เผยคำพูดสุดแกร่ง "ติ๊ง" ภรรยา "ร็อคกี้" ในวันที่สามีชีวิตดิ่ง ถูกเพื่อนรักโกงหมดตัว

LIEKR:

ชาวเน็ตแห่ให้กำลังใจ "ร็อคกี้ สุรบดินทร์" ชื่นชมภรรยา "ติ๊ง นิลุบล" หัวใจสุดแกร่ง เผยโชคดีมากที่มีคนข้างกายดี มีภรรยาที่ดี

    เผยคำพูดของ "ติ๊ง นิลุบล" ภรรยาคนสวยของ "ร็อคกี้ สุรบดินทร์" ในวันที่สามีเจอมรสุมชีวิต คิดอยากลาโลก ชาวเน็ตแห่คอมเมนต์ให้กำลังใจ ชื่นชมภรรยาน่ารัก และเข้มแข็งมาก

    โดยในช่วงหนึ่งของรายการ คุยแซ่บShow ได้เชิญ "ติ๊ง นิลุบล" ขึ้นมาเปิดใจถึงสามีในวันที่เจอมรสุมชีวิต เผยรู้สึกผิดหวัง ในวันที่สามีเดินมาบอกว่าคิดอยากลาโลก 

 

Sponsored Ad

 


หนักไหมตอนช่วงที่คุณสามีผ่านเรื่องร้าย ๆ 

    ร็อคกี้ : แรก ๆ ผมว่าเขาไม่รู้หรอกเพราะผมเป็นคนไม่ค่อยบอกใคร

        ติ๊ง : แต่จริง ๆ สังเกตได้ อย่างที่พี่หนิงบอก กี้เขาจะเป็นคนสนุก แล้วเราก็สังเกตุเห็นอยู่แล้วว่า ที่เขาสนุกอยู่ มันต้องมีอะไรมาปิดไว้อยู่แน่ ๆ เลย 

    ร็อคกี้ : คือผมเป็นคนไม่ค่อยบอก ไม่ค่อยอยากให้เขามาคุยด้วย ถ้าผมไม่ได้ไปเปิดประเด็นก่อน

    ติ๊ง : ปกติเราจะเคารพเรื่องส่วนตัวของกันและกัน 


แล้วเราเริ่มรู้ได้ตอนไหน

    ติ๊ง : จริง ๆ สังเกตจากอาการหลาย ๆ อย่าง เช่น อาจจะมีความสวิงในด้านอารมณ์อะไรบางอย่าง เอาแต่อยู่ในบ้าน ไม่อยากออกไปไหน ไม่อยากเจอใคร ปกติเขาเป็นสายเอนเตอร์เทน ต้องเจอเพื่อน หรือไม่ก็ต้องมีเพื่อนมาที่บ้าน ต้องไปคุยคนนั้น เจอคนนี้ 

 

Sponsored Ad

 

    ร็อคกี้ : งดรับแขก ไม่อยากเจอใคร ไม่อยากรับโทรศัพท์ 

    ติ๊ง : เขาไม่ไปไหนเลย ไม่เจอใครเลย และไม่คุยกับใครเลย แล้วก็อยู่แต่กับลูก

เราเริ่มเห็นแล้วเราเริ่มห่วงไหม 

 

Sponsored Ad

 

    ติ๊ง : จริง ๆ ห่วง ตอนนั้นคือในทางหลังบ้านเอง ติ๊งก็พยายามโทรหาเพื่อนเขา ไลน์หาเพื่อนเขาที่เรารู้จักว่า ชวนเขาออกไปกินข้าวหน่อย เพราะเรารู้สึกว่าอยากให้เขาไปเจอหรือเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เขาก็ไม่ไป แล้วก็เคยคุยกับเขา เราก็รู้ว่าเขากังวลเรื่องลูก หมายถึงว่า ห่วงจะต้องดูแลลูก เพราะปกติติ๊งออกไปทำงานด้วย

    ร็อคกี้ : ทุกวันนี้เสาหลักของบ้าน (ชี้ไปที่ภรรยา)

    ติ๊ง : เราก็พยายามหาคนดูแลมา หาพี่เลี้ยงมา อย่างน้อยเราก็จะได้บอกเขาว่า เธอ... เรื่องลูกไม่ต้องห่วงนะ เธอออกไปใช้ชีวิตเลย ไปใช้ชีวิตปกติอย่างที่เธออยากไป ไปเจอเพื่อน ไปทำงาน ไปทำอะไรซะ ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ เพราะว่าตอนนี้เรามีพี่เลี้ยงแล้ว พี่เลี้ยงโอเคไว้ใจได้ มีแม่เขามาช่วยดูอยู่ทุกวัน เพราะฉะนั้นกลับไปใช้ชีวิตตัวเองเถอะ อะไรที่กังวลอยู่ ถ้าเรื่องเงินไม่ต้องห่วง เพราะเราก็ทำงาน ถ้าเราลำบากเราจะมาบอก แต่ถ้าเราไม่พูดแสดงว่าเรายังโอเคอยู่ เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงอะไรเลย อยากให้เขาเป็นเขา เป็นเขาเหมือนเดิม

 

Sponsored Ad

 

    ร็อคกี้ : แต่ผมก็เป็นห่วงอยู่ดี จริง ๆ แล้วมันหนัก ความรับผิดชอบของผมมันเยอะมาก มันไม่ใช่ว่าอยู่ดี ๆ จะเที่ยวมาโยนความรับผิดชอบให้เขา แล้วผมก็เชื่อว่าถ้าเขามานั่งรับผิดชอบในสิ่งที่ผมรับผิดชอบจริง ๆ หนัก หนักแน่ ๆ 


ภรรยาพูดออกมาขนาดนี้ ตอนนั้นยังเหมือนเดิมไหม หรือดีขึ้น?

    ร็อคกี้ : เหมือนเดิมพี่ ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่อ่ะ มันอาจจะไม่ถึงขั้นอีโก้ แต่เรารู้สึกว่า นี่แหละมันคือสิ่งที่เราไม่อยากให้มันเกิดขึ้น 

    หนิง ปณิตา :  แต่กี้รู้รึเปล่าว่า บนความทุกข์ที่เกิดขึ้น ถ้ากี้ลองมองในมุมที่เป็นมุมบวก แล้วไม่มองมุมลบอย่างเดียว กี้จะได้รู้ว่าจริง ๆ แล้ว สิ่งที่หลายคน บนโลกใบนี้ อยากที่จะได้ แล้วมีหรืออาจจะไม่มีก็ได้ คืออะไรรู้ไหม

 

Sponsored Ad

 

    ร็อคกี้ : คืออะไรครับ 

    หนิง ปณิตา : คู่ชีวิตที่ดี ที่เขาอยู่กับเราในวันที่เราล้ม และคนรอบข้างที่ดี ๆ อีกหลายคนที่อยู่กับกี้ในวันที่กี้ล้ม คนบางคนในวันที่เขาล้ม เขาไม่ใครที่อยู่รอบข้างเขาเลย ฉะนั้นวันนี้ อันนี้มันไม่ใช่เป็นความกดดันนะกี้ ถ้ากี้รักพวกเขากี้ต้องแข็งแรงให้เร็ว ไม่มีใครไม่เกิดปัญหาในชีวิตหรอก แค่มันคนละเรื่อง เรื่องเล็กสำหรับคนนี้อาจจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเรา แต่ทุกคนบนโลกใบนี้ต่างก็มีปัญหา กี้ต้องคิดบวกเยอะ ๆ 

ถึงจุดหนึ่งในชีวิตที่คิดว่า 'ไม่ต้องอยู่บนโลกใบนี้ก็ได้' มันหนักขนาดนั้นเลยหรอ 

 

Sponsored Ad

 

    ร็อคกี้ : มันเกิดคนถาม ว่าโลกใบนี้ถ้ามันมีเรากับไม่มีเราแบบไหนมันดีกว่ากัน มันมีคำตอบให้ตัวเองไปแล้วด้วย ว่าโลกนี้ไม่มีเราดีกว่า แต่พอหันไปเห็นลูกก็เลยเกิดคำถามกลับมาว่าหรือเปล่าวะ เลยตัดเรื่องนั้นทิ้งไปก่อน เราหาทางอื่น ๆ ก่อน อันนั้นค่อยเป็นชอยส์หลัง ๆ ละกัน ตัดมันไปก่อน 


ทางด้าน หนิง ปณิตา ถาม ติ๊ง ว่ารู้ไหมว่ากี้เขามีความคิดแบบนี้

    ติ๊ง : รู้ค่ะ เพราะเขาพูด 

    ร็อคกี้ : ผมเลยพูดว่า ผมไม่อยากเป็นภาระให้ใครอ่ะ ถามลอย ๆ ไม่ได้ถามเขาแบบซีเรียสนะ ว่าถ้าเกิดไม่มีเรามันจะดีกว่ารึเปล่านะ เธอจะเหนื่อยน้อยกว่านี้รึเปล่านะ แต่จริง ๆ ข้างในเราไม่ได้ตั้งใจถามลอย ๆ หรอก 

Sponsored Ad

ตอนนั้นที่ได้ยินรู้สึกยังไง 

    ติ๊ง : จริง ๆ ก็เสียใจ เป็นความเสียใจและผิดหวัง 

    ร็อคกี้ : เขาว่าผมแรง ใช่ๆ เขาบอกว่า เขาผิดหวัง อย่าคิดแบบนั้น 

    ติ๊ง : ผิดหวังว่าทำไมเธอคิดแบบนี้ ทำไมถึงไม่สู้ กี้คนเดิมหายไปไหน คือเราก็พูดกับเขาว่า เอาจริงนะกี้ สิ่งที่กี้เจอที่กี้เป็น ถ้ากี้หันไปมองคนรอบ ๆ ทุกคนมีปัญหาหมด เราก็มี แต่แค่ว่าเรื่องที่เราเจอมันอาจจะไม่หนักเท่าเขา แล้วก็คนอื่น ๆ ข้างนอกบ้าน เขาก็อาจจะเจอเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ไม่เท่ากัน จริง ๆ กี้มีคนรอบตัวอีกเยอะมากที่เขายังรักและหวังดี ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวเขา หรือเรา หรือลูก

    ถามว่าไม่มีเขาอยู่ เราอยู่ได้ไหม เราอยู่ได้นะ จริง ๆ เราอยู่ได้ ติ๊งว่าติ๊งอยู่ได้ แต่ว่ามีเขาอยู่มันดีกว่าอยู่แล้ว มันดีกว่าอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมันไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะไม่อยู่ เขายังมีต้นทุนชีวิตหลายอย่าง ที่เขายังมีโอกาสมากกว่าคนอื่น ขาดอย่างเดียวคือเรื่องใจ แต่เราก็รู้แหละว่าใจเขาบาดเจ็บขนาดไหน เพราะฉะนั้นสิ่งที่อยากช่วยเขา คืออยากให้เขาแข็งแรงขึ้น ให้ขึ้นฮึดขึ้น ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็แล้วแต่ เพราะฉะนั้นส่วนไหนที่เราซัพพอร์ตได้เราก็อยากช่วยซัพพอร์ต พยายามบอกเขาว่าอะไรที่กังวลอยู่ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องห่วง เราจัดการได้เราก็จะจัดการให้ เพราะฉะนั้นพยายามใช้ชีวิต ดูแลตัวเองให้ดี ให้กลับมาเร็ว ๆ 


สิ่งที่ทำให้อยู่ต่อได้ ?

    ร็อคกี้ : ส่วนหนึ่งคือลูกเลยครับ เพราะเขาค่อนข้างติดผม คือตอนนั้นที่มีปัญหาเรื่องบริษัทธุรกิจแล้วมาเจอเรื่องนี้อีกคืออย่างที่บอกแทบจะสลับหน้าที่กันเลย

    ด้านชาวเน็ตได้เข้ามาให้กำลังใจจำนวนมากและชื่นชมในความน่ารักและความสตรองของคุณติ๊งโชคดีมากที่มีคนข้างกายดี

ที่มา : คุยแซ่บShow

บทความที่คุณอาจสนใจ