 1 ขวบ 8 เดือน ที่โรงเรียนมีชัยพัฒนาหรือที่รู้จักกันว่า “โรงเรียนไม้ไผ่” ใน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์

    การใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สงบเงียบท่ามกลางธรรมชาติที่โรงเรียนแห่งนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากความพลุกพล่านวุ่นวายของสังคมเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่นำพาความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่ชีวิตของเธอ

 

Sponsored Ad

 

    แม่และพ่อของสิรินันท์แยกทางกันตั้งแต่เธอยังเด็ก ทำให้เธอต้องมาอาศัยอยู่กับปู่และย่าที่ อ. เดชอุดม จ.อุบลราชธานี หลังจากเรียนจบชั้น ม.3 เธอตัดสินใจย้ายมาอยู่กับแม่ที่กรุงเทพฯ และเลือกเรียนต่อสายอาชีวะที่วิทยาลัยแห่งหนึ่ง

สู่สังคมใหม่ในเมืองหลวง

 

Sponsored Ad

 

    สังคมเมืองทำให้เธอมีอิสรภาพมากขึ้น พบเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ การเรียนที่วิทยาลัยก็ไปได้ดี ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีด้วยเกรดเฉลี่ย 3.6 และยังเป็นนักกิจกรรมอีกด้วย

    เป็นธรรมดาของชีวิตวัยรุ่นที่เพื่อนมีอิทธิพลต่อความคิด บวกกับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไปของวัยสาว ทำให้ช่วงหนึ่งเธอมุ่งความสนใจไปที่เรื่องความรักความสัมพันธ์และการมีแฟน

    แม้ว่าจะสนิทกับแม่ แต่เธอยอมรับว่าเรื่องของหัวใจและความสัมพันธ์แบบวัยรุ่นเป็นเรื่องไม่ง่ายที่จะเปิดใจ

    “ตอนแรกคุยกับเพื่อน ถามว่าทำไมจึงหาแฟนได้ง่ายจัง เพื่อนก็บอกว่ามีแอปพลิเคชันนี้นะ เพื่อนก็บอกให้ดาวน์โหลดมา ยังลังเลว่าจะโหลดดีไหม พอนาน ๆ ไปเพื่อนก็ไปกับแฟน ก็รู้สึกว่าเราเป็นส่วนเกิน ก็เลยโหลดแอปพลิเคชันนี้มา” เธอเล่าให้ฟังถึงที่มาของการค้นหาความรักในแบบยุค 4.0

 

Sponsored Ad

 

หาคู่ง่ายแค่ปลายนิ้ว แต่กลายเป็นจุดเปลี่ยนชีวิต

    ถามว่าแปลกไหมในเรื่องนี้ งานวิจัยของ YouGov ที่จัดทำขึ้นในเดือน ก.ย. 2560 ตอบคำถามนี้ว่าคนไทยมากถึง 4 ใน 10 เคยใช้แอปพลิเคชันหาคู่และครึ่งหนึ่งคือคนรุ่นใหม่

    สิรินันท์ ซึ่งขณะนั้นเรียนอยู่ชั้น ปวช. ปี 2 คือหนึ่งในจำนวนนั้น เธอบอกว่า “เจอผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งในแอปฯ ก็เลยกดแอดเข้าไป เขาก็ทักทายมา ก็คุยกันปกติทั่วไป เหมือนเพิ่งรู้จักกัน คุยกันไปเรื่อย ๆ ประมาณ 2 เดือน ก็เลยนัดเจอกัน ก็มีเพศสัมพันธ์กันวันนั้นเลย”

 

Sponsored Ad

 

ความสัมพันธ์ดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง จนมาถึงวันที่เธอพบว่า ประจำเดือนขาด

“พอประจำเดือนไม่มา ก็เลยซื้อเครื่องตรวจครรภ์มาตรวจ พบว่าขึ้นสองขีดก็คือ ท้อง ตอนนั้นกลัว ใจสั่น สงสัยว่าทำไม ท้องได้ไง เพราะเรากิน ย า คุ ม โทรหาแฟน แฟนก็รับสาย เราบอกว่า เราท้อง เขาก็บอกว่า ใช่ลูกเราเหรอ วันนั้นเธอกิน ย า คุ ม นะ เธอท้องได้ไง ตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่รับผิดชอบอะไรเลย” เธอกล่าว

“ไม่อยากให้ใครรับรู้”

    สิรินันท์เลือกที่จะปกปิดเรื่องที่เธอตั้งครรภ์เป็นความลับ ขณะเดียวกันก็หาข้อมูลเรื่องการทำแท้งไปด้วย

 

Sponsored Ad

 

    “หนูพิมพ์ในเน็ตเลยว่า ‘ทำแท้ง’ มันก็มีข้อมูลขึ้นมาทั้งคลินิก มีทั้งตัวยาทำแท้ง คลินิกทำแท้ง หนูก็เลยโทรเข้าไปในคลินิก คลินิกเขาก็สัมภาษณ์ว่า อายุเท่าไหร่ อายุครรภ์เท่าไหร่ หนูก็ตอบไปว่า อาทิตย์กว่า ๆ ยังไม่ถึงเดือน เขาก็บอกว่าทำได้ แต่หนูอายุ 17 ปี ต้องให้ผู้ปกครองลงชื่อรับรอง ซึ่งตอนนั้นหนูปิดบังอยู่ว่าหนูท้อง หนูไม่อยากให้ใครรับรู้”

    ท่ามกลางความสับสน สิ่งหนึ่งที่หวนระลึกได้คือ ภาพตอนเด็ก ๆ ของเธอในต่างจังหวัดที่ปู่และย่าพาเข้าวัดทำบุญอย่างสม่ำเสมอพร้อมกันพร่ำสอนเรื่องบาปบุญคุณโทษ จึงทำให้เธอได้สติขึ้นมา

Sponsored Ad

    “เราจะบาปไหม ถ้าเราทำแท้ง แล้วถ้าเราทำแท้ง เราจะตก เ ลื อ ด ไหม เป็น อั น ต ร า ย กับเราไหม เราจะมีชีวิตยังไงต่อไป ก็เลยเปลี่ยนใจไม่ทำแล้ว คิดถึงคุณปู่คุณย่าที่สอนเราไว้ อันนี้เป็นบาป…บาปที่สุดแล้ว คือ ฆ่ า คน”

เมื่อทำแท้งไม่ใช่ทางออกที่ดี

    “มันต้องมีทางออกที่ดีกว่าการทำทำ แ ท้ ง เธอบอกตัวเองและเริ่มต้นค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง ครั้งนี้เธอเปลี่ยนคำค้นจากคำว่า “ทำ แ ท้ ง” เป็นการหาทางเลือกอื่น ๆ ของแม่วัยใส

    แล้วเธอก็ได้คำตอบที่น่าสนใจในหัวข้อการสนทนาในสังคมออนไลน์แห่งหนึ่ง

    “มีคนคอมเมนต์มาว่า ถ้าเรายังไม่พร้อมยังมีทางอื่นที่ดีกว่า มีบ้านพักฉุกเฉิน ก็ลองไปปรึกษาดูว่า เขาจะช่วยให้เรามีทางออกยังไง”

    สองเดือนแรกของการตั้งครรภ์เธอทำตัวเป็นปกติ ในขณะที่ท้องยังไม่โตมากนัก แต่จะหลบหนีความจริงไม่ได้เพื่อท้องเริ่มโตขึ้นเรื่อย ๆ จนเธอไม่กล้าไปฝึกงาน ทำให้ครูและเพื่อน ๆ ตามหา กลายเป็นแรงกดดันทำให้เธอต้องหาที่หลบภัยชั่วคราว ที่บ้านพักฉุกเฉิน ดอนเมือง

    เมื่อถามว่าทำไมต้องหนี เธอตอบว่า “ตอนที่อยู่วิทยาลัย หนูก็เป็นเด็กกิจกรรม คนก็ค่อนข้างที่จะรู้จัก ไม่อยากให้ใครรู้ ไม่อยากให้ใครประณามว่า เราท้องไม่มีพ่อ หรือว่า ท้องในวัยเรียน ก็เลยตัดสินใจพักการเรียนไปก่อน”

บ้านพักฉุกเฉิน ช่วยได้อย่างไร

    บ้านพักฉุกเฉิน เป็นกิจการภายใต้สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ให้การช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาต่าง ๆ โดยให้ที่พักระหว่างประสบปัญหา โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

    ใครบ้างที่สามารถเข้ามารับการช่วยเหลือ

    -ผู้ถูกกระทำความ รุ น แ ร ง

    -ผู้ถูก ข่ ม ขื น ล่ ว ง ล ะ เ มิ ด ท า ง เ พ ศ

    -กลุ่มท้องไม่พร้อม

    -ผู้ติด เ ชื้ อ H I V / A I D S

    -ผู้ที่ประสบปัญหาขัดแย้งภายในครอบครัว

    -ผู้ถูก ท อ ด ทิ้ ง ไร้ที่พักอาศัยและไม่มีงานทำ

ที่มา : สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ บ้านพักฉุกเฉิน ดอนเมือง

โอกาสใหม่ที่ได้รับ

    สิรินันท์ตัดสินใจขอรับความช่วยเหลือจากบ้านพักฉุกเฉิน โดยยังคงปิดเรื่องตั้งท้องเป็นความลับ ความช่วยเหลือจากทั้งบ้านพักฉุกเฉินที่เธอได้รับผ่านการรับฟังอย่างเข้าใจและไม่ตัดสิน ตลอดจนกิจกรรมอย่าง “ศิลปะบำบัด” ทำให้เธอมีกำลังใจเข้มแข็งขึ้น หลังจากนั้น เธอก็ได้รับโอกาสจากโรงเรียนมีชัยพัฒนา จ.บุรีรัมย์ ซึ่งให้ที่พักและที่ทำงาน พร้อมกับโอกาสในการเรียนต่อและเลี้ยงลูกไปด้วย

    เมื่อมีคนที่เข้าใจและคอยสนับสนุน สภาพจิตใจของเธอก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ จนกล้าที่จะก้าวออกมายอมรับความเป็นจริงและเปิดเผยเรื่องราวทุกอย่างให้คนในครอบครัวและเพื่อน ๆ รับรู้

    “เราอยู่แบบนี้ไม่ได้ ลูกเราต้องมีครอบครัว มีญาติพี่น้อง มีคนที่จะให้กำลังใจเรา หนูก็เลยโพสต์ลงในเฟสบุ๊กให้ภาพอธิบายเพราะการพูดมันยาก”

    เธออธิบายว่า ด้วยสภาพแวดล้อมในโรงเรียนมีชัยพัฒนา ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น อีกทั้งนักเรียนที่นี่ก็ยอมรับเธอและชื่นชอบลูกของเธอ

    “เขารู้ว่าเรามีลูก เราไม่ต้องปิดบัง เราสามารถพูดประสบการณ์ให้เขาฟัง สามารถเตือนเด็กนักเรียนได้” เธอกล่าวและย้ำว่า ทุกคนมีสิทธิจะได้รับโอกาสจากสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่

    เธอบอกว่า ทุกวันนี้ลูกคือแรงบันดาลใจให้เดินหน้าต่อ “เวลาเราได้มองลูก แล้วลูกมองเรา เขาจะยิ้มตลอด บางทีเขาก็จะเรียกแม่ เรารู้สึกตื้นตันใจ รักเขา ไม่อยากให้ใครมา ทำ ร้ า ย เขา”

    ปัจจุบันเธอกำลังศึกษาในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ที่วิทยาลัยชุมชนบุรีรัมย์ สาขาบัญชี ปีที่ 2 เธอตั้งใจว่าเมื่อเรียนจบแล้วก็จะมุ่งมั่นทำงานหาเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง สอนให้เขาเป็นคนดีและให้เขารับผิดชอบตัวเองให้ได้

    เรื่องราวของ สิรินันท์ เป็นหนึ่งในภาพสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมไทยว่าด้วย “คุณแม่วัยใส” แม้ว่าปัญหาดังกล่าวเริ่มมีแนวโน้มที่คลี่คลายเพิ่มมากขึ้น หลังจากมี พ.ร.บ. การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งทำให้คุณแม่วัยใสที่ยังเป็นนักเรียนได้รับการดูแล ช่วยเหลือ และคุ้มครองขณะตั้งครรภ์ นอกจากนี้ พ.ร.บ. ดังกล่าวยังเปิดโอกาสให้คุณแม่วัยใส ได้รับการศึกษาในรูปแบบที่เหมาะสม

    กฎหมายฉบับนี้ ยังกำหนดให้สถานศึกษาจะต้องให้ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องเพศวิถีศึกษา พร้อมกับให้คำปรึกษาเรื่องการป้องกันและการตั้งครรภ์อย่างเหมาะสมอีกด้วย

BBC

    นพ. บุญฤทธิ์ สุขรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัยบอกกับบีบีซีไทยว่า แม้ปัญหาท้องไม่พร้อมในวัยรุ่นจะมีแนวโน้มลดลง หลังจาก พ.ร.บ. ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ รวมทั้งกลุ่มผู้มีอิทธิพลในสื่อโซเชียลช่วยรณรงค์ให้วัยรุ่นเข้าใจปัญหามากขึ้น แต่การสนับสนุนคุณแม่วัยรุ่นในด้านการศึกษาและอาชีพยังไม่เพียงพอและไม่ครอบคลุม

    “มีคุณแม่วัยใสบางส่วนเท่านั้นที่ได้รับความช่วยเหลือ แม่วัยรุ่นบางคนต้องออกจากโรงเรียนและเป็นผู้รับผิดชอบหลักในเรื่องการเลี้ยงดูลูกเพียงผู้เดียว” นพ. บุญฤทธิ์กล่าว

    เขาเน้นย้ำเช่นกันว่า “การให้โอกาส” เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับคุณแม่วัยใส ขณะเดียวกันก็ต้องปลูกฝังจิตสำนึกความรับผิดชอบของฝ่ายชายให้มากขึ้นด้วย

ข้อมูลและภาพจาก khaosod, BBCไทย

บทความที่คุณอาจสนใจ