"กษัตริย์จิกมี-เจ้าฟ้าชายพระองค์น้อย" แห่งภูฏาน ในพิธีเฉลิมฉลองวันชาติ ครบรอบ 111 ปี

LIEKR:

"กษัตริย์จิกมี-เจ้าฟ้าชายพระองค์น้อย" แห่งภูฏาน ในพิธีเฉลิมฉลองวันชาติ ครบรอบ 111 ปี

        สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และสมเด็จพระราชินีเจตซุน เปมา วังชุก แห่งภูฏาน เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระบรมวงศานุวงศ์ ไปในพิธีเฉลิมฉลองวันชาติ ครบรอบ 111 ปีการสถาปนาราชอาณาจักรภูฏาน วันที่ 17 ธันวาคม 2561 ณ เขตซัมเซ่ ราชอาณาจักรภูฏาน

        Their Majesties the King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck and Queen Jetsun Pema Wangchuck of Bhutan with members of the Royal Family presided over the Ceremony of 111th National Day of Bhutan on 17 December 2018 in Samtse District, Kingdom of Bhutan.

 

Sponsored Ad

 

        หากเอ่ยถึงกษัตริย์ต่างชาติที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับประเทศไทย และคนไทยรักใคร่ชื่มชม เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง “กษัตริย์จิกมีแห่งภูฏาน” หรือ “สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก”

 

Sponsored Ad

 

        กษัตริย์หนุ่มรูปงาม ซึ่งมากด้วยพระปรีชาสามารถ เพียบพร้อมด้วยพระจริยวัตรอันงดงาม ทำให้เป็นที่รักยิ่งของพสกนิกรชาวภูฏาน

        ทั้งนี้ยังรวมถึงประชาชนชาวไทยอีกด้วย เพราะพระองค์ทรงมีในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจ อีกทั้งยังทรงเดินตามรอยพ่อหลวงของเราในทุกๆ ด้านอย่างน่าชื่นชม

 

Sponsored Ad

 

        สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก เป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์วังชุก ทรงได้รับการยกย่องจากชาวภูฏานรวมถึงชาวไทยส่วนใหญ่ว่ามีพระจริยวัตรที่งดงาม และเป็นที่รักยิ่งของประชาชนชาวภูฏาน

 

Sponsored Ad

 

        สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังซุก ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของพสกนิกรทุกหมู่เหล่า จากการที่ทรงวางพระองค์อย่างเป็นกันเองในหมู่ประชาชน จึงสร้างความประทับใจแก่พสกนิกรอย่างสูง

        โดยสมเด็จพระราชาธิบดีได้มีพระราชดำรัสถึงประชาชนชาวภูฏานความว่า “ข้าพเจ้าจะปกป้องชาวภูฏานในฐานะพ่อแม่ที่ดูแลลูกในฐานะพี่ชายและจะพร้อมรับใช้ชาวภูฏาน”

 

Sponsored Ad

 

        จะมอบทุกอย่างให้ชาวภูฏาน จะมีชีวิตอยู่เพื่อเป็นมนุษย์ที่ดี พร้อมรับใช้ด้วยจิตวิญญาณแห่งความเมตตา ความยุติธรรมและความเท่าเทียมกัน”

 

Sponsored Ad

 

        ทั้งนี้ภายในงานมีประชาชนชาวภูฏานเข้าร่วมพิธีกันอย่างคับคั่ง นักเรียนและประชาชน ส่วนอีกด้านหนึ่งมีการจัดการแสดงบนเวทีซึ่งมีทั้งรูปแบบดั้งเดิมของชาวภูฏานและทั้งในรูปแบบของความสนุกสนาน

        ในวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ทรงเข้าพระราชพิธีราชาภิเษกภายในพระราชวังทาชิโชซอง ในเมืองทิมพู

Sponsored Ad

        โดยสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก ทรงเป็นผู้ประกอบพระราชพิธี โดย พระราชทานมงกุฎไหมสีแดงดำแด่พระองค์

        นอกจากนี้ยังมีนางซอนยา คานธี ประธานรัฐสภาของอินเดียเข้าร่วมในพิธีด้วย ทั้งนี้พระองค์ได้สืบบัลลังก์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์วังชุกด้วยพระชนมพรรษาเพียง 28 พรรษา

        สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ทรงฉลองพระองค์สีแดงทองที่เป็นชุดคลุมยาวปิดเข่าอันเรียกกันว่า “โฆ”

        ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติของชายชาวภูฏาน ประทับบนบัลลังก์ทองคำ แต่ก็ทรงแย้มพระสรวลเล็กน้อย

        ขณะทรงรับเครื่องถวายแด่สมเด็จพระราชาธิบดีองค์ใหม่ และยังมีพระบรมราโชวาทพระราชทานแก่พสกนิกรหลายพันคนที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในตอนบ่ายของวันเดียวกันว่า “ข้าพเจ้าไม่ต้องการสิ่งใด” 

        “สิ่งที่สำคัญสำหรับข้าพเจ้าคือความหวังและความมุ่งมาดปรารถนาของ ประชาชน และพระชนมายุอันยืนยาวและพระพลานามัยอันแข็งแรงสำหรับสมเด็จพระราชบิดา จิกมี ซิงเย วังชุก ของข้าพเจ้า”

        “ในโอกาสอันพิเศษยิ่งนี้ ขอให้ร่วมกันสวดมนต์และขออธิษฐานขอให้แสงตะวันเฉิดฉันแห่งความสุขจะสาดส่อง ลงมาที่ประเทศชาติของเราเสมอไป”

        นอกจากประชาชนหลายพันคนที่มารวมตัวกันถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ซึ่งประกอบพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว

        ยังมีแขกสำคัญที่ร่วมในพิธีดังกล่าวคือ ประธานาธิบดีประติภา ปาติลแห่งอินเดีย และนางโซเนีย คานธี เนื่องจากครอบครัวคานธีนั้นมีความสนิทชิดเชื้อกับภูฏาน

.

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก truststoreonline

บทความที่คุณอาจสนใจ