2 พี่น้องทำมาทุกอาชีพ ก่อนสมัครเป็น "สาวยาคูลท์" ออมเงินทีละนิด ปลูกบ้าน 5 หลังได้

LIEKR:

"พี่ไม่เคยท้อเลยนะ พี่ไม่เบื่อเลย แม้เจอแดด ฝน เพราะอะไร ก็เพราะลูกค้ารอพี่อยู่" คุณแสงจันทร์กล่าว

        วันนี้ขอพาทุกคนไปรู้จักกับ "คุณแสงจันทร์ เกียรติเกื้อกูลชัย" สาวยาคูลท์วัย 49 ปี อีกหนึ่งตัวอย่างของความเพียรพยายาม ที่ใช้ความมานะบากบั่นสร้างครอบครัวจนลืมตาอ้าปากได้ 

        โดยคุณแสงจันทร์เป็นลูกสาวคนโตของบ้านจากทั้งหมด 5 คน โดยมีพ่อแม่ประกอบอาชีพรับประกอบตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศ แต่ระยะหลังครอบครัวมีปัญหาและต้องเลิกกิจการไป ส่วนตัวเธอเองสามารถเรียนจบชั้นอนุปริญญาบริหารธุรกิจ และหางานทำเป็นพนักงานในออฟฟิศแห่งหนึ่งได้ 4 ปี 

 

Sponsored Ad

 

        แต่ตอนนั้นดันเกิดพิษเศรษฐกิจทำให้บริษัทประกาศเลิกจ้าง จึงไปสมัครเป็นพนักงานควบคุมคุณภาพสินค้า (QC) ของโรงงานแห่งหนึ่ง กระทั่งได้พบกับแฟนหนุ่มในที่ทำงาน ตัดสินใจอยู่กินกันจนตั้งท้องลาออกกลับมาคลอดลูกที่บ้าน แต่ชีวิตกลับต้องเผชิญเหตุผลบางอย่าง ทำให้เธอกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว และเลี้ยงลูกจนอายุครบ 2 ขวบ

 

Sponsored Ad

 

        คุณแสงจันทร์เล่าต่อว่า วันหนึ่งเธอได้พบกับรุ่นพี่ที่รู้จักและเดินเข้ามาสอบถามว่า "มาทำงานด้วยกันไหมแสง" ในใจของเธอก็อยากจะมีรายได้ เพราะตกงานมานาน จึงกลับไปคิดสุดท้ายให้โอกาสตัวเองเข้าไปเรียนรู้งานผ่านการอบรม 20 วัน ทำให้มีความรู้เกี่ยวกับจุลินทรีย์ และตั้งใจแล้วว่าจะเป็น "สาวยาคูลท์"

        คุณแสงจันทร์ รับผิดชอบ 5 ตำบลในจ.นครปฐม ซึ่งกินพื้นที่กว้างมาก สำหรับสาวยาคูลท์มือใหม่ "แต่พี่ไม่เคยท้อเลยนะ พี่สนุกกับงานทุกวันตั้งแต่วันแรก เราได้คุยและทักทายลูกค้า ยื่นการมีสุขภาพี่ดีให้กับเขา พี่ไม่เบื่อเลย แม้เจอแดด ฝน เพราะอะไร ก็เพราะลูกค้ารอพี่อยู่" คุณแสงจันทร์กล่าว

 

Sponsored Ad

 

        ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ทำอาชีพนี้ เธอพยายามหาลูกค้ารายใหม่ทุกวัน เริ่มจากชวนคุย 5-10 นาที หากวันนี้ยังไม่มีใครเป็นลูกค้า เธอก็เพียงยิ้มตอบรับหวาน ๆ เพราะเธอเชื่อว่าวันข้างหน้าคนที่เธอพบเจอวันนี้อาจกลายเป็นลูกค้าของเธอในอนาคต ซึ่งก็มีหลายคนที่กลับมาเป็นลูกค้าของเธอจนถึงทุกวันนี้ เพราะว่าความเอาใจใส่ที่เธอคอยสานสัมพันธ์อยู่ตลอดเวลา แม้วันนี้รายได้ไม่มากมายอะไร แต่สิ่งที่ได้จากอาชีพสาวยาคูลท์ คือ ความสุขจากงานที่รัก และการส่งต่อความรู้ดี ๆ ให้กับลูกค้าทุกคน เงินที่หาได้เก็บออมทีละเล็กทั้งชีวิต จากนั้นนำมาสร้างบ้าน 5 หลังบนพื้นที่เดียวกันให้กับพี่น้องทั้งหมด 5 คนได้อยู่อาศัย ไม่ต้องไปเสียเงินเช่าบ้านอีกต่อไป โดยใช้เงินปลูกบ้านราว 1 ล้านบาท

 

Sponsored Ad

 

        "เร็ว ๆ นี้ พี่เพิ่งได้รางวัลผลงานดีเด่น ก็ยิ่งทำให้พี่รู้สึกภูมิใจ และขอบคุณตัวเองที่ทำงานสู้เพื่อลูกชาย ส่งจนจบ ปวส.ช่างไฟฟ้า ขอบคุณบริษัทฯ ที่ให้พี่มีงานทำ ให้ความมั่งคงในชีวิต และความอบอุ่นที่ได้จากลูกค้า" คุณแสงจันทร์กล่าวทิ้งท้าย

 

Sponsored Ad

 

        ส่วนสาวยาคูลท์อีกท่านหนึ่งคือ "แสงเดือน เกียรติเกื้อกูลชัย"  อายุ 45 ปี น้องคนที่ 4 ของบ้าน เรียนจบบัญชี ปวช.3 จากโรงเรียนเทคโนโลยีนครปฐม แต่ใจอยากเรียนต่อ จึงถามแม่ว่า "แม่...ถ้าแสงอยากเรียนต่อ พอจะมีเงินไหม" แม่ของเธอตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า "ไม่ค่อยมีลูก" เพราะขณะนั้นธุรกิจรับประกอบตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศของพ่อกับแม่ กำลังจะล้มละลายจากปัญหาสะสมของครอบครัว ก็เลยตัดสินใจไปทำงานกับพี่สาวคนกลาง (ลูกคนที่ 3 ของบ้าน) ในโรงงานแห่งหนึ่งฝ่ายผลิตชุดชั้นในยี่ห้อดัง แต่ด้วยใจอยากเรียนต่อจึงไปสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยบ้านสมเด็จเจ้าพระยา คณะศิลปศาสตร์ ภาคสมทบ ซึ่งเธอทำงานและเรียนไปได้สักระยะ กลับมีเหตุต้องให้ย้ายงานไปทำบริษัทน้ำอัดลมแบรนด์ดัง กลายเป็นอุปสรรคในเรื่องการเดินทางไปเรียนหนังสือ จึงต้องเลือกลาออกและเรียนไม่จบ

 

Sponsored Ad

 

        กระทั่งปี 38 เธอย้ายงานอีกครั้ง โดยแฟนหนุ่มไปเปิดบริษัทขายของใช้จิปาถะ โดยจะรับสินค้าจากบริษัทแม่ ประเทศจีน แต่ทำได้ราว 2 ปีกว่า ๆ กิจการกลับเจ๊งไม่เป็นท่า เพราะภาระหนี้สินหลักแสนที่แบกรับไม่ไหว เมื่อกลับมาอยู่ที่บ้านเช่า พี่สาวซึ่งทำอาชีพสาวยาคูลท์ โทรศัพท์มาชักชวนเธอให้ไปทำงานด้วยกัน แต่แสงเดือนปฏิเสธนับครั้งไม่ถ้วน แต่แล้ววันหนึ่งลองเชื่อใจพี่สาว ยื่นใบสมัครเข้าอบรมความรู้และลงพื้นที่เยี่ยมลูกค้าอย่างต่อเนื่องด้วยความรู้สึกตื่นเต้นในอาชีพใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นนับต่อจากนี้

Sponsored Ad

        ประกอบกับขณะนั้นเธอต้องเช่าบ้านอยู่ ส่วนสามีก็ทำงานขายเครื่องกรองน้ำ โดยทุก ๆ เช้า พ่อแม่ลูกก็จะขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายไปด้วยกัน ก่อนจะไปส่งลูกสาวถึงโรงเรียนเป็นคนแรก ส่วนสามีก็จะนั่งรอหน้าออฟฟิศจนถึง 9 โมงเช้า ซึ่งจะเป็นแบบนี้เสมอ ๆ

        "มันทำให้พี่แข็งแกร่ง เข้มแข็ง มีความสุขใจที่ได้เจอลูกค้า แลกเปลี่ยนความรู้ บางอย่างเราแนะนำได้ก็จะแนะนำ กลายเป็นความผูกพันเสมือนเราเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเขา ไม่คิดว่าลูกค้าจะให้ความสำคัญกับเรามากขนาดนี้ เพราะเราเป็นเพียงสาวยาคูลท์" คุณแสงเดือนกล่าว

        มีคนถามว่า "แสงเดือนทำไมเธอถึงยิ้มทั้งวัน" คุณแสงเดือนตอบอย่างมั่นใจว่า "มันคือการให้เกียรติลูกค้า แม้เราจะสนิทกันมาก แต่เราก็ยังต้องวางตัวให้เหมาะสม ไม่ละลาบละล้วงอะไรที่ไม่ใช่เรื่องของเรา เพราะเรายังอยู่ในฐานะสาวยาคูท์" 

        จังหวะชีวิตนำพาโรคมาสู่สามีของคุณแสงเดือน ในวัย 54 ปี ทำให้คุณแสงเดือนต้องกลายเป็นเสาหลักของบ้าน โชคดีที่บริษัทช่วยค่าเทอมลูกปีละ 3.4 หมื่น คุณแสงเดือนจึงใช้โอกาสนี้พยายามออมเงินและตัดสินใจร่วมกับพี่สาว สร้างบ้าน 5 หลัง ด้วยเงินกว่า 1 ล้านบาท เพื่อความเป็นอยู่ของพี่น้องทั้ง 5 คน จะได้มีบ้านเป็นหลักแหล่งเสียที

        ไม่เคยรู้สึกท้อแท้ แต่อาจจะเหนื่อยบ้าง เพราะเธอก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง แต่ไม่เคยเบื่อที่ทำอาชีพ "สาวยาคูลท์" เพราะเป็นอาชีพที่ฝึกฝนให้เธอพูดก่อนคิด และพูดอะไรไปต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเอง เพราะบางคนตีความหมายผิด และไม่พูดไปกระทบให้ใครเสียหาย คุณแสงเดือนกล่าวทิ้งท้าย

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก dailynews

บทความที่คุณอาจสนใจ