LIEKR:
การที่คนสองคนมาใช้ชีวิตร่วมกันตลอดชีวิตจนแก่เฒ่ามันเป็นสิ่งที่ยากมาก คู่รักชาวอเมริกันคู่นี้ได้แต่งงานกันมาอย่างยาวนานถึง 73 ปีและทั้งคู่รักกันมาก ชีวิตที่สมบูรณ์แบบของคู่รักนี้ได้ทำเอาชาวเน็ตเกิดความอิจฉากันนับไม่ถ้วน และหลังจากได้อ่านเรื่องราวของพวกเขาแล้ว เชื่อว่ามันจะทำให้คุณรู้สึกประทับใจมากๆ แน่นอน
▼ในปี 1944 นายจอร์จ (คนที่สองโดยนับจากซ้าย) ได้พบกับรักแท้ที่เขาอยากจะอยู่ร่วมกันตลอดทั้งชีวิต
▼ความสดใสและมีเสน่ห์ของเชอร์ลี่ย์ ทำให้จอร์จตกหลุมรักเธอโดยทันที การพบกันครั้งนี้ทำให้จอร์จตัดสินใจว่าอยากจะใช้ชีวิตร่วมกับเธอ
Sponsored Ad
▼เมื่อสองคนได้พบกันเพียง 6 วัน จอร์จก็ตัดสินใจขอแต่งงานกับเชอร์ลี่ย์และปรากฏว่าเชอร์ลี่ย์ไม่ได้ปฏิเสธเขา
Sponsored Ad
▼แม้ว่าทั้งคู่ต่างมีคนที่ชอบอยู่เยอะในตอนนั้น แต่พวกเขากลับเลือกปล่อยคนที่อาจจะดีกว่าไป และมาแต่งงานกัน
▼หลังจากแต่งงานแล้วทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันมาอย่างยาวนานถึง 73 ปี
Sponsored Ad
▼ในช่วง 73 ปีที่ผ่านมา จอร์จได้จัดเตรียมงานพิเศษให้กับเชอร์รี่ เพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบแต่งงาน ซึ่งไม่เคยเกิดซ้ำมานานหลายปี
Sponsored Ad
▼ทั้งคู่รักกันมากๆ แม้กระทั่งลูกหลานก็ยังต้องรู้สึกประหลาดใจ
▼"บางทีแม่แค่ออกไปซื้อถุงเท้าคู่หนึ่ง พ่อก็จะตามไปเป็นเพื่อน ทั้งสองคนไม่เคยแยกกัน"
Sponsored Ad
▼และในวันเกิดของจอร์จทุกปี เชอร์รี่ก็จะทำเค้กพิเศษสำหรับเขา แต่เนื่องจากสุขภาพร่างกายของจอร์จแย่ลง พักหลังๆ นี้จึงไม่ค่อยได้กินแล้ว
▼เมื่ออายุมากขึ้นทุกปี ลูกหลานของทั้งคู่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และสุขภาพของทั้งคู่ก็ค่อยๆ แย่ลง
Sponsored Ad
▼ตอนเชอร์ลี่ย์อายุ 94 ปี เธอได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ มือของเธอมีอาการบวมจนออกสีม่วง หลังจากอาการนี้เพิ่งดีขึ้นนิดหน่อย โรคหัวใจวายก็ตามมาจนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลโดยด่วน ตลอดเวลาที่รับทำการผ่าตัด จอร์จคอยอยู่เคียงข้างเธอไม่ยอมห่าง หลังจากการผ่าตัดเสร็จสิ้น อาการของเธอก็ดีขึ้นมาหน่อย เขาได้จับมือของเธอไว้อย่างแน่นหนาและพูดทั้งน้ำตาว่า "ขอร้องอย่าทิ้งผมไป ถ้าไม่มีคุณผมอยู่ไม่ได้หรอก"
Sponsored Ad
▼หลังจากการป่วยครั้งนั้นมา ทั้งคู่เริ่มคิดถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นอย่างจริงจังว่า ถ้าคนหนึ่งจากไปแล้ว อีกคนหนึ่งจะอยู่ต่อยังไง
▼เมื่อจอร์จอายุ 95 ปี หัวใจเริ่มมีปัญหาและได้เข้าโรงพยาบาลหลายครั้ง เนื่องจากไม่อยากจะให้อีกคนใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวหลังจากที่คนใดคนหนึ่งจากไปก่อน ทั้งคู่จึงได้ทำการตัดสินใจที่สำคัญ
▼ในเวลานั้น แคนาดาเพิ่งมีกฎหมายใหม่ออกมาว่า การช่วยเหลือให้คนไข้ตายไปอย่างสงบถือเป็นเรื่องถูกกฎหมาย
▼หลังจากได้คุยกับลูกๆ หลายๆ ครั้ง ถึงแม้ว่าลูกๆ ของพวกเขาจะรู้สึกเศร้าใจ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะเคารพความคิดของพ่อแม่
▼ดังนั้นทั้งคู่จึงเรียกลูกหลานของพวกเขากลับมากินอาหารมื้อสุดท้ายและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วยกัน
▼ทั้งคู่ได้อำลาลูกกับหลานทีละคน และได้มอบความปรารถนาที่จริงใจที่สุดให้กับลูกหลานทุกคน
▼ก่อนที่จะจากไป ทั้งคู่ได้จูงมือเดินเข้าห้องด้วยกัน และพูดกับลูกหลานที่อยู่ข้างๆ ว่า "รักทุกคนนะ" จากนั้นแพทย์ก็ทำการฉีดยาให้ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือทั้งคู่ให้จากไปอย่างสงบ
ในความเป็นจริงความแก่ไม่ได้เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด แต่เป็นการจากไปของชีวิตคู่ต่างหาก ทั้งคู่เคยผ่านความทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วยมาเยอะ ในที่สุดก็เลือกจับมือกันและจบชีวิตด้วยกัน ก็ถือว่าเป็นวิถีแห่งความสุขและศักดิ์ศรีอีกแบบหนึ่งเช่นกัน
แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR