คบกันมานาน ไม่เคย น อ ก ใ จ แต่กลับขอ "แ ย ก ห้องนอน" กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้รักกันมากขึ้น

LIEKR:

ดูดดื่มยิ่งกว่าเดิม! ที่เธอพูดมาก็มีเหตุผลนะ

    ปัจจุบันมีคู่รักหลายคู่ที่มักประสบปัญหาหลังกลับมาจากการฮันนีมูนก็จะแยกห้องนอน โดยปกติทุกคนมักจะคิดว่าการที่คู่รักแยกห้องนอนนนั้นไม่ใช่เรื่องดี อาจเป็นเพราะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแอบ น อ ก ใ จ หรือเกิดปัญหาอะไรขึ้นระหว่างทั้งสองเปล่า? แต่ทว่ามีคู่รักบางคู่ที่แยกห้องนอน แต่ความสัมพันธ์กลับดีขึ้นเรื่อย ดังนั้นการแยกห้องนอนก็ไม่ได้พิสูจน์ว่าต้องมีความสัมพันธ์ที่แย่เสมอไปนะ!

    สื่อต่างประเทศรายงานว่า มีหญิงชาวเน็ตคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตร่วมกันกับสามีเป็นเวลา 8 ปี แต่พวกเขานอนห้องเดียวกันแค่หนึ่งปีเท่านั้น ดังนั้นอีก 7 ปี เพราะเขาแยกห้องนอนกันเสมอมา แต่ไม่ใช่เพราะพวกเขาทะเลาะกันหรือเพราะมีลูก (พวกเขาไม่มีลูก) แต่เป็นเพราะพวกเขาชอบแบบนั้น และพวกเขาคิดว่าการแยกห้องนอนหรือไม่ได้ออกมาท่องเที่ยวด้วยกันนั้นจะไม่เป็นปัญหาใหญ่ ขอเพียงแค่มีชีวิตคู่ที่มีความสุขก็พอแล้ว 

 

Sponsored Ad

 

    ในความเป็นจริงแล้ว ชีวิตหลังจากการแต่งงานคุณอาจถูกแบบแผนบางอย่างที่จะทำให้คุณรู้สึกว่าคุณไม่ควรทำอย่างนั้น อย่างนี้ ดังนั้นเธอจึงต้องการแบ่งปันประโยชน์และข้อดีของการแยกห้องนอน 

     เรื่องราวเกิดขึ้นโดยเริ่มต้นจาก มีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อเธอสะดุ้งตื่นกลางดึก และพบว่าสามีของเธอหายไป ผลปรากฎว่าพบเขานอนอยู่ที่โซฟาของห้องรับแขก รุ่งเช้าเธอก็ตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที ในเช้าวันนั้นเธอถามสามีบนโต๊ะอาหารว่า “ทำไมต้องไปนอนที่โซฟาของอีกห้อง?” สามีตอบกลับเธอไปว่า “รู้ไหมว่า ผมนอนไม่หลับเลย ทุกครั้งที่คุณพลิกตัว และกรนเสียงดังผมก็จะตื่นทันที” พอเธอได้ยินแบบนี้ก็ตกใจมาก เพราะเธอไม่รู้เลยว่าตนเองทำอะไรขณะที่นอนหลับสนิท และในวันถัดมาสามีก็ไปนอนที่โซฟาอีก

 

Sponsored Ad

 

    เธอเริ่มคุยกับสามีอย่างจริงจัง และพบว่าพวกเขามีวิถีการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การทำงานของเธอค่อนข้างสบาย ฉะนั้นเธอสามารถนอนดึกดูซีรี่ย์หรือดูหนังสือได้ แต่สามีของเธอมีเวลาทำงานที่กำหนด ต า ย ตัว ดังนั้นจะต้องนอนเช้าหน่อย แต่เป็นเพราะการนอนห้องเดียวกันนั้นทำให้ส่งผลกระทบต่อกันและกัน ทำให้พวกเขาหงุดหงิดและเหนื่อยล้ามากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นคือเริ่มทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสอง ในที่สุดพวกเขาก็บรรลุข้อตกลงที่จะแยกห้องนอนกัน และพอดีว่าที่บ้านก็มีห้องว่างหนึ่งห้องพอดี แต่ผู้หญิงคนนี้ก็พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า ในช่วงแรกๆเธอไม่อยากให้แยกห้องนอนเลย เพราะเธอรู้สึกแปลกมากเพราะพ่อแม่ของเธอก็แยกห้องนอนหลังจากแต่งงานนอนห้องเดียวกันมา 25 ปี แต่แฟนของเธอกลับรู้สึกมีความสุขมากเพราะสามารถเข้านอนได้เร็วขึ้น และตื่นขึ้นมาอย่างมีความสุขในตอนเช้า แถมยังสามารถช่วยเตรียมอาหารเช้าให้เธอได้ จากนั้นจึงจะไปทำงานอย่างมีความสุข หลังจากแยกห้องนอนแล้วข้อ พิ พ า ท ปัญหาระหว่างพวกเขาทั้งสองก็หายไปอย่างสมบูรณ์ ยิ่งไปกว่านั้นคือพวกเขาก็สามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันมากกว่าเดิม

 

Sponsored Ad

 

    อันที่จริงแล้วการแยกห้องนอนแล้วทำให้รู้สึกดีขึ้นนั้นมีแหล่งอ้างอิงอยู่นั้น ในโรมยุคโบราณก็ไม่มีการนอนห้องเดียวกันเป็นนิสัยนะ มีเพียงแค่ตอนมี เ พ ศ สั ม พั น ธ์ เท่านั้นถึงจะนอนเตียงเดียวกัน  หลังเสร็จภารกิจก็จะกลับไปนอนเตียงใครเตียงมัน และในยุควิคตอเรียแห่งอังกฤษทุกครอบครัวก็แยกห้องนอนเช่นกัน ยุคก่อนการ ป ฏิ วั ติ ของขุนนางรัสเซียก็แยกห้องนอนเช่นกัน โดยแต่ละคนจะมีห้องนอนส่วนตัวเสมอ กระทั่งในยุคการเริ่มต้นการ ป ฏิ วั ติ อุตสาหกรรมจึงเริ่มมีการนอนห้องเดียวกัน นั้นเป็นเพราะว่าพวกเขาต้องอาศัยในอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ ทำให้ไม่มีทางเลือกอื่น  

 

Sponsored Ad

 

    แม้แต่ศาสตราจารย์ด้านสังคมวิทยา พอล ซี.โรเซนแบท (Paul C. Rosenblatt) ก็ตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับปัญหาที่คู่รักเผชิญเมื่อพวกเขานอนด้วยกัน เพราะทุกคนมีนิสัยและความเคยชินกับการนอนที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดมีความขัดแย้งมากมาย 

 

Sponsored Ad

 

    ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับดร. นีล สแตนลีย์ (Dr. Neil Stanley) ยังกล่าวอีกว่า "การนอนหลับเป็นกิจกรรมที่เห็นแก่ตัวและไม่ต้องการแบ่งปันกับใคร"

    แม้ว่าหลายคนยังเชื่อว่าการนอนแยกห้องกันนั้นจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าการแต่งงานที่ไม่สมบูรณ์แบบ แต่ทว่าการแยกห้องนอนก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องก่อให้เกิดปัญหาเสมอไป บางครั้งแค่ให้ทั้งสองคนมีคุณภาพการนอนหลับที่ดีขึ้นเท่านั้นเอง 

 

Sponsored Ad

 

    ยังมีดาราหลายคนรวมถึง George Clooney และ Emma  ภ ร ร ย า ของเขาที่แยกห้องนอนกัน

Sponsored Ad

    และ Michael Douglas และ Catherine ภ ร ร ย า ของเขาก็นอนแยกห้องกันอยู่ 

    จากประสบการณ์ที่ชาวเน็ตคนนี้ได้แบ่งปันระหว่างเธอกับสามีก่อนแต่งงานกันก็แยกห้องนอนกันมา 5 ปีแล้ว สุดท้ายทั้งของคู่ก็สานความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากขึ้น จนกระทั่งตัดสินใจแต่งงานกัน ดังจากประสบการณ์ของเธออาจกล่าวได้ว่า การนอนห้องเดียวกันนั้นไม่ได้หมายความว่าความสัมพันธ์จะต้องไม่ดีเสมอไปหรอกนะ มันเป็นเพียงการให้เวลาส่วนตัวกับตนเองบ้างก็เท่านั้นเอง

ที่มา:teepr

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR

บทความที่คุณอาจสนใจ