ยังคงไม่ทิ้งความเป็นพระเอกจริงๆ สำหรับ สเตฟาน ฐสิษฐ์ หรือ สันติ วีระบุญชัย อดีตพระเอกช่อง7 ลูกครึ่ง ไทย-อิตาลี หลังจากหันหลังให้วงการบันเทิงไปทำในสิ่งที่ชอบ ซึ่งภาพก่อนหน้านี้ที่สเตฟานดูอ้วนขึ้น จนหลายคนทัก

      และภาพปัจจุบันล่าสุด ที่กลับมาเห็นสเตฟานผอมลง และหล่อขึ้นกว่าเดิมทันตา เป็นหนุ่มหล่อยิ้มหวานแต่ดูเป็นหนุ่มสไตล์เซอร์ถูกใจสาวๆ

      ซึ่งทันทีที่ทุกคนเห็นภาพสเตฟานก็ยิ่งคิดถึงผลงานการแสดง เรียกร้องอยากให้สเตฟานกลับมาป็นพระเอกอีกครั้ง

      สำหรับสเตฟานที่เลือกจะไปเป็นพระเอกในชีวิตมากกว่าในจอ แม้ทุกคนจะเสียดายแทน แต่นี่ก็คือเส้นทางแห่งความสุขของสเตฟานเลือก ที่เจ้าตัวได้บอกไว้ว่า…

      “สำหรับผมการเลือกดำเนินชีวิตโดยเราเป็นพระเอกในชีวิตของเราเอง ผมว่ามันมีค่าและมีความสุขมากกว่า เป็นพระเอกในละครนะ เพราะละครเราต้องเล่นตามบทที่ได้รับมา แต่ในชีวิตเราเองเราสามารถกำหนดได้หมดว่าเราอยากทำอะไรอยากเป็นอะไร

      แต่แปลกที่หลายๆ คนกลับชอบให้สังคมมากำหนดบทในชีวิตตัวเอง หรือเลือกที่จะเป็นตัวร้ายในชีวิตตัวเอง (ทำชั่วเป็นคนชั่วเสพยาขโมยของ เป็นต้น) ทั้งๆที่ทุกคนเคยดูละครก็รู้หมดว่าเป็นพระเอกย้อมดีกว่าตัวร้ายอยู่แล้ว”

      พระเอกหนุ่ม สเตฟาน ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์ มาเปิดใจสตรีมสดผ่านช่องยูทูบของตัวเอง ทั้งที่เป็นพระเอกระดับต้นๆของช่อง

      ตอนแรกจะพักการแสดงกลายเป็นขอออกจากวงการไปเลยว่า หลังเรียนจบก็เข้าวงการเลย มีความสุขกับการเล่นละคร แต่ไม่มีความสุขกับการเป็นดารา ไม่ใช่คนติสต์ แต่ทำตัวปกติ อยู่ในวงการไม่ได้

      “ผมทำตัว นิสัยไม่เปลี่ยน อยู่วงการยาก ผมเหนื่อยที่จะต้องทำตามคนอื่นๆ ผมโลกส่วนตัวสูง ผมโรคจิตอยู่อย่าง ผมรู้สึกอยู่อย่างว่า ผมถูกกักขัง ผมไม่อิสระไม่ได้ ผมไม่ต้องการเป็นข้าของใคร ผมเล่นละคร 10 ปี ผมได้หยุดนับวันได้ วันพ่อ วันแม่ไม่ได้หยุด”

      “มีครั้งหนึ่ง ผมโกรธคนที่กองถ่าย วันแม่ ผมถ่ายละครทั้งวัน ถึง 8 โมงเช้าวันแม่ ผมคิดว่าผมจะได้กลับบ้านแล้วนะ แต่บอกให้ผมกลับไปอาบน้ำ แล้วรีบกลับมาถ่ายต่อ 11 โมง ผมจำได้เลยว่าผมโกรธมาก ผมถามคนที่อยู่ที่กองว่า มึงไม่มีแม่เหรอ ไอ้สั…… วันนี้วันแม่นะเว้ย มึงยังจะให้กูทำงานอีก ผมก้มหน้า 10 ปี ตื่นมาอีกทีก็อายุ 30 แล้ว”

      สเตฟาน ยังเผยอีกว่า ดาราเป็นทาสของสังคม คนมีชื่อเสียงเป็นทาสของสังคม ไม่ว่าจะอะไรจะเกิดขึ้น เรามีผู้พิพากษาเป็นสังคมตลอดเวลา

      รายได้หลัก นอกจากไปเที่ยว ไปซื้อของ ผมจะเอามาดูแลแม่ดูแลพ่อผม ส่องน้องเรียนมหาลัย ปีที่ 9 ที่เล่นละคร แม่ผมป่วย ผมรักแม่มาก แม่ผมจะเสียสละให้ผมทุกอย่าง ไม่ว่าผมจะยังไง 10 ปี ผมไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับพ่อแม่เลย ประกอบกับผมเหนื่อยกับการเป็นทาสสังคม

      และผมรู้ว่าแม่ผมอยู่อีกไม่นานแน่ ผมก็เลยออกจากวงการมาอยู่กับแม่ พอแม่ผมเสียปีกว่าแล้ว ผมย้ายบ้านมาอยู่กับพ่อและน้องสาวคนเล็ก พ่อ 76 แล้ว ผมอยากใช้เวลาอยู่กับพ่อให้นานที่สุด ผมไม่ใช่ลูกที่ดี เคยขึ้นเสียงกับพ่อแม่บ้าง รู้สึกผิดทุกวัน เพราะวันใดท่านจากไปแล้ว เราจะเหลือแค่ความทรงจำดีๆ งานศพแม่ ผมไม่เคยร้องไห้ตอนงานศพ แต่ผมตื่นเช้ามา ผมรู้สึกแย่มากๆ

      “นั่นแหละเหตุผลที่ผมเลิกเล่นละคร ถามว่าไม่เสียดายเงินเหรอ ผมเล่นละครเรื่องหนึ่งผมได้เป็นล้านแล้ว ผมโชว์ตัวชั่วโมงหนึ่งก็ได้เป็นแสนแล้ว เมื่อก่อนผมใช้เงินเก่ง ผมกินเหล้าทุกวัน วันละ 5 หมื่น ผมอยากได้รถผมซื้อเงินสดเลย ซื้อของทุกวันแต่ก็ไม่มีความสุขเลย วันนี้ผมอาจไม่สบาย ไม่ได้มีชื่อเสียง ไม่ได้หาเงินง่าย เหมือนตอนเป็นดารา แต่ผมตื่นมาแล้ว ผมมีความสุขมากกว่าตอนเป็นดารา”

.

ข้อมูลและภาพ จาก truststoreonline