เฉินจื่อเชียน ดาราสาวนักแสดงละครหลังข่าวภาคค่ำของไต้หวัน หลังจากที่เข้าวงการบันเทิงแล้วก็ได้รับความนิยมจากผู้ชมมากมาย เนื่องจากบุคลิกที่น่ารัก อ่อนโยน หลังจากปลูกต้นรักกับนักแสดงชายที่สนิทสนมกันเนื่องจากได้ทำงานร่วมกันหลายเรื่อง สุดท้ายทั้งคู่ก็ตกลงแต่งงานและมีลูกชายด้วยกัน 

    สื่อต่างประเทศเปิดเผยว่า เธอไม่เพียงเป็นผู้หญิงร่างเล็กที่อ่อนโยนเท่านั้น แต่เธอยังเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งและสู้ชีวิตมาก เธอเปิดเผยชีวิตวัยเด็กกลางรายการว่า ที่จริงในวัยเด็กนั้นเธอถือได้ว่าเป็นลูกเศรษฐีเลยก็ว่าได้ ฐานะร่ำรวย พ่อเปิดสถาบันสอนสอนคอมพิวเตอร์ มีนักเรียนลูกศิษย์จำนวนมาก เพราะพวกเขาต้องการพัฒนาทักษะของตนเอง ทำให้ธุรกิจของพ่อค่อนข้างไปด้วยดีถึงดีมากที่สุดในตอนนั้น 

    แต่ทว่าพักหลังธุรกิจมีขู่แข่งมาก ทำให้พ่อจบธุรกิจนี้ลงพร้อมกับหนี้สินอีกกว่า 20 ล้าน เริ่มตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาครอบครัวก็ต้องเผชิญหน้ากับความลำบาก

    เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของที่บ้าน ตอนที่เธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย ทันทีที่เจอปัญหาเธอก็ตัดสินใจหยุดเรียนชั่วคราวเพื่อออกหางาน เริ่มทำงานพาร์ทไทม์ 2 แห่งเพื่อหาเงินช่วยพ่อชดใช้หนี้ โชคดีที่มีน้องชายและน้องสาวของพ่อมาช่วยเหลือเอาบ้านค้ำประกันให้จึงสามารถค่อยๆผ่อนชำระชดใช้หนี้จนหมด เธอเล่าว่าบางครั้งน้องสาวของพ่อก็ยังทำเป็นเดินเข้ามาในบ้านเพื่อทวงหนี้แล้วทำแบงค์1,000 บาทตกหล่น จากนั้นก็เดินจากไป นั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเธอก็ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะทำงานหาเงินแบ่งเบาภาระคนที่บ้าน

    พ่อเห็นเธอทำงานอย่างหนักมาโดยตลอดตั้งแต่อายุ 16 ปี มีอยู่วันหนึ่งพ่อจีงเรียก เฉินจื่อเชียนมาใกล้ๆแล้วพูดว่า “โตขึ้นลูกก็ต้องแต่งออกไปอยู่แล้ว ไม่ได้สืบทอดมรดก ทำไมต้องลำบากตนเองขนาดนี้” ทันทีที่เธอนำเรื่องไปปรึกษาหมอจิตแพทย์ก็ให้คำปรึกษาว่า “นี่เป็นเหมือนสัญญาณการ สั่ ง เ สี ย หรือสัญญาณขอความช่วยเหลือเลยนะ” ในตอนนั้นเธอเป็นห่วงพ่อมาก จึงพยายามทำงานและใส่ใจดูแลคนในครอบครัวไปด้วย เพื่อไม่อยากให้พ่อคิดแง่ลบทำ ร้ า ย ตนเอง

    สำหรับเรื่องของหนี้สินแล้ว ทำให้พ่อของเธอมองเห็นและเข้าใจถึงความจริงใจของคนรอบข้างมากขึ้นว่าใครดีกับเราใครคิดไม่ซื่อกับเรา โชคดีมากที่ตอนนี้ชดใช้หนี้จนหมดแล้ว ส่วนน้องสาวของพ่อก็มีท่าทีเปลี่ยนไปมาก กลายเป็นคนชอบทำบุญ มีจิตใจเมตตา ในวันขึ้นปีใหม่ก็จะมานั่งกินข้าวพร้อมหน้ากับครอบครัวเสมอ  แม้ว่าตอนนี้ยังมีอีก 6 ล้านที่ยังชดใช้ไม่หมด

    แต่เธอก็ยังอยากจะฝากคำหนึ่งถึงพ่อว่า “มากกว่าคำว่ารักพ่อ หนูอยากจะบอกว่าหนูจะอยู่เคียงข้างพ่อเสมอและตลอดไป” .... "ขอบคุณพ่อที่สร้างหนี้ในวันนั้น ทำให้หนูเข้าใจชีวิตและเข้มแข็งเดินมาได้จนถึงทุกวันนี้"

    คิดดูนะหากเป็นเราต้องมาชดใช้หนี้ 20 ล้านขณะที่อายุเพียง 16 ปีจะทุกข์ทรมานและลำบากแค่ไหนกันเชียว เธอช่างเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งจริงๆ ขอให้เธอสามารถชดใช้หนี้หมดภายในเร็ววันนะคะ

ที่มา:starfocus.

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR