คุณหมอลงมือรื้อบ้านไม้เก่า อายุกว่า 42 ปี สร้างใหม่ให้เป็นบ้านสีขาว สไตล์โมเดิร์น 2 ชั้น

  • 2020-12-07 18:12

LIEKR:

สวยและน่าอยู่มาก ๆ เลยค่ะ

        แน่นอนว่าการสร้างบ้านสักหลังไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเราต้องเจอปัญหามากมาย ซึ่งบางครั้งก็คงจะดีกว่าหากเรามีข้อมูลเตรียมไว้บ้างแล้ว วันนี้คุณหมอคนเก่งที่เพิ่งสร้างบ้านตัวเองเสร็จใหม่ ๆ ก็ได้มาเขียนรีวิวการสร้างบ้านของตัวเองผ่านกระทู้ในเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ไว้เป็นเคสศึกษาสำหรับคนที่กำลังเก็บข้อมูลไว้รีโนเวทหรือสร้างบ้าน จะได้รู้ว่าควรเตรียมตัวอย่างไร เพื่อลดและป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นตั้งแต่เนิ่น ๆ นอกจากจะทำให้การสร้างบ้านเป็นไปอย่างรวดเร็วแล้ว ยังช่วยประหยัดงบ ไม่ต้องคอยตามแก้งานหรือเสียดายทีหลังด้วย 

        หลังจากซุ่มอ่านกระทู้เกี่ยวกับการสร้างและรีโนเวทบ้านมานาน ในที่สุดก็มีโอกาสได้มาเขียนกระทู้บ้างสักที วันนี้เราจะมารีวิวการสร้างบ้านของตัวเอง ตั้งแต่ลงเสาเอก จนบ้านเสร็จ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 10 เดือน บ้านหลังใหม่นี้เราสร้างบนพื้นที่บ้านเดิม จะสังเกตเห็นว่าถังดับเพลิงยังอยู่จุดเดิม แต่ทาสีใหม่ให้ดูสวยขึ้น ตัวบ้านเก่ารื้อแล้วขายไม้ โดยคนที่รับซื้อเขาจะมารื้อไม้ออกเองเลย

        เกริ่นกันไปพอสมควรแล้ว มาเริ่มดูขั้นตอนการสร้างกันเลยดีกว่า เมื่อก่อนบ้านเราเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง อายุ 42 ปี ลืมตาดูโลกมาก็ได้อาศัยในบ้านหลังนี้แล้ว พอพ่อกับแม่อายุมากขึ้น เริ่มจะเดินขึ้นบันไดไม่ไหว ก็ได้มีการต่อเติมใต้ถุนบ้านให้อยู่อาศัยได้ ตอนนั้นเรียนอยู่มหาวิทยาลัย กลับบ้านมาตกใจเลย ผนังสีส้มแปร๊ดสะใจคุณพ่อมาก

        บรรยากาศภายในบ้านชั้นบน เริ่มทยอยเก็บของออกไปเกือบหมดแล้ว เห็นแบบนี้คนที่มารับซื้อไม้บอกว่าไม้ค่อนข้างที่จะใหม่อยู่ แกเสียดายไม่อยากให้รื้อ

        อันนี้เป็นห้องของเราที่รีโนเวทเอง ทาสี ปูพื้น ทำทุกอย่างเองหมด เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างบ้านเลย เพราะรู้สึกว่าทำแค่ห้องเดียวยังแฮปปี้ขนาดนี้ เหมือนได้ไปเที่ยวทุกวัน ถ้าปรับปรุงเปลี่ยนทั้งหลังน่าจะดีกว่านี้มาก เพราะบ้านเก่าฟังก์ชันหลายๆ อย่างไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิตเท่าไร เช่น บันไดอยู่นอกตัวบ้าน ห้องน้ำที่ค่อนข้างไกล กว่าจะเดินไปถึงตื่นพอดี 

        ตัดภาพมาชั้นล่างที่ต่อเติมทีหลัง เสาค่อนข้างเยอะเลย เพราะเดิมเป็นใต้ถุนบ้าน หลังจากต่อเติมก็มีปัญหาน้ำซึมขึ้นมาบ้างเวลาฝนตก พอย้ายของออกจากบ้านเก่าเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลารื้อ ตอนนั้นพ่อนี่น้ำตาซึมเลย ผูกพันกับบ้านหลังนี้มา 42 ปี แต่พ่อก็ยอมให้รื้อเพราะว่าหลาย ๆ อย่างมันไม่สะดวกต่อการใช้งาน และอยากมีที่นั่งชิลต้อนรับเพื่อน ๆ เราโชคดีที่บ้านข้าง ๆ เป็นบ้านว่างปล่อยเช่า ของเยอะแต่ก็ขนไปเก็บได้หมด แถมได้แอบดูช่างทำงานด้วย ก่อนหน้าที่จะรื้อถอน เราได้หาสถาปนิกออกแบบบ้าน ตกลงราคากับผู้รับเหมา และยื่นขออนุญาตก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน เนื่องจากแบบแรกที่ได้มายังไม่โดนใจ 100% ก็เลยมีการเปลี่ยนสถาปนิกออกแบบใหม่อีกรอบ แต่ที่นานที่สุดคือขั้นตอนขออนุญาตก่อสร้าง แนะนำให้โทรติดตามบ่อย ๆ และเผื่อเวลาไว้ด้วยเพราะยื่นครั้งแรกมีโอกาสที่จะได้กลับมาแก้แบบอีกรอบ เราโดนแก้ไป 1 ครั้งถ้วน พอได้ใบอนุญาตก่อสร้างแล้วถึงจะสามารถเอาไปยื่นกู้กับธนาคารได้ (ใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์) แนะนำให้ลองเอาไปถามหลาย ๆ ธนาคาร แล้วเลือกธนาคารที่เราพอใจที่สุด

        ที่สำคัญคือ ควรจะมีเงินสดสำรองไว้ 10-15% ของค่าบ้าน เนื่องจากงวดแรกเป็นเงินมัดจำจะยังไม่ได้เงินจากธนาคาร ต้องสร้างไปแล้ว ธนาคารมาประเมินว่าสร้างได้กี่เปอร์เซ็นต์ ถึงจะได้เงินจากธนาคารตามหน้างานจริง เคร่งเครียดกับการปรับแบบ ประชุมหลายรอบมาก ๆ เพื่อให้บ้านออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด อยากฝากถึงเพื่อน ๆ ที่กำลังจะสร้างบ้าน ถ้าไม่มีเวลาควรหา Consult มาช่วยดูแล เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนออกแบบเลย เพราะหลาย ๆ อย่างจะต้องวางแผนเอาไว้ตั้งแต่ยังเป็นโครงสร้าง 

        หลังจากทุกอย่างลงตัวก็ได้เวลาก่อสร้างกันแล้ว เริ่มจากขั้นตอนการปรับหน้าดิน วางฐานราก เทคาน พื้น และเสาชั้น 2 โดยก่อนที่จะลงฐานราก ผู้รับเหมาจะมาขีดเส้นให้ดูก่อน ว่าบ้านขอบเขตประมาณนี้นะ โอเคมั้ย ถ้าโอเคก็ขุดหลุมโลด

        พื้นห้องทั่วไปจะใช้แผ่นพื้นสำเร็จรูปมาปู แล้วเอาปูนมาเททับด้านบน แต่สำหรับพื้นห้องน้ำ หรือห้องซักล้างเพื่อป้องกันน้ำซึม จะวางท่อแล้วเทปูนเลย ไม่มีแผ่นสำเร็จรูป เพราะฉะนั้นตำแหน่งสุขภัณฑ์ต่าง ๆ ควรจะแน่นอนแล้ว ถ้าเปลี่ยนทีหลังอาจจะลำบากในการแก้ไข

        พอทำโครงสร้างชั้น 1 เสร็จ ก็ตั้งนั่งร้าน แล้วไปต่อที่ชั้น 2 เลย ตอนที่ยังเป็นแปลนในกระดาษก็ดูอะไรไม่ค่อยออกเท่าไร พอสร้างจริงแล้วใหญ่เกินคาดไปมาก ๆ พื้นที่ใช้สอยรวมทั้งหมดประมาณ 434 ตารางเมตร

        รื้อนั่งร้านออกแล้ว ดูเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาหน่อย อย่าลืมบอกผู้รับเหมาให้หาเมทัลชีท หรือสแลนมากั้นไซต์งานด้วย เพื่อความปลอดภัย หลังจากงานโครงสร้างเสร็จแล้ว ต่อไปงานก่อกำแพงก็เริ่มมา ตื่นเต้นมาก ๆ เพราะว่าดูใกล้ความจริงขึ้นมาอีกนิดแล้ว บ้านเราก่ออิฐ 2 ชั้นเพื่อซ่อนเสา สถาปนิกแกชอบแนวนี้เลยจัดมาให้ นอกจากจะทำให้บ้านดูเรียบเนียนตา จัดวางของง่ายแล้ว ยังช่วยเพิ่มความเย็นด้วย เพราะแดดส่องมาโดนแค่ผนังชั้นแรก 

        แนะนำเพื่อน ๆ ว่าให้เคลียร์แบบกับช่างก่อน เอาเส้นเชือกมาขึงดูว่าแนวผนังที่จะก่อโอเคมั้ย ขั้นตอนนี้จะมีการปรับแก้เยอะเลย เพราะเราจะเห็นของจริงแล้วว่าเป็นยังไง ทั้งขยับผนัง หรือเปลี่ยนตำแหน่งประตูหน้าต่าง (ค่าใช้จ่ายเพิ่มก็จะเริ่มงอกมา)

        เฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงทุกวัน เริ่มจะเหมือนในแบบมาบ้างแล้ว

        ก่อผนังเสร็จแล้วค่า ตื่นเต้นมาก

        หลังจากงานก่อ ก็จะเป็นงานฉาบ งานหลังคา และวางท่อไฟ หลังคาบ้านเราจะมีส่วนที่เป็นเมทัลชีท และเทคอนกรีต (เพราะทำ Skylight) บ้านสไตล์โมเดิร์นทรงกล่อง จะมีปัญหาเรื่องหลังคาเล็กน้อย น้ำจะไหลอาบลงมาที่ตัวบ้านตรง ๆ เราเลยเทขอบสูงขึ้น ปรับ Slope แล้ววางท่อน้ำทิ้ง

        งานวางท่อไฟ ต้องระวังไม่ให้ช่างเอาท่ออ่อน หรือท่อ Flex มาใส่ตามจุดเชื่อมต่อ ถ้าเจอสั่งเปลี่ยนให้หมด อนุญาตให้ใส่ได้แค่จุดที่ติดตั้งดวงโคม เพราะไม่งั้นเวลาซ่อมบำรุง ดึงไปมา ท่อจะขาดหมด และใน 1 ท่อ ห้ามใส่สายไฟเยอะเกินกว่ามาตรฐานกำหนด

        ใต้หลังคาเมทัลชีท พ่น PU foam ป้องกันความร้อน และเสียง ความหนาต้องได้ระดับที่ 2 นิ้ว เขาจะมีไม้จิ้มทดสอบ แล้วก็ตอนติดเมทัลชีทอย่าลืมส่องดูรูรั่วด้วย โชคดีที่เราทำงานหลังคาช่วงฝนพอดี รั่วตรงไหนเห็นหมดเลย

        งานฉาบเสร็จแล้ว ใกล้ความจริงเข้ามาอีกนิดแล้ว

        ถ้าใครอยากบิวท์อินบ้านแนะนำให้ออกแบบไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เลย เพราะเวลาวางปลั๊ก ก่อผนัง จะได้ไม่ต้องมาแก้ ของเราอินทีเรียที่ออกแบบมีการปรับตำแหน่งผนัง และหน้าต่างด้วย เพื่อความสวยงาม แบบบิวท์อินห้องครัวฝรั่ง

        แบบครัวไทย ไม่ได้บิวท์อินทำครัวปูนแล้วเลือกหน้าบานน่ารัก ๆ มาใส่ อันนี้ออกแบบ และขึ้นแบบเองโดยใช้โปรแกรม Sketcup

        แบบบิวท์อินห้องแต่งตัว

        หลังจากฉาบเสร็จแล้วก็มาเริ่มงานฝ้า และทาสี แนะนำว่าถ้าอยากให้บ้านดูสวยเนียน ต้องทาสกิมโค้ดเท่านั้น เราเลือกใช้สีขาว TOA 8260 จะไม่ขาวจนเกินไป ออกแนวขาวควันบุหรี่

        สกิมโค้ดช่วยให้ผิวเรียบ ขาวเนียนไปหมด งานฝ้านอกตัวบ้านต้องเป็นฝ้ากันชื้น สีเขียวแตกต่างกับฝ้าในบ้าน

        งานปูกระเบื้องห้องน้ำก็เริ่มมาแล้ว 

        ในขณะที่งานภายในบ้านกำลังทำอยู่ งานนอกบ้านก็ทำควบคู่กันไปด้วย ท่อน้ำทิ้งบ้านเราขนาด 12 นิ้ว ใหญ่มาก ๆ อย่าลืมกำชับช่างให้ขุดหลุม อัดทราย และเทลีนก่อนวางท่อ ไม่อย่างนั้นถ้าดินยุบ ท่อก็จะหลุดออกจากกัน เป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต ต้องขอบคุณ Consult และผู้รับเหมามาก ๆ เพราะตอนแรกขุดวางท่อไปแล้วรอบบ้าน แต่ช่างเอาวางบนดินเฉย ๆ แกสั่งรื้อ ขุดขึ้นมาทำใหม่หมดเลย

        งานรั้ว ต้องคำนวณระยะดี ๆ ไม่งั้นจะมีเด็กแอบหนีออกไปเที่ยว

        หลังจากทาสี เก็บฝ้าแล้ว งานพื้นก็ตามมา ห้องรับแขกเราเลือกใช้แกรนิตโต้ ในส่วนของกระเบื้อง จะเป็นตัวที่ทำให้เสียเงินเพิ่มจาก BOQ มากที่สุด แนะนำให้เลือกและสั่งไว้แต่เนิ่น ๆ เพราะต้องรอของ 1-2 อาทิตย์เลยทีเดียว

        ห้องนอนพ่อแม่ ใช้พื้นกันกระแทกของ SCG ส่วนบันได และพื้นที่ชั้น 2 ใช้เป็นลามิเนต กับกระเบื้องยาง ดังนั้นจะต้องมีการปรับพื้นให้เรียบก่อน ถ้าไม่เรียบต้องปรับใหม่ บ้านเราปรับไป 2 รอบ

        งานบิวท์อินเริ่มเข้ามาติดแล้ว ควรเผื่อเวลาไว้ด้วยเพราะใช้เวลาติดนานอยู่เหมือนกัน (ของเราเกิน 2 อาทิตย์) แล้วก็อย่าลืมเน้นย้ำให้ช่างนำไม้อัดมาปูพื้นป้องกันความเสียหายด้วย

        มาถึงจุดเด่นของบ้านหลังนี้ กระจกมาติดแล้ววว เป็นบ้านที่มีกระจกเยอะมาก รอบตัวบ้านเลย ช่วยให้ดูโล่ง และมองเห็นสวนกลางบ้านได้จากทุกมุม

        และไฮไลต์ของบ้านก็คือต้นไม้กลางบ้านนั่นเอง เราสั่งจากใน Facebook มา 2 ต้น และเนื่องจากว่าหน้าบ้านมีโรงรถกั้น ทำให้ต้องใช้เครนขนาดใหญ่ยกต้นไม้ข้ามมาเป็นระยะทางถึง 13 เมตร ซึ่งซอยบ้านเรากว้างแค่ 3 เมตร รถยนต์ยังสวนกันไม่ได้ เล่นเอาใจหายใจคว่ำ

        หลังจากกระจกมาแล้ว งานไฟก็เริ่มเข้ามาต่อ เราเลือกใช้ไฟ Cool White 4000k ตามที่เพื่อนอินทีเรียแนะนำ ไม่ขาว ไม่เหลืองจนเกินไป ทำให้บ้านอบอุ่นมาก ๆ ลองไฟคืนแรกความเหนื่อยสะสมตลอดปีที่ผ่านมา หายเป็นปลิดทิ้ง

        บ้านโล่งมานาน มีประตูแล้วว เราใช้ประตูโรงจอดรถเป็นประตูบ้านไปเลย ตอนแรกพ่อไม่เห็นด้วยเพราะกลัว บอกว่าเหมือนไม่มีประตูบ้าน แต่พอติดแล้วก็พอใจ เพราะค่อนข้างมิดชิด และเป็นประตูเลื่อนอัตโนมัติ ไม่ต้องพกกุญแจ สั่งผ่านมือถือเอา

        ระแนงไม้หน้าบ้านมาเพิ่มความอบอุ่น และตู้จดหมายน่ารัก ๆ ตอนแรกทุกคนไม่อยากให้ใส่ระแนงเพราะดูโมเดิร์น แต่พอติดแล้วอบอุ่นเปลี่ยนอารมณ์ของบ้านไปเลย

        ประตูโรงเล็กโรงจอดรถมาติดแล้ว เป็นอันเสร็จสิ้นงานภายนอก หลังจากนั้นประตูภายในบ้านก็ตามมา เราเลือกใช้บานสีขาว พ่นสีอุตสาหกรรม จะให้ความเนียนแบบไม่เห็นเสี้ยนไม้เลย แต่ถ้าเป็นรอยจะเห็นชัดก็เลยมาติดตอนท้าย ๆ 

        สุขภัณฑ์เข้ามาติดตั้งแล้ว ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว อันนี้เป็นห้องน้ำของเราเอง บิวท์อินเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ ซ่อนพวกท่อ และเครื่องทำน้ำร้อนด้านใต้

        แบ่งห้องน้ำเป็นโซนเปียก แห้ง และเจาะ Skylight ด้านบนอ่าง

        ห้องน้ำเรา ห้องน้ำแขก และห้องน้ำพ่อแม่ โทนเดียวกันหมดเลย 

        งานภายในส่วนสุดท้าย คือการติดพื้นลามิเนต เก็บบิวท์อินและติดม่าน เริ่มจากห้องนั่งเล่นกันก่อน ตั้งใจให้โซฟาหันหน้าไปทางหน้าบ้าน จะได้มองเห็นเวลามีใครมา

        บิวท์อินครัวฝรั่ง ให้ความรู้สึกอบอุ่นมาก ๆ

        ครัวไทยที่เป็นครัวปูน แล้วเลือกหน้าบานไม้มาใส่

        จุดเด่นของบันไดขึ้นไปชั้น 2 คือโคมไฟระย้าที่เราทำเอง นั่งร้อยเส้นเอ็น หมุนสกรูทีละตัว ภูมิใจมาก ๆ แถมราคาถูกกว่าซื้อเกินครึ่ง

        ทางเดินในบ้านเราเวลามองจะเห็นเป็นแนวตรงยาว มีหิ้งพระแบบน่ารักๆอยู่บนชั้น 2

        ห้องนอน และ Walk-in Closet ของเรา เจาะหลังคาทำ Skylight เหมือนกัน และอีกฟากนึงจะเป็นห้องของพี่สาว บ้านหลังนี้มี 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ เหมือนมีคอนโดคนละห้อง ได้ไปทั้งฟากเลย

        ก่อนจะจบกระทู้ ขอพาออกไปทัวร์นอกบ้านสักนิด ที่เห็นเป็นประตูสเตนเลสตรงนั้นคือฝาถังขยะ เพื่อความเรียบร้อย และไม่อยากให้มีขยะวางไว้หน้าบ้าน หลังโรงจอดรถมีรั้วกั้นสุนัขไม่ให้แอบไปเที่ยวนอกบ้านได้ และมีทางลาดสำหรับวีลแชร์ขึ้นไปห้องพ่อกับแม่ 

.

.

.

.

.

.

.

        งบประมาณในการก่อสร้างบ้านหลังนี้ ตาม BOQ อยู่ที่ 6.5 ล้านบาท ไม่รวมเฟอร์นิเจอร์ พอทำจริง ๆ แล้ว ก็มีทั้งส่วนที่เลือกวัสดุแพงขึ้น และค่าบิวท์อิน, ม่าน, ต้นไม้, ประตูเลื่อนโรงจอดรถ บลา ๆ ทำให้ขยับไปที่ประมาณ 8.5 ล้านบาท

        ถามว่าหนักมั้ย ก็หนักมากอยู่ แต่คุ้มค่ามั้ย ก็คุ้มค่าอยู่นะคะ แลกกับความสุขของตัวเองและครอบครัว ตอนนี้เหมือนได้ไปเที่ยวพักผ่อนอยู่ทุกวัน ทุกคนแฮปปี้มากค่ะ

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<

ที่มา : คุณ FeverNac สมาชิกเว็บไซต์พันทิปคบหมอสร้างบ้าน