เปิดชีวิตรปภ.หนุ่มวัย 26 แม้โดนสารพัดคำคนดูถูก “ไอ้ขี้ข้า” จบกศน.ม.6 แต่ไม่เคยคิดแค้น เลือกเปลี่ยนเป็นพลังผลักดันสู่ฝันที่ยิ่งใหญ่ ออมเงินผ่อนบ้าน หาเลี้ยงแม่และน้องออทิสติกได้อย่างภาคภูมิใจ

        อีกหนึ่งอาชีพที่หลายคนเรียกพวกเขาว่า “รปภ.” หรือ เจ้าหน้ารักษาความปลอดภัย ที่คอยทำหน้าที่ดูแลรักษาความเรียบร้อย ตลอดจนอำนวยความสะดวกให้กับผู้มาติดต่อธุระต่าง ๆ แต่เหตุผลใดอาชีพนี้มักโดนดูถูกจากคนในสังคมด้วยกัน เพราะตำแหน่งของพวกเขาหรือ? ไม่ใช่เราหรือที่ควรจะขอบคุณพวกเขาด้วยซ้ำ แต่บางคนกลับเลือกดูถูกดูแคลนจิกหัวเรียกว่า “...ก็แค่ยาม”

        “ถุย...!! ไอ้ขี้ข้า Xxมันก็แค่ยาม มีตาหัดดูบ้าง บ้านXราคาเป็นล้าน รถXราคาเป็นแสน Xxจะมีปัญญาอะไร” เป็นคำดูถูกที่ผู้ชายชื่อว่า “นิวัฒน์ ศรศรี” หนุ่มรปภ. วัย 26 ปี จำได้ดีและไม่เคยลืมเหตุการณ์ในวันนั้น

        อาชีพ รปภ. ที่เขารักกลับทำให้ต้องเจ็บช้ำ กลายเป็นคำดูถูกที่ต้องพบเจอจากคำพูดที่ไม่ดีต่าง ๆ นานา แต่เขาก็พยายามอดทน และเก็บคำดูถูกเหล่านั้นเป็นแรงผลักดันให้กับชีวิต จนสารพัดคำดูถูกที่ผ่านเข้ามาก่อเป็นพลังด้านบวก ทำให้สามารถลุกขึ้นยืนด้วยตัวเองได้

        ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของการทำงานในตำแหน่งนี้ “นิวัฒน์” จากหนุ่ม กศน. จบเพียงชั้น ม.6 เลือกทำงานอาชีพ รปภ. ของคอนโดฯ มาหลายปี เพราะพ่อแม่แยกทางกัน แต่ภาระที่ต้องรับผิดชอบไม่สามารถปล่อยทิ้งไปได้ เงินเดือนประจำอยู่ที่ราว ๆ 8,000 บาท ถ้าขยันมากก็ได้เพิ่ม ซึ่งจะถูกแบ่งเป็นค่าเช่าห้องเล็ก ๆ ในชุมชนย่านพระราม 8 อีกส่วนเขาจะส่งให้แม่ที่ จ.นครราชสีมา เป็นค่าเลี้ยงดูน้องสาวอายุ 20 ปี ที่ป่วยเป็นโรคออทิสติกและโรคลมชัก ขณะที่พ่อก็มีอาชีพ รปภ. เช่นกัน

        ทุกๆ เช้ากิจวัตรของเขาจะต้องตื่นนอนตั้งแต่ตี 4 หุงข้าวห่อใส่ถุงไปกินที่ทำงาน หวังประหยัดค่าใช้จ่ายได้บ้าง โดยขับรถจักรยานยนต์ไปทำงานที่เขารัก ตกเย็นก็จะรีบกลับมาที่ห้องเช่าเล็ก ๆ จัดเตรียมเสื้อผ้าไว้ใส่ทำงานในวันรุ่งขึ้น

        จนวันหนึ่ง...ระหว่างที่ “นิวัฒน์” ประจำอยู่ที่ป้อมฯ มีรถยนต์คันหนึ่งขับมาจอดข้าง ๆ ป้อม แล้วตะโกนเสียงดังว่า...มันเป็นประโยคที่เขาเพิ่งจะบอกไปข้างต้น “...ผมจำมันได้ดี...แม้ผ่านมาหลายปีแล้ว ตอนนั้นผมก็ไม่ได้นึกว่าจะตอบกลับอะไร ได้แต่โค้งตัวลงพูดว่า...ครับ ๆ ผมจำคำพูดชายคนนั้นได้ แต่ผมใช้คำดูถูกเป็นแรงผลักดันตัวเองดีกว่า...สักวันเราต้องทำให้ได้”

        ถ้าเรามองหรือพูดถึงเรื่อง “คุณค่าของคน” เราใช้เกณฑ์อะไรเป็นตัววัด? ทรัพย์สิน เงินทอง ความร่ำรวย ความดี ความพยายามของชีวิต ฯลฯ จริง ๆ แล้วเป็นคำถามนี้มีคำตอบได้หลากหลายสารพัด แต่วันนี้ “นิวัฒน์” พิสูจน์ให้เห็นว่า...

        “ผมต้องขอบคุณผู้ชายคนนั้น ที่ทำให้ผมคิดได้จนมีวันนี้...เพราะคุณค่าของคนอยู่ที่เราทำตัว...”

        ด้วยใจที่คิดสู้แต่ไม่เคยคิดแค้นในคำพูดของผู้อื่นแม้แต่น้อย หน้าที่และใจที่รักในอาชีพ ผลิดอกออกผลลัพธ์เป็นเงินที่เขาพยายามอดออมไว้ทุกๆเดือน มุ่งทำหน้าที่และงานของตัวเองให้ดีที่สุด จนสามารถซื้อบ้านราคาหลักล้าน และซื้อรถกระบะด้วยน้ำพักน้ำแรงได้เป็นผลสำเร็จ แม้บ้านหลังนี้จะไม่ใหญ่โตอะไร และถึงเขาจะเป็นหนี้นับต่อจากนี้ แต่นี่คือชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งที่ต้องเติบโต และมันเป็นหนี้ก้อนที่เขาภาคภูมิใจ เพราะอาชีพ รปภ. ทำให้เขารู้สึกมีค่าและมีที่ยืนอยู่บนสังคมได้ในทุกวันนี้

        “ผมสร้างขึ้นมาด้วย 2 มือผม ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวผมเอง...ผมย่อมภูมิใจในเกียรติและอาชีพที่หล่อเลี้ยงครอบครัวผมและชีวิตผม...”

        นี่แหละชีวิตจริงอีกหนึ่งหนุ่มที่ทำอาชีพ รปภ. แม้เขาจะเจอคำพูดดูถูกต่าง ๆ นานา ถูกมองว่าอาชีพนั้นต่ำต้อยเพียงใด แต่หัวใจที่มีความพยายามตั้งมั่นจนสามารถมีวันนี้ได้ น่าจะเปลี่ยนความคิดของใครหลายคนเมื่อถามว่า...คุณมองคนที่ทำอาชีพ รปภ. เป็นอย่างไร? แล้วค่าของคนใช้อะไรตัดสิน?

.

        นอกจากนี้คุณค่าที่ซ้อนอยู่ในตัวของหนุ่มรปภ. สู้ชีวิตคนนี้ ยังถ่ายทอดออกมาในรูปแบบ “จิตอาสา” เมื่อเว้นว่างจากงานประจำ เวลานี้ “นิวัฒน์” ใช้วันหยุดออกเดินทางไปตามต่างจังหวัดทั่วประเทศ ในฐานะจิตอาสาช่วยเหลือสังคม โดยเป็นหนึ่งในทีมงาน “เมศ เจ้าชายน้อย” ที่มักจะลงพื้นที่ช่วยเหลือคนยากไร้ที่ต้องการความช่วยเหลือ

        “ฉะนั้นแล้วอาชีพอะไรก็ตามที่ไม่ใช่เป็นการทุจริต ก็อย่าไปดูถูกเขาเลย อย่าดูคนที่เปลือกนอก เราควรจะให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพราะเขาก็ต้องทำงานตามหน้าที่ ถ้าไม่ทำก็มีปัญหา ถ้าเรามีสติอยู่ครบก็ไม่สมควรไปดูถูกอาชีพใดๆ” ชายหนุ่มที่ชื่อ “นิวัฒน์” ทิ้งแง่คิดให้ได้ขบคิด

ข้อมูลและภาพจาก dailynews