เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2561 มีสมาชิกเฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า “ศร บ้านสร้าง” ได้ออกมาโพสเรื่องราว ของคุณตาวัย73ปีที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคไตแทรกซ้อน หลาน 2 คน ต้องขาดเรียนผลัดกันดูแล 

        และที่สำคัญกว่านั้นบ้านที่พวกอาศัยอยู่นั้นกำลังจะถูกยึด อีกทั้งมีความเป็นอยู่ที่ยากจนมาก โดยสมาชิกท่านนี้ได้ระบุข้อความว่า…ชีวิตรันทด!ตาป่วยโรคร้ายอยู่กับ3หลานชาย สุดเศร้าบ้านจะถูกยึดวอนช่วยเหลือ

        ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ดังกล่าว พบตาสวัสดิ์ ห้อยระย้า อายุ 73 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ดังกล่าว นั่งอยู่บนที่นอนเก่าๆ หน้าตาและตัวบวมจากอาการโรคไตแทรกซ้อนที่เป็นอยู่ มีหลานชายชื่อ ด.ช.วัฒธกร เภริวงษ์ หรือน้องซี อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนวัดข่อย คอยดูแลเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้

        นางลำจวน นิชเปี่ยม คุณครูโรงเรียนวัดข่อย ต.หัวไผ่ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ซึ่งเป็นคุณครูของ ด.ช.วัฒธกร หลานชายของตาสวัสดิ์ เล่าว่า เดิมครอบครัวของ คุณตาสวัสดิ์ มีฐานะดีกว่านี้ สมาชิกอยู่ด้วยกัน 7 คน ซึ่งประกอบไปด้วย ตาสวัสดิ์ และภรรยา พ่อแม่และลูก 3 คน คือนายณัฐวุฒิ เภริวงษ์ อายุ 21 ปี พี่ชายคนโตซึ่งคอยดูแลน้องๆ แต่ตอนนี้ไปเป็นทหารเกณฑ์อยู่ที่ จ.ลพบุรี นายณัฐวัฒิ เภริวงษ์ อายุ 16 ปี เรียนอยู่ชั้น ปวช.ปี 1 และด.ช.วัฒธกร เภริวงษ์ หรือน้องซี

        เด็กๆบ้านนี้นิสัยดีกันหมด ที่น่ารักคือทุกคนรู้จักการพอเพียงและมีความเกรงใจไม่ค่อยขอความช่วยเหลือจากใคร รับของจากคนอื่นเฉพาะที่ตัวเองขาดเท่านั้น และทุกคนรักตาจะคอยดูแลตาตัวเองเป็นอย่างดี จนเมื่อ 6 ปีที่แล้วแม่ของเด็กๆได้เสียชีวิต พ่อของเด็กได้แยกไปมีครอบครัวใหม่ ทิ้งลูกทั้ง 3 คนให้ตาสวัสดิ์และภรรยาเป็นคนเลี้ยงดู และไม่นานภรรยาของตาสวัสดิ์ได้เสียชีวิตลง

        ตาสวัสดิ์ ซึ่งเคยไปค้ำประกันรถยนต์ให้เพื่อนทำให้เกิดปัญหาทางคดีความ จนตอนนี้บ้านที่อยู่ก็กำลังจะถูกยึด ตาสวัสดิ์ ตอนนี้ซึ่งมีอายุมากแล้วได้ป่วยเป็นโรคไต มีอาการตัวจะบวม หายใจเหนื่อยหอบ ทำให้ไม่สามารถทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวได้ เด็กๆที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ 2 คนต้องผลัดกันหยุดเรียนเพื่ออยู่ดูแลตา บ้านที่กำลังจะโดนยึดตรงนี้น่าสงสารมากๆ ถ้าบ้านตาสวัสดิ์ โดนยึด เด็กๆและตาจะไปอยู่ที่ไหนกัน

        ทางโรงเรียนก็ได้แต่ช่วยเหลือเด็กๆ ในเรื่องการหาทุนการศึกษาให้ ช่วยเหลือด้านอาหารโดยในแต่ละวันจะตักอาหารใส่ถุงให้เด็กไปกินที่บ้าน อุปกรณ์การเรียน เสื้อผ้านักเรียน ทางโรงเรียนจัดให้ ขอแค่ให้เด็กมาโรงเรียนเท่านั้น ที่น่าปลื้มใจคือชุมชนรอบข้าง เช่น เจ้าหน้าที่จาก อบต.หัวไผ่, อสม., พระ แม่ชี ที่วัดข่อย และเจ้าหน้าที่ รพ.สต.หัวไผ่ มาคอยดูแล ในส่วนที่อยากฝากขอเมตตาจากผู้ใจบุญคือ อยากให้มีคนมาช่วยเหลือในเรื่องของบ้านของตาสวัสดิ์ ที่กำลังจะถูกยึดเพราะไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหนกัน

        ด้าน นางสุกัญญา ดุริยะหิรัญ อายุ 41 ปี พยาบาลวิชาชีพ จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหัวไผ่ (รพ.สต.หัวไผ่) เล่าว่า ตาสวัสดิ์ มีโรคประจำตัวคือเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และตอนนี้มีโรคไตแทรกซ้อนอยู่ ความลำบากคือตาเดินทางไปตรวจตามนัดที่โรงพยาบาล ต้องจ้างรถไป เงินก็ไม่ค่อยจะมี ตาสวัสดิ์ เลยขอมารับยาที่ รพ.สต.หัวไผ่ แทน

        อาการของตาสวัสดิ์ ที่จะกำเริบเป็นครั้งคราวคือจะมีอาการตัวบวมและเหนื่อยหอบ จากโรคไตที่กำเริบเพราะเกิดจากการรับประทานอาหารในแต่ละวัน เมื่อไม่มีอาหารกิน ตาสวัสดิ์ ก็จะให้หลานๆ กินไข่ต้ม ส่วนตัวเองเสียสละไม่กินไข่เอาน้ำปลามาขยำกับข้าวกิน ทำให้โรคไตกำเริบเป็นประจำ ทาง รพ.สต.หัวไผ่ ได้นำที่นอนที่คลุมด้วยพลาสติก ของ รพ.สต.หัวไผ่ มาให้เพื่อสะดวกในการอาบน้ำเช็ดตัวบนที่นอนเลย ในด้านการขาดแคลนที่อยากให้ผู้ใจบุญช่วยเหลือคือ อยากได้รับการบริจาคเตียงนอนที่สามารถปรับขึ้นลงได้

        สำหรับท่านผู้ใจบุญที่จะให้ความช่วยเหลือเด็กๆ และตาสวัสดิ์ สามารถติดต่อได้ที่บ้านเลขที่ 55 ม. 5 ต.หัวไผ่ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี หรือ โทรติดต่อ นางดาวรรค์ โฉมฉาย นักพัฒนาชุมชน อบต.หัวไผ่ เบอร์โทร 089-9042-3593 หรือธนาคารออมสิน สาขาสิงห์บุรี ชื่อบัญชี ด.ช.วัฒธกร เภริวงษ์ เลขที่บัญชี 020-2284-3581

จากโพสต์ต้นฉบับ

ข้อมูลและภาพ จาก secretbook / ศร บ้านสร้าง