สื่อต่างประเทศรายงานว่า เราสามารถสังเกตได้จาก “รูปร่าง กลิ่นและสี” ของอุจจาระเพื่อดูว่าเราจำเป็นต้องปรับวิถีชีวิตและนิสัยการกินของเราไหม? หรือนั้นกำลังบ่งบอกถึงสุขภาพของเรากำลังแย่กันแน่?  มาดู "แผนภูมิอุจจาระ"(The Bristol Stool Chart) :

    มาดูตามตารางแผนภูมิอุจจาระกันเลยว่ามีแบบไหนบ้าง?

ชนิดที่ 1 อุจจาระจะเป็นก้อนๆ แยกกัน (ขับถ่ายยาก)   

ชนิดที่ 2 อุจจาระคล้ายไส้กรอก แต่เป็นก้อนอัดกันแน่น พื้นผิวเป็นนูนไม่เรียบ

    หากคุณมีลักษณะเหมือนชนิดที่ 1-2 แสดงว่าอุจจาระข้างอยู่ในลำไส้ใหญ่เป็นเวลานานเกินไป ทำให้อุจจาระมีความชุ่มชื้นน้อยเกินไป และทำให้เกิดเป็นก้อนๆ หรือไส้กรอกที่เป็นหลุมเป็นบ่อ คนที่มีลักษณะแบบนี้แสดงว่าเป็นคนที่มีแนวโน้มมีอาการเครียดและใจร้อน 

    แนะนำ: ให้บรรเทาความเครียด และดื่มน้ำให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ กินอาหารที่มีกากใยอาหารที่เพียงพอ รวมทั้งออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ

ชนิดที่ 3 อุจจาระมีลักษณะคล้ายไส้กรอก แต่มีรอยแตกที่พื้นผิว

ชนิดที่ 4 อุจจาระมีพื้นผิวคล้ายไส้กรอก ผิวเรียบและอ่อนนุ่ม

คนที่มีลักษณะอุจจาระเหมือชนิดที่ 3-4 แสดงว่าปกติ และเป็นชนิดที่สมบรูณ์แบบที่สุด

ชนิดที่ 5 อุจจาระมีลักษณะเป็นก้อนนุ่ม แยกกันเป็นก้อนๆ

ชนิดที่ 6 อุจจาระมีลักษณะอ่อน มีขอบหยัก หนาอ่อนนุ่ม

ชนิดที่ 7 อุจจาระมีลักษณะเป็นน้ำ เหลว ไม่เป็นก้อน

คนที่มีลักษณะอุจจาระเหมือนชนิดที่ 5-6-7 แสดงว่าอาจเป็น “โรคท้องร่วง” ควรเลี่ยงอาหารที่ไม่สะอาด หรืออาหารข้างคืน ควรทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น

ชนิดที่ 5 มักเกิดจากการหดตัวของลำไส้ที่ไม่เพียงพอ จนทำให้เกิดอาการตรากตรำหรือเหนื่อยล้า หรืออาจเพราะรับประทานอาหารที่มีเส้นใยไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายดึงสารอาหารไปใช้งานได้ไม่เพียงพอ 

แนะนำ: ให้รับประทานอาหารเซลลูโลส 20 ชนิด 25 กรัมต่อวัน 

ชนิดที่ 6 แสดงถึงการกระจายของแบคทีเรียที่ไม่สม่ำเสมอในร่างกาย, แบคทีเรียที่ไม่ดีมากเกินไป, หรือการดูดซึมโปรตีนผิดปกติ หากปรับปรุงการรับประทานอาหารแล้วยังไม่ดีขึ้น อาจเป็นเพราะลำไส้ใหญ่อักเสบ รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายด่วน

ชนิดที่ 7 อาจเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส หลีกเลี่ยงอาหารที่ระคายเคือง รสจัด มันเกินไป หันมารับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูง เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองลำไส้แน่นอนแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีที่สุด

    นอกจากนี้ถ้าสีของอุจจาระเป็น

“สีเทาขาว” ก็หมายความว่า น้ำดีถูกบล็อก 

“สีเขียวเข้ม” บ่งบอกว่าอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรีย

“สีแดงสดใส” หมายถึงมีเลือดออกในทางเดินอาหารส่วนล่าง

“สีดำ” อาจเป็นเลือดออกในท้องหรือลำไส้เล็กส่วนต้น 

    ถ้าอุจจาระ “มีกลิ่นมากเกินไป” ก็มักจะหมายถึงการได้รับโปรตีนและไขมันมากเกินไป ฉะนั้นควรรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ให้เพียงพอและลดปริมาณโปรตีนและไขมันเพื่อเปลี่ยนอุจจาระที่มีกลิ่นแรงเกินไป.

ที่มา:teepr

แปลและเรียบเรียงโดย Liekr