เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า นาง Xu ชาวเมืองฉางซาพบว่าตัวเองตั้งท้องลูกคนที่สอง แต่เธอกลับไม่ดีใจ สาเหตุก็เพราะเมื่อ 2 วันก่อน เธอเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดเติมไขมันบริเวณใบหน้าเพื่อความงาม

        นาง Xu เล่าว่า เพื่อจะตั้งท้องลูกคนที่ 2 นี้ เธอกับสามีพยายามกันอย่างมาก แต่ก็ไม่สำเร็จสักที จนเมื่อวันที่ 7 เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว สงสัยว่าอาจจะตั้งครรภ์จึงไปตรวจที่โรงพยาบาล แล้วก็พบว่าตัวเองตั้งท้องได้ 40 กว่าวันแล้ว

        พอได้ยินข่าวนี้ นาง Xu ก็ใจวูบ เพราะเมื่อ 2 วันก่อน เธอเพิ่งไปผ่าตัดเสริมความงาม โดนฉีดยาชาจำนวนมาก แถมก่อนหน้านี้เธอยังทานยาจำนวนมากด้วย

        นาง Xu เล่าว่า เพราะว่าใบหน้าของเธอไม่อวบอิ่ม วันที่ 24 เดือนเมษายนเธอก็เลยไปที่โรงพยาบาลเพื่อขอคำปรึกษา คุณหมอก็เลยแนะนำให้ดูดไขมันที่ต้นขามาเติมใบหน้า แต่ต้องมีการฉีดยาชา ซึ่งนาง Xu ก็ยอมรับได้

        ที่เธอโกรธวันนี้ก็เพราะก่อนเข้ารับการผ่าตัด โรงพยาบาลทำการตรวจร่างกายสองครั้งในวันที่ 24 เมษายน และอีกครั้งหนึ่งวันก่อนการผ่าตัดวันที่ 4 พฤษภาคม และไม่พบการตั้งครรภ์ของเธอ แต่เมื่อสอบถามอีกครั้ง โรงพยาบาลถึงได้บอกเธอว่า ไม่ได้ตรวจการตั้งครรภ์

        นาง Xu เล่าว่าก่อนเข้ารับการผ่าตัด เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลไม่ได้พูดถึงผลตรวจการตั้งครรภ์ใดๆ แล้ววันผ่าตัด เธอถูกเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลถามว่ากำลังตั้งครรภ์หรือไม่ เนื่องจากตอนนั้นเธอไม่รู้ว่าตัวเองกำลังท้อง ก็เลยเซ็นต์ลงไป

        เธอสงสัยว่าทำไมโรงพยาบาลไม่ตรวจการตั้งครรภ์ให้คนไข้ ก็ฉีดยาชาให้คนไข้ ?

        นาง Xu พูดถึงว่าในการตรวจร่างกาย โรงพยาบาลได้เอาเลือดเธอไปตรวจตามปกติและตรวจการติดเชื้อ แต่ไม่ทดสอบการตั้งครรภ์เท่านั้น แถมหลังการตรวจสอบของนักข่าวพบว่า การตรวจสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลนั้นทำโดยโรงพยาบาลเอง ไม่มีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลบุคคลที่สาม นาง Xu ยังสงสัยถึงคุณสมบัติทางการแพทย์ของโรงพยาบาล จึงมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลออกมาโต้แย้ง

        สำหรับคำถามที่นักข่าวถามมากมาย ที่ปรึกษากฎหมายของโรงพยาบาลกล่าวว่า การตรวจสุขภาพทั้งหมดได้ดำเนินการตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และสถานการณ์ของนาง Xu คนไข้ต้องเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว

        เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของสำนักงานสาธารณสุขและสวัสดิการอำเภอได้เข้ามาร่วมในการสืบสวน เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายทำการสำรวจว่าการทดสอบการตั้งครรภ์ของโรงพยาบาลนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินการผ่าตัดเติมไขมันใบหน้าหรือไม่ และโรงพยาบาลมีคุณสมบัติทางการแพทย์หรือไม่ เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายกล่าวว่าหากโรงพยาบาลมีการละเมิดและมีความผิดพลาดจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย

        ที่ปรึกษากฎหมายของโรงพยาบาลกล่าวว่า นาง Xu ควรจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง ก่อนที่จะเข้ารับการผ่าตัด ควรจะไปตรวจสภาพร่างกายและการตั้งครรภ์เพื่อให้แน่ใจ สำหรับโรงพยาบาล แม้ว่าจะถามในบทสนทนากับนาง Xu ว่าตั้งท้องหรือไม่ แต่ก็ควรอ้างอิงรายงานทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แค่ถามลอยๆ ดังนั้นทั้งสองฝ่ายล้วนต้องรับผิดชอบ ขอแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายแก้ไขคดีผ่านช่องทางทางกฎหมาย

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR