LIEKR:
น้ำตาไหล! เจ้าบ่าวจำต้องบอกความจริงแสนเจ็บ ในวันที่เจ้าฝันได้สวมชุดแต่งงานตามฝัน
สามีรวบรวมความกล้า บอกความจริงในวันที่ภรรยาฝันอยากจะใส่ชุดเจ้าสาวกลายเป็นจริง หลังรู้มาตลอดว่าเธอกำลังป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และมันยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ
ผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ Aekstory Storylovewedding โพสต์ภาพบรรยากาศงานแต่งงานที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ฝ่ายเจ้าสาวฝันมาตลอดว่าอยากจะได้มีโอกาสสวมชุดเจ้าสาว แต่ด้วยหน้าที่การงานทำให้ต้องทิ้งความฝันไป ก่อนความฝันจะกลายเป็นจริงสามีพาเธอมาถ่ายภาพชุดบ่าวสาว รวบความความกล้าบอกความจริงที่เขาไม่อยากจะบอก เกี่ยวกับอาการโรคของเธอทั้งหมด
Sponsored Ad
"น้องหนิง ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย..เป็นความตั้งใจมากๆของเธอที่อยากจะใส่ชุดเจ้าสาวมาตลอด..นั้นคือความฝันของเธอตลอดระยะเวลาที่อยู่กับสามีมาด้วยการงานหน้าที่ ที่ทั้งสองต้องทำมันทำให้ความฝันของทั้งสองที่อยากมีแค่ภาพคู่ในชุดเจ้าสาวของทั้งสองเป็นเรื่องที่จะต้องวางไว้ก่อน..จนวันนี้ฝันของทั้งสองเป็นจริง..แต่ใครจะรู้ละว่าภาพถ่ายในชุดเจ้าสาวของทั้งสองที่ฝันไว้ !!ภาพถ่ายในชุดราตรีสีขาวและชุดสูทที่หล่อเทห์ที่อยากจะใส่ถ่าย. วันนี้มันไม่มีบรรยากาศของรอยยิ้มและความสุขเลยมันช่างสวนทางกับหลายๆคู่ที่เขาถ่ายกัน
Sponsored Ad
ทุกสิ่งทุกอย่างดูตรึงเคลียด มันมีแต่คาบน้ำตาและน้ำตาที่ไหลแล้วไหลอีกจนทำให้เห็นถึงร่องรอยของคาบน้ำตาที่กัดลึกไปจนถึงหัวใจอันบริสุทธิ์ของทั้งสองที่มีต่อกัน..และในวันนี้เองที่ตลอดเวลาที่หนิงป่วยมา ผู้ชายที่เป็นคู่ชีวิตของเธอพยายามที่จะรวบรวมความกล้าบอกเรื่องราวที่ไม่อยากบอกและไม่อาจจะเก็บไว้ให้เธอฟังเพราะเธอถามเขาตลอดจนเขารู้สึกอึดอัดใจเหมือนแบกภูเขาที่ทับอก.. แต่วันนี้ชายคนนี้ทนไม่ใหวจึงต้องบอกเธอทุกอย่างเกี่ยวกับโรคของเธอ...บรรยากาศมันช่างน่าเศร้ามากๆทั้งสองร้องไห้กอดกันทำทุกอย่างที่จะสื่อด้วยภาษาใจให้รู้ว่าทั้งสองรักกันมากและจะดูแลกันตลอดไป..ถ้าคาบน้ำตาที่เห็นอยู่มันบอกเรื่องราวความเจ็บปวดนั้นได้คงกลายเป็นปาดแผลที่สุดแสนจะบรรยายถึงความเจ็บปวดใดๆได้..
Sponsored Ad
บรรยากาศ ณ.ตอนนี้ทุกๆคนในบ้าน ญาติๆที่มาดูทั้งสองถ่ายภาพคู่กันและขอแค่ใบเดียวเท่านั้นที่ทั้งสองต้องการ..ต่างร้องไห้กันแม้แต่ผมและทีมงานที่อาสาต่อเติมฟันของทั้งสองให้เป็นจริงถึงกับอดทนไม่ไหวที่จะร้องไห้ตามไปด้วย ผมพยายามใส่แว่นตาและปิดผ้ากันจมูกไม่ให้ใครเห็นน้ำตา มันมีความตรึงเคลียดตลอดในการถ่ายภาพเป็นการถ่ายภาพที่.แม้ว่าจะต้องการแค่ใบเดียวแต่มันถ่ายยากมากๆในความรู้สึกผม..เพราะกลิ่นไอของความรักของทั้งสองมันทำให้ผมรนรานและคิดตามภาพที่เห็นตลอดมันยังเหลืออยู่อีกเหรอรักที่อุทิศทั้งหัวใจให้กันขนาดนี้..ผมยกย่องหัวใจของชายผู้นี้มากๆ...!!!! ถามใจคุณดูถ้าเรื่องราวเช่นนี้เกิดกับคุณและครอบครัวคุณบ้างคุณจะตั้งรับและยอมรับมันยังงัยถ้าหัวใจคุณไม่บริสุทธิ์พอ..และไม่พอที่จะรักกัน..สุดท้ายฝากทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านและรู้เรื่องราวเช่นนี้ช่วยเป็นกำลังใจและพอมีตรงไหนที่ท่านอยากจะช่วยเหลือครอบครัวของเขาได้..เดินออกมาครับ!!!!"
.
.
.
.
.
.
ข้อมูลและภาพจาก jarm
