แม่เลี้ยงเดี่ยว เหนื่อยมากแต่ต้องสู้เพื่อลูก ลำบากแค่ไหนก็ต้องเงยหน้าคลานไปให้สุด

LIEKR:

สู้ก็ยังมีวันชนะ ไม่สู้ก็แพ้ตั้งแต่ตอนนี้

        “พวกเรามักชอบคิดว่าสวรรค์ไม่ยุติธรรม มักจะโชคไม่ดีเสมอ แล้วก็โทษนู่นนี่ แต่พอได้เห็นคนที่แม้แต่จะเดินยังยาก ต้องพยายามอย่างมากถึงมีชีวิตต่อไปได้ พวกเราก็จะเข้าใจเองว่าตัวเองโชคดีขนาดไหน”

        เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ต่างประเทศได้นำเสนอเรื่องราวของชาวเน็ตท่านหนึ่ง โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า เราชื่อ "หลินฟาง" ปีนี้อายุ 31 เป็นคนหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในจังหวัด Honghe มณฑล Yunnan เราเกิดมาสองขาก็เดินไม่ได้แล้ว ชีวิตนี้ไม่เคยลุกขึ้นยืนมาก่อน 

 

Sponsored Ad

 

        เมื่อ 5 ปีก่อน เราถูกสามีทิ้ง กลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีลูกติด 2 คน โตมาจนป่านนี้เราไม่เคยออกจากหมู่บ้านบนเขา ต้องเลี้ยงลูก 2 คนตลอดทั้งวัน ในสายตาของคนอื่นชีวิตเรา “น่าอนาถ” แต่เราคิดว่าชีวิตต่อให้ลำบากยังไงก็ต้องเงยหน้าแล้วก็ก้าวต่อไปให้สุด

 

Sponsored Ad

 

        เราสองขาพิการแต่กำเนิด ไม่สามารถเดินได้ 31 ปีมานี้เราใช้การคลานเอา สิ่งที่เราได้เจอ คนทั่วไปอาจจะจินตนาการไม่ออก ผู้หญิงคนนึงที่ต้องคลานไปไหนต่อไหนทุกวัน ทั้งเนื้อทั้งตัวมอมแมม ไม่มีเพื่อน ไม่มีใครเป็นห่วง ใครเห็นก็รังเกียจ เนื่องจากบ้านเราอยู่บนเขาเดินทางไปเรียนไม่สะดวก ยังเรียนไม่ทันจบประถมเราก็เลิกเรียน

        หลังออกจากโรงเรียน เราก็ช่วยที่บ้านทำงานบ้านและทำสวนเล็กๆ น้อยๆ ปีที่อายุได้ 20 มีคนแนะนำให้เราแต่งงาน เขาเป็นคนปกติ หลังแต่งงานพวกเราก็มีลูกชายคนลูกสาวคน ชีวิตแม้ว่าจะไม่ร่ำรวย แต่ตอนนั้นเราก็พอใจมาก เพราะเรามีครอบครัวเล็กๆ และมีลูกเป็นของตัวเอง

 

Sponsored Ad

 

        แต่ที่ทำให้เราคิดไม่ถึงก็คือ หลังแต่งงาน 6 ปี สามีออกจากบ้านไปหางานทำและไม่ส่งข่าวมาอีกเลย ต่อมาได้ยินว่าเขาไม่ต้องการพวกเราแล้ว นับแต่นั้นมา เราก็กลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ภาระทุกบ้านในบ้านตกเป็นของเราคนเดียว เพราะว่าตอนนั้นลูกสองคนยังเล็ก พริบตาเดียวชีวิตเราก็เหมือนตกเหวแห่งความยากลำบาก

 

Sponsored Ad

 

        หันหน้ามองภูเขา เรามักจะแอบร้องไห้คนเดียว บ่นว่าว่าทำไมชีวิตไม่ยุติธรรม แต่เพื่อลูกสองคนเราจำเป็นต้องเข้มแข็งให้ได้ แม้ว่าเราจะไม่สามารถยืนทำงานได้เหมือนคนปกติ แต่เราสามารถค่อยๆ ทำ เราสามารถคลานไปทำ แม้ว่าจะช้า แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไร

        ตอนนั้นเราคิด ชาตินี้อาจจะไม่มีโอกาสได้มีชีวิตดีๆ แต่เราต้องทำให้ลูกเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง วันนึงเมื่อพวกเขาโต จะต้องออกไปจากหมู่บ้านบนเขานี้ ออกไปจากที่ๆ เราลำบากมาทั้งชีวิต ขอแค่ลูกๆ โต ชีวิตที่ยากลำบากของเราก็จะสิ้นสุดลง

 

Sponsored Ad

 

        เพื่อจะทำให้ชีวิตดีขึ้น เราไม่เคยมีเวลาว่างแม้แต่วันเดียว เลี้ยวหมู ให้อาหารห่าน ให้อาหารเป็ด เราทำคนเดียว เพราะการทำงานหนักเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ลูกๆ เราสองคนหลุกพ้นจากความยากลำบากได้

 

Sponsored Ad

 

        หมู่บ้านเล็กๆ ของเรา มีกันทั้งหมด 8 ครอบครัว เวลาจะซื้ออะไรต้องไหว้วานให้คนอื่นซื้อให้ จะออกไปไหนก็ลำบาก ทุกครั้งเวลาฝากเขาซื้อก็ฝากซื้อได้ไม่มาก ยาสระผมขวดนึงบ้านเราก็ใช้ไปครึ่งปี

        ลูกสองคนของเราก็ดิ้นรนเป็นอย่างมาก พวกแกเรียนดี โดยเฉพาะลูกสาวคนโต หลังจากที่พ่อของแกจากไป แกในวัย 6 ขวบก็รู้ว่าต้องช่วยเราทำงาน เรื่องเรียนนี่เรายิ่งไม่ต้องเป็นห่วง ลูกชายคนเล็กแม้ว่าจะดื้ออยู่บ้าง แต่ก็เข้าใจเราและครอบครัวดี

Sponsored Ad

        หลายปีมานี้ ชีวิตของพวกเราค่อยๆ ดีขึ้น ลูกๆ เริ่มโตขึ้นเราไม่ต้องกังวลมาก เราเลี้ยงหมู เลี้ยงห่าน ก็ทำไปเรื่อยๆ ทุกวัน เทียบกับตอนแรก ที่เราต้องดูแลลูกสองคนเอง คนนึง 6 ขวบ คนนึง 3 ขวบ ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว

        หลายปีผ่านไป เราพบว่าเราไม่ได้บ่นว่าโลกใบนี้อีกแล้ว อาจจะเป็นเพราะเรารับความจริงได้แล้ว เราว่าคนเราต้องเรียนรู้ที่จะเข้มแข็งและพยายาม ต้องทำงานแล้วชีวิตก็จะใจดีกับคุณ เราในตอนนี้ จิตใจสงบ มีความสุขในชีวิตขึ้นมาก ลูกเป็นความหวังเดียวในใจเรา แค่พวกเขาเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง ทุกวันในชีวิตของเราก็จะเป็นวันที่ดี

        นี่เป็นคำกล่าวจากปากของผู้หญิงที่ยิ่งใหญ่ เห็นเธอยังคงมีแรงและพลังในการดำเนินชีวิต ก็เป็นตัวอย่างที่ดีให้พวกเราได้เรียนรู้ หวังว่าเมื่อเด็กๆ สองคนโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว จะสามารถทำให้แม่มีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น เธอลำบากมามากแล้ว นานจนจิตใจด้านชาไปหมด

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ