สาวแกร่งวัย 48 จบ กศน. ไม่ยอมแพ้ดิ้นรนขยันทำงาน วันนี้ปลดหนี้ 3 แสน-ซื้อบ้านให้พ่อแม่!

LIEKR:

เส้นทางอาชีพสาวยาคูลท์ จบ กศน. ไม่ยอมแพ้ขยันทำงานจนปลดหนี้ 3 แสน - ผ่อนบ้านได้ถึง 2 หลังให้พ่อแม่!

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        ทุกความลำบากที่ชีวิตต้องเผชิญ ทำให้เธอต้องเลือกเส้นทางเดินของตัวเอง “วรรณา กลิ่นรักษา” วัย 48 ปี สาวยาคูลท์เขตพื้นที่ ต.ห้วยทรายเหนือและห้วยทรายใต้ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งจะมาถ่ายทอดประสบการณ์ตลอดระยะเวลา 30 ปี บนเส้นทางอาชีพสาวยาคูลท์ให้แก่ทุกๆ ท่านได้ฟังกันในวันนี้

        เธอบอกว่า “ยินดีมากค่ะ...” ถ้าชีวิตของเธอสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อ่าน และสาว ๆ ที่อยากทำอาชีพนี้...

 

Sponsored Ad

 

        โดยพี่วรรณาได้เริ่มเล่าย้อนกลับไปเมื่อยังเป็นเด็ก จากเด็กในอ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พ่อแม่มีอาชีพทำนา มีพี่น้องทั้งหมด 8 คน โดยมีพี่ชายคนโตและเธอที่ได้เรียน ส่วนเธอจบเพียงชั้นป.6 เพราะคนสมัยโบราณไม่ค่อยส่งเสริมให้ลูกผู้หญิงเรียนเท่าไหร่นัก จึงออกมาทำงานรับจ้างช่วยพ่อแม่จวบจนครบ 3 ปี ตัดสินใจทำตามความฝันตัวเองอยากเป็นครู จึงไปสมัครเรียนที่ กศน. จนจบ ม.3 และใช้วุฒิดังกล่าวสมัครงานที่ บริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด

        “เด็ก ๆ พี่ก็จะไปรับจ้างเลี้ยงเด็ก รับจ้างซักผ้า วันละ 50 บาท และรียน กศน. ไปด้วย วันหนึ่งก็มีคนเรียกให้ไปสัมภาษณ์ และเข้าอบรม 3 สัปดาห์ เพื่อให้รู้ว่าประโยชน์ของยาคูลท์คืออะไร ถ้าเราอธิบายไม่ได้ ลูกค้าก็ไม่มีแรงจูงใจที่จะรักเรา เพราะเราก็จะกลายเป็นแค่คนขายธรรมดา ไม่ใช่สาวยาคูลท์ที่รู้จริงเพื่อประโยนชน์ของลูกค้า” สาวรายนี้ กล่าวให้ฟัง

 

Sponsored Ad

 

        จากนั้นเธอได้ขายยาคูลท์โดยเป็นสแปร์ (พนักงานทดแทนงาน) อยู่ประมาณ 2 ปี เพื่อเรียนรู้และอดทนเป็นสาวยาคูลท์ตัวจริง ซึ่ง 2 ปีนี้เธอได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมาย แม้จะไม่ทำให้รวยอู้ฟู่หรือรวยในพริบตา แต่เธอกลับเริ่มรวยน้ำใจเพิ่มขึ้น ๆ จนกระทั่งเรียนจบ กศน. เทียบเท่าวุฒิ ม.6

        จากนั้นเธอตามล่า “ความฝัน” ที่เป็นเป้าหมายอย่างไม่ลดละ...แม้พ่อกับแม่ของเธอไม่อยากให้เรียนต่อ ไม่อยากให้เป็นสาวยาคูลท์ ท้ายที่สุดเธอสอบติดในระดับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แต่ด้วยภาระทั้งส่งน้องสาวคนสุดท้องเรียนหนังสือ และรายจ่ายของครอบครัว ทำให้เธอจบเพียงระดับอนุปริญญา จึงต้องพักความฝันการเป็นครูเอาไว้ก่อน และตั้งใจว่าเมื่อมีเวลาจะกลับมาเรียนต่อให้จบปริญญา จากนั้นเธอตั้งใจทำงานเป็นสาวยาคูลท์ หมั่นเก็บออมเงินหวังสักวันในอนาคตว่า...ฉันนี่แหละจะสร้างความภูมิใจให้กับพ่อและแม่ ด้วยการขยันเรียนและทำงานควบคู่กันไป เพื่อปลดนี้ให้พ่อแม่จากอาชีพสาวยาคูลท์

 

Sponsored Ad

 

        เธอเป็นคนแรก ๆ ที่บุกเบิกในพื้นที่ไปส่งยาคูลท์ให้กับลูกค้า ซึ่งนอกจากความรู้เกี่ยวกับจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ ชิโรต้า ที่มีติดตัว เธอยังต้องศึกษาแผนที่และเส้นทาง ทำการบ้านทุกวัน เพราะทุกการเดินทางต้องรู้ว่าจะไปถึงลูกค้ากี่โมง

        ช่วงแรก ๆ เธอต้องขี่รถจักรยานยนต์ไปกลับจากตัวเมืองเพชรบุรี ถึงจุดหมาย อ.ชะอำ ประมาณ 100 กว่ากม./วัน ทำแบบนี้อยู่ 7 ปีโดยที่ความอดทนไม่เคยลดเลย เพราะเธอท่องคำ ๆ นี้เสมอ “เรายังมีพ่อแม่ ยังมีน้องที่ต้องส่งเรียนหนังสือ ยังต้องปลดหนี้” กระทั่งเธอตัดสินใจเสียสละความฝันไม่เรียนต่อ เพื่อความอยู่รอดของครอบครัว

 

Sponsored Ad

 

        ในสมัยก่อนวันหนึ่งถ้าขายได้ 500-600 ขวดก็ถือว่าสูงมาก ๆ แล้ว แต่ก็ต้องขยันตื่นตั้งแต่ 05.00 น. ทำกิจวัตรประจำวันของตัวเองให้เสร็จ ก่อนที่จะไปรับยาคูลท์จากศูนย์กระจายสินค้าเพื่อนำไปส่งตามบ้านเรือน ซึ่งลูกค้าบางบ้านก็จะวางเงินเอาไว้ให้ เธอจึงภูมิใจตรงจุดนี้ที่ลูกค้าไว้ใจ ส่วนเธอก็มอบความซื่อสัตย์เป็นสิ่งตอบแทน หรือแม้แต่บางหน่วยงานราชการก็อนุญาตให้เข้าไปขายได้ เธอจึงภูมิใจที่อาชีพนี้มอบสิ่งต่าง ๆ ให้เธอ

        กระทั่งห่วงวิกฤติชีวิตของพี่วรรณาเกิดขึ้นในปี 2544 สิ่งต่าง ๆ ที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรง อาทิ บ้าน 2 หลัง เธอต้องขายทิ้ง 1 หลังและยอมขาดทุน หลังหมอตรวจพบ “เนื้องอกในมดลูก” เธอจึงย้อนกลับไปคิดถึงอดีตที่ว่า ในวันที่ไม่เชื่อว่าจากคนที่ไม่มีอะไร จะทำเรื่องกู้บ้านสำเร็จ วันนั้นสามารถมีบ้านเป็นชื่อของตัวเอง แต่ในวันนี้ “คิดดูว่าถ้าพี่ไม่ขายบ้าน พี่ก็คงไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ อย่างน้อยพี่คิดว่าขายเพื่อเอาเงินมารักษาตัวเอง และกลับมาทำงานหาเงินใหม่ดีกว่า” ผู้หญิงที่ไม่เคยยอมแพ้ต่อชะตาชีวิต เล่าให้ฟัง

 

Sponsored Ad

 

        จากนั้นก็คิดหาทางต่อยอดเงินขายบ้าน ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือจากรักษาตัว หลังจากกลับมาทำงานเป็นสาวยาคูลท์ได้ตามปกติ โดยออกรถยนต์ 1 คันปล่อยเช่า เพื่อหมุนเงินส่งเสียลูกของน้องสาวเรียนหนังสือ เพราะหลานชายใฝ่ฝันว่า “ผมอยากเป็นครู” พี่วรรณาจึงสนับสุนหลานชายเต็มที่ เพราะเชื่อว่าความพยายามใฝ่เรียนและความรู้จะบันดาลให้พบเจอแสงสว่างในชีวิต ขอเพียงอย่าหมดกำลังใจไปเสียก่อน อย่างเช่นเธอที่ตอนนี้เพื่อน ๆ ก็ยอมรับว่า...ไม่คิดว่าสาวยาคูลท์อย่างเธอจะทำให้ชีวิตครอบครัวดีขึ้นได้มากขนาดนี้

 

Sponsored Ad

 

        อีกทั้งอาชีพสาวยาคูลท์นี่แหละ ทำให้เธอปลดหนี้ให้พ่อแม่ได้สำเร็จ ด้วยความมัธยัสถ์ผ่อนเดือนละ 2-3 พันบาท แม้จะไม่ใช่เงินเป็นก้อน แต่หนี้กว่า 2-3 แสนบาทที่ผ่อนกับธนาคาร มันก็เป็นเงินน้ำพักน้ำแรงของเธอที่ภูมิใจมากที่สุด ยิ่งกว่าทรัพทย์สินทั้งหมดในชีวิตที่หาได้ เพราะเธอทำให้พ่อแม่ยิ้มอย่างมีความสุขด้วยอาชีพสาวยาคูลท์

        พี่วรรณา ยังได้ให้แง่คิดและเทคนิคการเป็นสาวยาคูลท์ที่ดีด้วยว่า...

Sponsored Ad

        “...น้ำใจเป็นสิ่งสำคัญ พี่เคยผ่านความลำบากพี่จึงรู้ได้ การดูแล เอาใจใส่ ความสุขของลูกค้า ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันพี่จะทำเสมอ เพราะเราไม่ได้มุ่งมาเอาเงินลูกค้า เราก็คนจังหวัดเดียวกัน บ้านเดียวกัน น้ำใจและมิตรภาพยิ่งให้ยิ่งได้ บอกได้คำเดียวดีแน่นอน อดทนแล้วได้ดี อีกทั้งมีรายได้เลี้ยงครอบครัว เพราะก่อนมาเป็นสาวยาคูลท์ พี่ก็มีชีวิตที่ลำบาก พ่อแม่มีอาชีพทำนา ต้องรับจ้างซักผ้าและเลี้ยงเด็ก เก็บเงินเรียนจบ ม.6 ตั้งใจว่าจะเรียนต่อครู แต่พอบริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด รับสมัครงาน จึงได้มาสมัครเป็นสาวยาคูลท์ ตลอดระยะเวลา 30 ที่ได้เป็นสาวยาคูลท์ทำให้ชีวิตดีขึ้น สามารถซื้อบ้าน 2 หลัง ซื้อรถ ส่งหลาน ๆ เข้าโรงเรียนประจำจังหวัด และยังใช้หนี้ให้พ่อแม่ซึ่งมีอาชีพทำนาได้หมด พี่รู้สึกภาคภูมิใจในอาชีพนี้ เป็นอาชีพที่คนรู้จักทั้งประเทศ ทำให้ลูกค้าสุขภาพแข็งแรง และที่สำคัญสามารถเลี้ยงดูคนทั้งครอบครัวได้”

ชมคลิปเพิ่มเติม 

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ข้อมูลและภาพจาก dailynews

บทความที่คุณอาจสนใจ