เมื่ออายุมากขึ้นถึงได้รู้ว่า “รักหรือไม่รัก” นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่การคบหาที่ไม่ทำเหนื่อยใจถึงจะสำคัญที่สุด!

    เมื่อตอนเป็นโสด ทุกคนมักจะคิดว่าความรักนั้นสำคัญมาก

    แต่หลังจากแต่งงานแล้ว ได้พบเจอสิ่งต่างๆมากมาย ทำให้รู้ว่า “ความรักก็ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด” 

    เมื่ออายุมากขี้นก็จะรู้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดนั้นคือ การปฏิสัมพันธ์ที่ไม่ทำให้เหนื่อยใจนั้นสำคัญที่สุด...

    --01--

    หลังกลับบ้านทานอาหารเย็นในคืนวันหนึ่ง

    พ่อนั่ง สู บ บุ ห รี่ และดื่ม เ ห ล้ าแล้วพูดคุยกับฉัน

    หม้อที่กำลังเดือดมีไอน้ำออกมามากมาย 

    เมื่อแม่ทำกลับข้าวเสร็จ พ่อก็เหลือบตาไปดู พ่อก็ดับ บุ ห รี่ ในมือ จากนั้นสวมถุงมือ

    เพื่อยกหม้อที่เดือดจัดมาเทใส่ชามบนโต๊ะ แล้วก็ยกกลับไปเก็บที่เดิม 

    ส่วนแม่ก็รีบเอาหม้อไปล้าง พ่อก็นั่งลง จากนั้นก็ สู บ บุ ห รี่ ที่เหลือและคุยกับฉันต่อไป

    ในระหว่างนี้พ่อแม่ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรกันเลย ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ 

    ในทันใดนั้นเองก็เกิดความรู้สึกถึงบรรยากาศภายในบ้านที่อบอุ่น

    มีความรู้สึกนุ่มนวลที่บอกไม่ถูก

    ฉันหัวเราะ: พ่อแม่เริ่มมีความเข้าใจโดยปริยายตั้งแต่เมื่อไหร่เนี้ย?

    พ่อหัวเราะ: เมื่ออายุมากแล้ว ถึงจะเข้าใจว่า สิ่งสำคัญที่สุดของการเป็นสามี ภ ร ร ย า ก็คือ ไม่ทำให้รู้สึกเหนื่อย

    สองสามี ภ ร ร ย า ต้องใช้ชีวิตร่วมกันเป็นระยะเวลานาน 

    การที่จะรักหรือไม่รักนั้นเป็นอีกเรื่อง การมีปฏิสัมพันธ์กันนั้นสำคัญมากที่สุด

    เพราะการใช้ชีวิตร่วมกันนั้นก็เหมือนเครื่องปรุงอาหาร

    เรียบง่าย แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ “การทำให้เสร็จสมบูรณ์”

    ฉันคิดใคร่ครวญเกี่ยวกับคำพูดของพ่อ เหมือนติดตลกนิดๆ: “โฮ! พ่อเนี้ยใช้สำนวนการเปรียบเทียบเก่งจริงๆ ”

    พ่อยก เ ห ล้ า ขึ้นดื่ม “เสียดายที่เข้าใจอะไรช้าเกินไป นั่ง ท ะ เ ล า ะ กับแม่ของเธอมาครึ่งค่อนชีวิต พอมาย้อนคิดดูเรื่องในอดีตก็ทำให้รู้ว่าไม่ควรทำแบบนั้นเลย”

    --02--

    ในอดีตฉันเคยเห็นบทความบน FB ของเพื่อนที่อยู่ญี่ปุ่น:

    รถรางเที่ยวสุดท้ายของคืนนี้

    มีคู่รักหนุ่มสาวเดินขึ้นรถมา

    ทั้งคู่หน้าตาธรรมดามาก แต่ทั้งคู่เดินจับมือกัน

    ทั้งสองเดินไปยังที่นั่งที่ยังว่างอยู่ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่นั่งลง

    ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรมาก จากนั้นก็เริ่มเล่นเป่ายิ้งฉุบ

    หญิงสาวแพ้ ส่วนใบหน้าของชายหนุ่มก็แสดงความพอใจ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

    หญิงสาวก็มองไปที่ชายหนุ่ม จากนั้นก็ยิ้มด้วยความดีใจอย่างหวานชื่น

    แล้วรับกระเป๋าของเขามาไว้หน้าตัก

    ชายหนุ่มมือข้างหนึ่งจับราวจับ ส่วนมืออีกข้างก็จับมือเธอไว้ 

    ในระหว่างนี้ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรมาก แต่กลับรู้สึกอบอุ่นในใจ

    ฉันนั่งอ่านบทความนี้หลายรอบมาก

    ทำให้ในสมองของฉันนึกถึงฉากในภาพยนตร์

    ที่เต็มไปด้วยความนุ่มนวลและความอบอุ่น

    การตกหลุมรักของคนบางคนบนโลกนี้ทำให้คนรู้สึกว่า “ความรัก” เป็นการ รั ก ษ า เ ยี่ ย ว ย า ที่สวยงามที่สุด

    ในทางตรงกันข้ามมีคู่รักหลายคู่ที่ในสมองมีแต่ภาพที่ว่า:

    คู่รักน่ า รั ง เ กี ย จ นี้มาอีกแล้วหรอ 

        ทำให้นึกถึงคู่รักหลายคู่ที่รัก ๆ เลิก ๆ 

        ตอนรัก รักกันมากจะเป็นจะ ต า ย มักเอาคำว่ารักแขวนไว้ที่ริบฝีปาก

        ไม่ว่าเวลาไหนก็จะทำตัวติดกันเสมอ โดยไม่คำนึงถึงเวลาและสถานที่

        ไม่เพียง แต่หวังว่าอีกฝ่ายจะใช้ภาษา การกระทำ หรือของขวัญเพื่อแสดงถึงความรัก

        เอาตนเอง ถ ลํ า ลึ ก ลงไปในความสัมพันธ์ ดูเหมือนว่าทุกวินาทีจะแยกออกจากความรักไม่ได้

        เมื่ออยู่ด้วยกันต่างก็พากันสวีทหวาน

        แต่พอ แ ย ก จ า ก กัน ต้องอยู่โดดเดี่ยว และโล่งอก 

        บนโลกใบนี้มีคนมากมายที่รักเลิกกัน ไม่ใช่เพราะไม่รักหรอกนะ แต่เพราะเหนื่อยกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ต่างหาก

    --03--

    มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาเดินทางกลับประเทศพร้อมกับรุ่นพี่

    แฟนสาวของรุ่นพี่เป็นคนจิตใจดี

    ตอนอยู่ที่สนามบินทั้งคู่อาลัยอาวรณ์กันมาก กอดและบอก ล า กัน

    เขายืนดูอยู่ข้างๆรู้สึกสะอิดสะเอียนมาก

    เขาเองก็รู้สึกได้ว่าพวกเขารักกันมากแค่ไหน

    พอขึ้นเครื่องก็ส่งข้อความไปหาเธอ พอเครื่องบินเริ่มบินสู่ท้องฟ้า รุ่นพี่ก็ถอนหายใจใหญ่ เขาจึงถามไปว่า “ทำไมดูเหนื่อยจัง?”

    เขาไม่รู้ว่ารุ่นพี่เหนื่อยเพราะความสัมพันธ์หรือเป็นเพราะความกดดันกันแน่

    ไม่ว่าจะเป็นเพราะคำหวานอันหยาดเยิ้ม หรือการต่อปากต่อกัน ท ะ เ ล า ะ กัน

    เมื่อดูเหมือนว่าจงใจ ก็จะรู้สึกเหนื่อย

    ความอิจฉาที่อธิบายไม่ได้ การกระสับกระส่าย

    หรือบางครั้งจะมองหน้าใครก็รู้สึกไม่เข้าตาเลย

    มันเป็นการทำ ล า ย เ ส้ น ป ร ะ ส า ท

    ยิ่งจะทำให้ ป ร ะ ส า ท อ่อนแอลง

    ในบางครั้งคนเราคิดว่าการมีชีวิตอยู่นั้นเหนื่อยมาก

    ไม่ใช่เพราะร่างกายเหนื่อย แต่เป็นเพราะจิตใจเหนื่อยล้า

    ฉันเห็นท่าทีการพูดของพวกเขา การกระทำบางอย่างที่ในสายตาคนอื่นดูแล้วน่าสนใจ

    แต่ฉันกลับไม่รู้สึกอะไรเลย และคิดว่าทุกอย่างนั้นไม่ค่อยปกติ

    ก็เหมือนกับจิตวิญญาณของยุงที่คอยบินวนเวียนไปมากก่อความรำคาญ

    --4--

    ฉันอยากจะมีโหมดแห่งการปฏิสัมพันธ์

    ที่ทั้งสองคนมีเวลาปฏิสัมพันธ์ส่วนตัวด้วยกัน

    ที่ที่รู้ว่าเธอมีเขาอยู่ และเธอเองก็รู้ว่ามีเขาอยู่

    ให้ทั้งสองมุ่งเน้นดวงตาไปที่คนตรงหน้า

    เงยหน้าขึ้นเป็นครั้งคราว เพื่อมองตาของกันและกัน

    ยิ้มเงียบ ๆ แค่ก็นี้พอแล้ว

    ความสัมพันธ์ที่ไม่ทำให้คุณเหนื่อย 

    ก็คือการที่คนสองคนได้อยู่ด้วยกันแล้วไม่เหนื่อย

    มีบรรยากาศที่สบายอย่างเป็นธรรมชาติ

    สามารถปัดเป่าการ น้ำ ต า ภายในหัวใจได้

    เรียกคืนความผ่อนคลายและเฉยชาของตนเอง

    ไม่มีความไม่สบายใจที่แข็งแกร่ง

    ไม่มีอะไรที่ไม่เข้าตา ซึ่งอธิบายไม่ได้

    ไม่มีใครที่จะทำให้เราเหนื่อยล้าได้

    มีเพียงแต่ความสัมพันธ์ที่ไม่ทำให้เหนื่อย

    จึงจะสามารถยืนการทดสอบชีวิตและเดินต่อไปให้ไกลขึ้น

ที่มา:readthis.

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR