นักศึกษาสาวประกาศตามหาหนุ่มที่นั่งข้างกันบนเครื่องบิน หลังเทคแคร์ดีจนตกหลุมรัก แต่ดันลืมขอชื่อ-ข้อมูลติดต่อ วอนสายการบินช่วย เพราะหยุดคิดถึงเขาไม่ได้

    เว็บไซต์เดลี่เมล เผยเรื่องราวที่กำลังถูกแชร์ต่อกันในโลกออนไลน์ เป็นเรื่องประทับใจของนักศึกษาสาวชาวฟิลิปปินส์ วัย 21 ปี ชื่อว่า โจไมกา อัลฟิเลอร์ ซึ่งอาศัยอยู่ที่เมืองซีแอตเทิล ในรัฐวอชิงตัน สหรัฐฯ ภายหลังจากเธอนั่งเครื่องบินเที่ยวหนึ่ง แล้วได้นั่งข้างกับชายหนุ่มแปลกหน้าใจดี ที่ทำให้เธอตกหลุมรัก เธอจดจำรายละเอียดของเขาทำได้ทุกอย่าง จนถึงกับหยุดคิดถึงเขาไม่ได้ สุดท้ายจึงตัดสินใจส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือจากทางสายการบิน

    โจไมกา นำเรื่องราวของเธอมาเผยแพร่ทางเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา เธอส่งข้อความไปหาสายการบินลุฟต์ฮันซา บอกว่า เธอได้นั่งเครื่องบิน เที่ยวบิน LH490 จากเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี มายังเมืองซีแอตเทิล สหรัฐฯ เธอนั่งที่นั่ง 43A ติดกับหน้าต่าง ข้างผู้ชายน่ารักคนหนึ่ง ที่นั่ง 43B ติดกับทางเดิน และเขาใจดีกับเธอมาก 

    ตามรายงาน โจไมกา เผยเรื่องราวว่า วันนั้นเธอไปขึ้นเครื่องสาย เพราะติดอยู่ที่ด่านตรวจ เธอขึ้นเครื่องเป็นคนสุดท้าย จากนั้นก็รีบเดินไปตามทางเดิน มองหาที่นั่ง แล้วก็เห็นเขานั่งอยู่ เธอและเขายิ้มให้กัน เขาอาสาช่วยยกกระเป๋าเก็บให้ ตอนแรกเธอยืนยันจะทำเอง แต่เพราะเตี้ยไปหน่อย สุดท้ายเขาก็ต้องให้เขาช่วย โดย 2-3 ชั่วโมงแรกเธอหลับ ส่วนเขาสั่งไก่เกาหลี และจินกับโทนิคมาดื่ม เธอและเขาไม่ได้คุยกันมาก แต่เขามีถามเธอว่า หนาวไหม ถ้าหนาวให้ห่มผ้าของเขาได้ นอกจากนั้นเขายังช่วยเธอปรับเบาะนั่ง แม้จะไม่สำเร็จแต่เธอก็รู้สึกซึ้งใจ 

    โจไมกา กล่าวถึงลักษณะของชายหนุ่มที่เธอหลงใหลว่า "เขาเป็นผู้ชายที่ดูดี สะอาด ผมสีดำสูงประมาณ 172-175 ซม. อายุราว 20 กว่า ๆ สวมรองเท้า Adidas NMD สีดำ สะพายเป้สีเทาเงิน สวมเสื้อเชิ้ตสีส้ม กางเกงยีนส์ บางทีเขาน่าจะเป็นนักศึกษา ฉันจำได้ว่าเขามีสำเนียงบริติช และเล่นโทรศัพท์ตลอด เขาน่าจะขี้อาย"  

    เธอและเขานั่งอยู่ข้างกันตลอด 10 ชั่วโมงของการเดินทาง แต่น่าเสียดายมาที่เธอไม่ได้รู้จักชื่อเต็ม ๆ ของเขา และไม่มีข้อมูลการติดต่อใด ๆ เลย แต่ตั้งแต่ลงเครื่องมา เธอก็ยังไม่หยุดคิดถึงเขาเลย จึงอยากขอความช่วยเหลือจากทางสายการบิน เพราะเธอไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เจอเขาอีกไหม หรือเธอจะต้องเสียโอกาสนี้ไปจริง ๆ

   หลังจากนั้น ทางสายการบินได้เข้ามาตอบข้อความของโจไมกา ระบุว่า "โอ้ เรารู้สึกดีใจที่ทราบว่ามีคุณผู้ชายข้าง ๆ คุณทำให้การเดินทางของคุณน่าพอใจเป็นพิเศษ ทางเราอยากจะช่วยให้ได้มากที่สุด แต่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากนโยบายการปกป้องข้อมูลลูกค้า แต่อย่างไรก็ตาม ทางเรา ในฐานะทีมโซเชียลมีเดียหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่องราวของคุณจะจบอย่างแฮปปี้ ภาวนาขอให้โชคเข้าข้างคุณ และได้เจอเขาอีกครั้ง คู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกันแน่นอน :)" 

.

ข้อมูลและภาพจาก เฟซบุ๊ก Jomaica Alfiler