ในไต้หวันทุกวันอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤษภาคมคือ “วันแม่” ก็จะมีหลายครอบครัวหรือสถาบัน แม้กระทั่งร้านค้าก็จะจัดกิจกรรมวันแม่ เตรียมของขวัญจองร้านอาหารเพื่อเฉลิมฉลองกัน และเลี้ยงตอบแทนพระคุณคุณแม่ที่ต้องเหนื่อยล้าและลำบากในการเลี้ยงดูลูกๆ

    สื่อต่างประเทศรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีเรื่องราวน่าประทับใจเกี่ยวซิงเกิ้ลมัมที่ชื่อ หวังซู่จู ปัจจุบันเธออายุ 60 ปีแล้วนอกเหนือจากที่เขาจะเลี้ยงลูกสาว 2 คนโดยลำพังแล้วและยังช่วยผู้เช่าบ้านชายเลี้ยงลูกชายให้อีก 2 คน โดยมอบรักให้เด็กทั้งสองเหมือนลูกแท้ๆ

    นางหวังซู่จูหย่ากับสามีตอนอายุได้ 28 ปี ต้องแบกภาระเลี้ยงลูกสาวทั้งสองคนเพียงลำพังด้วยตนเอง เธอทำงานเป็นช่างทำผม เธอต้องรับหน้าที่ 2 อย่างคือทำงานช่างทำผมและเป็นพี่เลี้ยงเลี้ยงลูกชายอีก 2 คนให้กับผู้เช่าตลอดหลายปี

    เธอเล่าว่าหลังจากที่ช่วยเป็นพี่เลี้ยงเลี้ยงลูกให้ผู้เช่า แต่หลังจากนั้น 2 ปีเขาก็หย่ากับภรรยาไป ในตอนนั้นเธอรู้สึกเห็นใจชายคนนี้เป็นอย่างมาก เพราะเด็กยังเล็กมากต้องการการเลี้ยงดูเอาใจใส่จึงอาสาช่วยเลี้ยงให้

    ชายผู้เช่าหลังหย่ากับภรรยาก็ไม่มีรายได้ที่มั่นคง ทำให้หวังซู่จูคำนึกถึงว่าชายผู้เช่าไม่มีรายได้คงไม่มีเงินมากพอที่จะเลี้ยงดูลูกทั้งสองคนได้ จึงอาสารับเลี้ยงเด็กทั้งสองคนก่อนสักระยะ ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจปิดร้านทำผมและตั้งหน้าตั้งตาเลี้ยงดูเด็กๆก่อน แม้ว่าเด็กทั้งสองคนจะไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของเธอ แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้น

    มีคืนวันหนึ่งขณะที่เธอกำลังจะเข้านอนพร้อมเด็กๆทั้ง 2 คน จู่ๆเด็กทั้งสองก็เกิดมีคำถามขึ้นมาว่า “ทำไมพ่อแม่เกิดเรามาแล้ว แต่กลับไม่ต้องการเรา?”  ในตอนนั้นนางหวังซู่จูกลั้นน้ำตาไม่อยู่ไหลอาบหน้า แต่ก็ฝืนใจแข็งตอบเด็กๆกลับไปว่า “พวกหนูคือนางฟ้าตัวน้อยๆของอาม่านะ พวกเธอจะไม่มีวันโดดเดี่ยว” ทำให้เด็กรู้สึกอบอุ่นใจและรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น

    ปัจจุบันผ่านไปแล้ว 13 ปี เด็กชายทั้งสองคนก็เติบโตมากขึ้นแล้ว ในวันนี้ซึ่งเป็นวันแม่ทางทางศูนย์ช่วยเหลือครอบครัวของเขตอี๋หลาน ไต้หวันจึงได้จัดงานวันแม่และได้มอบเกียติบัตรให้แก่นางหวังซู่จูเพื่อเป็นการขอบพระคุณที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจเลี้ยงดูเด็กชายทั้งสองคนได้รับความอบอุ่น เติบใหญ่แข็งแรง ร่าเริงแจ่มใส่

    ในงานวันนั้นเด็กๆทั้งสองคนก็มามอบเกียรติบัตรให้นางหวังซู่จูด้วยตนเองพร้อมทั้งโอบกอดด้วยความรักและขอบพระคุณอย่างยิ่ง

    เด็กชายคนนั้นกล่าวคำขอบคุณจากใจว่า “อาม่าผมรักอาม่า และผมจะเป็นเด็กที่กตัญญูรู้คุณ” ทำคนทั้งงานน้ำตาไหลและอาม่า(นางหวังซู่จู) เองก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เช่นกัน 13 ปีผ่านไปในที่สุดเธอก็ได้รับสิ่งตอบแทนแล้ว 

    เมื่อข่าวของเธอเผยแพร่ออกไปก็ทำให้มีผู้คนจำนวนมากต่างพากันสงสัยว่า ทำไมเธอจึงยอมสละงานเลี้ยงลูกให้คนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทนแบบนี้ ด้านนางหวังซู่จูก็เปิดเผยต่อสาธารณะชนว่า "(ฉันก็เป็นซิงเกิ้ลมัมมาก่อน ทำให้เข้าใจดีว่าการต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพังนั้นลำบากมากแค่ไหน และยิ่งเข้าใจความรู้สึกของเด็กที่ไม่มีครอบครัวสมบรูณ์ไม่มีแม่เคียงข้างนั้นลำบากแค่ไหน เด็กอาจจะเดินในทางที่ผิดได้ ความหวังสูงสุดในตอนนี้ก็คือ อยากให้เด็กทั้งสองเติบโตแข็งแรงเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต และหวังว่าอนาคตพวกเขาจะสามารถไล่ตามความฝันของตนเองได้อย่างกล้าหาญ" คำพูดของเธอทำคนทั้งหอประชุมน้ำตาไหลซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก 

ที่มา:omg4fun

แปลและเรียบเรียงโดย Liekr