หญิงสู้ชีวิตหลังสามีตายจาก กัดฟันเลี้ยงลูก 2 คน ลำพัง กู้เงินญาติมาเปิดร้านอาหาร แม้ขายไม่ดีก็ยังสู้ พยายามปรับปรุงฝีมือ ก่อนชีวิตเปลี่ยนไปเมื่อ โจวเหวินฟะ มาเยือนที่ร้าน 

        ย้อนกลับไปในปี 2556 หรือเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ชีวิตของครูสาวชาวฮ่องกงที่ชื่อ หวังลี่ลี่ ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่มีวันกลับ เมื่อสามีที่เธอทั้งรักและเทิดทูน ชายผู้เป็นเสาหลักสำคัญของบ้าน ได้เสียชีวิตอย่างกะทันหัน ลี่ลี่รู้สึกเหมือนกับว่าโลกของเธอพังลงตรงหน้า แต่เธอก็ต้องสู้ชีวิตต่อไปเพื่อลูกชายทั้ง 2 คน เธอตัดสินใจลาออกจากการเป็นครูมาเลี้ยงดูลูกไปพร้อม ๆ กับเปิดธุรกิจร้านอาหารเล็ก ๆ เพื่อหารายได้เลี้ยงดูครอบครัว ทว่ากิจการไม่ได้ดำเนินไปอย่างราบรื่นเท่าใดนัก รายจ่ายก็มาก แถมยังมีหนี้ก้อนใหญ่ค้ำคอ

        แต่หญิงแกร่งคนนี้ก็ไม่ย่อท้อกับชะตาชีวิต ความขยันอดทนของเธอกลายเป็นที่เลื่องลือในชุมชนจนกระทั่งในวันหนึ่ง เรื่องราวของลี่ลี่ก็ได้ยินไปถึงหูของ โจวเหวินฟะ ซูเปอร์สตาร์ชื่อดังชาวฮ่องกง วัย 63 ปี และชีวิตของผู้หญิงคนนี้ก็เปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง ชนิดที่เธอไม่เคยคาดฝันถึง

        เรื่องราวชีวิตของ หวังลี่ลี่ ถูกหยิบยกมาบอกเล่าผ่านตัวอักษร โดยเว็บไซต์เน็กซ์ชาร์ก โดยไม่นานหลังจากที่สามีเสียชีวิต ลี่ลี่ได้เงินสนับสนุนจากรัฐบาลอยู่ทุกเดือน แต่มันก็ไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในบ้าน เธอจึงตัดสินใจกู้ยืมเงินจากญาติของเธอมาจำนวน 1 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 4 ล้านบาท และใช้เงินก้อนนี้ลงทุนเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวหลอด ในย่านไทโป ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฮ่องกง

        กิจการของลี่ลี่ไม่ค่อยดีนัก อาหารขายไม่ค่อยได้ มีรายจ่ายมากกว่ารายรับ และขายขาดทุนแทบทุกเดือน เดือนละเกือบ 29,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือกว่า 117,000 บาท แต่ถึงกระนั้น ลี่ลี่ก็ยังไม่ย่อท้อกับปัญหา ยังคงกัดฟันสู้ชีวิตต่อไป และมองหาทางปรับปรุงฝีมือให้ดีขึ้น 

        ลี่ลี่เปิดเผยกับเว็บไซต์เจาเปา ว่า ในทุก ๆ วัน เธอจะตื่นนอนแต่เช้าตรู่ เดินทางข้ามทะเลไปยังแผ่นดินใหญ่ เพื่อเรียนรู้และฝึกฝนการทำก๋วยเตี๋ยวหลอดจากสามีภรรยาคู่หนึ่งในนครเซินเจิ้น จนกระทั่งมีฝีมือเป็นที่ยอมรับ ลี่ลี่เป็นคนที่ทำงานหนักและตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างมาก ความอดทนและความขยันขันแข็งของเธอเป็นที่รับรู้และชื่นชมทั่วชุมชน แต่ร้านของเธอก็ยังไม่มีลูกค้ามากมายนัก 

        แต่แล้วในวันหนึ่ง ขณะที่ลี่ลี่ได้จัดเตรียมร้านเพื่อขายก๋วยเตี๋ยวหลอดตามปกติ แม้ว่าวันนั้นจะเป็นวันสุดสัปดาห์ แต่การที่มีลูกค้าต่อคิวยาวเหยียดหน้าร้านของเธอ ไม่ใช่เรื่องปกติที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ในช่วงเวลานั้นเอง ลูกค้าคนหนึ่งที่กำลังยืนต่อคิว ได้เอ่ยปากทักทายลี่ลี่ เมื่อลี่ลี่หันไปดู ก็พบว่าเขาคนนั้นคือ โจวเหวินฟะ 

        "วันนั้นเป็นช่วงสุดสัปดาห์ค่ะ มีลูกค้าต่อคิวหน้าร้านยาวเหยียดเลย ตอนนั้นฉันได้ยินคนตะโกนเรียก พอหันไปดูก็พบว่าเขาคือ โจวเหวินฟะ ฉันรู้สึกตกใจมาก ความปลื้มมันท่วมท้นหัวใจไปหมด เพราะไม่เคยคิดฝันเลยว่าจะมีดาราใหญ่ดั้นด้นเดินทางมาเยือนร้านเล็ก ๆ ของฉัน ซึ่งมันตั้งอยู่ในย่านห่างไกล ไม่ได้โด่งดังอะไรเลย ฉันรู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหลือเกินค่ะ และหลังจากนั้น ผู้คนมากมายก็เดินทางมาที่ร้าน ซึ่งมันเป็นเพราะโจวเหวินฟะ เขานำพาโชคลาภมาสู่กิจการของฉัน และฉันรู้สึกขอบคุณเขาอย่างที่สุดค่ะ" ลี่ลี่ กล่าว 

        ข้อมูลจากโกลบอลนิวส์ ระบุว่า โจวเหวินฟะได้ช่วยโฆษณาร้านก๋วยเตี๋ยวหลอดเล็ก ๆ ของลี่ลี่และพูดถึงมันอยู่บ่อย ๆ ผู้คนมากมายจึงแห่กันมาลองชิมฝีมือของลี่ลี่ และก็มีจำนวนไม่น้อยที่ติดใจในฝีมือของเธอ จนร้านของเธอกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง เหล่าคนดังมากมายก็เดินทางมาเยือนอยู่บ่อย ๆ คนที่มาบ่อยที่สุดก็คือ โจวเหวินฟะ นั่นเอง 

        ร้านนี้กลายเป็นหนึ่งในร้านประจำของเขา ร้านก๋วยเตี๋ยวหลอดนี้กลายเป็นร้านที่มีลูกค้าแน่นอยู่ทุกวันและสร้างรายได้มากมายให้กับลี่ลี่ จากกิจการที่ขาดทุนหนักกลายเป็นมีรายรับเฟื่องฟู ลี่ลี่ เปิดเผยว่า โจวเหวินฟะเป็นคนที่สุภาพ อีกทั้งยังจิตใจดีมีเมตตาเป็นอย่างมาก เธออยากขอบคุณเขาด้วยการมอบเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เป็นน้ำใจ และไม่คิดเงินค่าอาหาร แต่เขาปฏิเสธ ไม่ยอมรับเงินและอาหารฟรีจากเธอเลย ซึ่งลี่ลี่ซาบซึ้งในความดีของเขาเป็นอย่างมาก 

        ด้วยความซาบซึ้งในบุญคุณของโจวเหวินฟะ และความประทับใจที่เขาไม่ยอมรับค่าตอบแทนใด ๆ จากเธอ แม้ว่าเขาจะให้ความช่วยเหลือมากมาย ลี่ลี่จึงนำเงินที่หามาได้บริจาคให้กับการกุศล เพื่อสนับสนุนเด็ก ๆ ที่เกิดมาจากครอบครัวพ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือแม่เลี้ยงเดี่ยว ให้มีสภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะเธอก็เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวและเข้าใจดีว่าชีวิตมันยากแค่ไหน นอกจากเงินนี้จะได้ช่วยเหลือเด็ก ๆ แล้ว ยังเป็นการตอบแทนบุญคุณพระเอกดัง ที่ทำให้เขาได้บุญกุศลไปกับเธอด้วย 

ข้อมูลและภาพจาก kapook