คุณไม่เคยรู้ชีวิตของคนอื่น

ก็อย่าไปตำหนิเขามั่วๆ

คนอื่นมีชีวิตยังไง

เดินผ่านอะไรมาบ้าง

คนรอบข้างไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆ

ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์ไปวิพากษ์วิจารณ์ใคร

เพราะไม่เคยมีประสบการณ์จริง

ไม่สามารถเข้าใจทุกอย่างได้

บางทีคุณอาจจะฉลาดกว่าคนอื่นเล็กน้อย

ในสายตาของคุณชีวิตคนอื่นไม่มีอะไร

แต่คุณอย่ามองและวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นจากมุมมองของตัวเอง

อย่าพูดอะไรเป็นการตัดสินคนอื่น

มองปัญหาอย่างเป็นกลาง

จริงๆ แล้ว

บางครั้งคนเราก็ควรจะเปลี่ยนมุมมองในการมองปัญหา

มีนิทานเรื่องหนึ่งเล่าว่า

มีหมู แกะ และวัว อาศัยอยู่ในคอกเดียวกัน

มีอยู่ครั้งนึง เจ้าของมาจับหมู

หมูก็เลยร้องเสียงดัง ต่อต้านอย่างรุนแรง

แกะกับวัวเกลียดเสียงร้องของมัน

ตะโกนออกไปอย่างโกรธๆ

“แกจะร้องอะไรนักหนา เขามาจับพวกเราออกไปบ่อยๆ พวกเราไม่เคยร้องเลย”

เจ้าหมูได้ยินก็ตอบ

“จับพวกแกไปกับจับชั้นไปไม่เหมือนกัน เขาจับแกไป

ก็เอาแค่ขนกับน้ำนม แต่จับชั้นไป จะเอาชีวิตชั้น”

แกกับวัวได้ยินก็เงียบไป

เป็นเรื่องที่ลึกซึ้งมาก

มันแสดงให้เห็นว่า คนที่อยู่ในสถานการณ์แตกต่างกัน สภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน

ยากที่จะเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่าย

ถ้าเราลองมองปัญหาจากมุมมองของคนอื่น

ก็จะสามารถเข้าใจคนอื่น ใกล้ชิดและรับรู้ถึงข้อเท็จจริง

ทำให้เห็นอกเห็นใจกันและกันมากขึ้น

ทำให้ผู้อื่นยอมรับได้ง่าย ดังนั้นการเข้าใจผิดและความขัดแย้งจะลดน้อยลง

คนก็เป็นแบบนี้

ถ้าคุณสามารถเข้าใจการร้องตะโกนของหมู

คุณจะยังกล้า ฆ่ า มันมั้ย ?

การ ฆ่ า คนจะได้รับการตัดสินตามกฎหมาย

แล้ว ฆ่ า สัตว์ล่ะ ?

พวกมันก็มีชีวิต

ลองมองจากมุมของพวกมัน

ถ้าคนที่ถูก ฆ่ า เป็นคุณ คุณจะทำยังไง

ทุกสิ่งบนโลกใบนี้

ไม่มีอะไรเกิดมาโดยไร้เหตุผล

ไม่ว่าใครทำอะไร

ล้วนมีเหตุผลของตัวเองที่คนอื่นไม่รู้

บางคนชอบตำหนิคนอื่นโดยไม่ถาม

โดยที่ไม่เคยรู้เบื้องหลังของเหตุผล

ก่อนที่คุณจะตำหนิคนอื่น

ต้องเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดก่อน

หากไม่สนใจแล้วรีบวิพากษ์วิจารณ์

ก็อาจจะทำ ร้ า ย คนอื่นได้ง่ายๆ พวกเราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง

นิสัยการชอบตัดสินชีวิตคนอื่นว่าถูกผิด

เปลี่ยนมุมมอง

คุณจะพบว่าโลกนี้ไม่ได้มีแค่คุณคนเดียว

ไม่ว่าเรื่องราวจะธรรมดา หรือบิดเบี้ยวไปมา

แต่ละคนล้วนผ่านเรื่องราวมาไม่เหมือนกัน

ความเศร้า ความสุขในชีวิตเป็นสิ่งไม่ถาวร

ใครๆ ก็มี น้ำ ต า และความ เ ศ ร้ า 

เราต้องเรียนรู้ที่จะชื่นชมและ โ ศ ก เ ศ ร้ า

เรียนรู้ที่จะใจดีต่อคนอื่น เพราะชีวิตไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

มีอีกเรื่องหนึ่ง

หลังจากคุณหมอคนหนึ่งได้รับโทรศัพท์ให้ไปผ่าตัดฉุกเฉิน

ก็รีบเดินทางไปโรงพยาบาลและเปลี่ยนชุดอย่างรวดเร็วที่สุด

พ่อของเด็กชายตะโกนใส่หน้าคุณหมออย่างควบคุมตัวเองไม่ได้

“ทำไมคุณหมอมาช้าแบบนี้ คุณไม่รู้หรือไงว่าอาการลูกชายผม อั น ต ร า ย แค่ไหน

ทำไมไม่มีความรับผิดชอบเลย”

คุณหมอยิ้มตอบ

“ขอโทษด้วย เมื่อกี้ผมไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาล

พอได้รับโทรศัพท์ ก็รีบมาทันที คุณสงบสติอารมณ์ลงก่อน”

“สงบ? ถ้าคนที่นอนอยู่ในห้องผ่าตัดเป็นลูกชายของคุณ คุณจะสงบได้มั้ย?

ถ้าตอนนี้ลูกชายคุณ ต า ย ไป คุณจะทำยังไง?” คุณพ่อของเด็กชายบ่นว่าไม่หยุด

คุณหมอตอบยิ้มๆ ครั้ง

“ผมจะท่องคัมภีร์ไบเบิลอย่างเงียบ ๆ

‘พวกเรามาจากผงธุลี กลับสู่ผงธุลี การอวยพรเป็นพระนามของพระเจ้า’

โปรดอธิษฐานเผื่อลูกชายของคุณ” 

พ่อของเด็กชายพูดด้วยความโกรธ

“เมื่อคนเราไม่สนใจชีวิตและความ ต า ย ของผู้อื่น เขาจะพูดอย่างนี้”

หลังจากนั้นหลายชั่วโมง การผ่าตัดก็สำเร็จด้วยดี

คุณหมอออกจากห้องผ่าตัดมาด้วยความยินดี

บอกกับคุณพ่อของเด็กชายว่า “ขอบคุณพระเจ้า ลูกของคุณรอดแล้ว”

โดยไม่รอให้พ่อของเด็กชายพูดอะไร

เขาก็รีบจากไป พร้อมบอกว่า “ถ้ามีคำถาม คุณสามารถถามพยาบาลได้”

“ทำไมเขาหยิ่งแบบนี้? จะรอให้ผมถามอาการลูกชายสัก 2-3 นาทีก็ไม่ได้เชียวหรอ”

พ่อของเด็กชายบ่นกับพยาบาล

น้ำ ต า ของพยาบาลไหลออกมาทันที

“ลูกชายของคุณหมอ เ สี ย ชี วิ ต จาก อุ บั ติ เ ห ตุ รถยนต์เมื่อวานนี้

ตอนที่พวกเราเรียกเขามาผ่าตัดให้ลูกชายคุณ

เขากำลังเดินทางไปทำพิธี ฝั ง ศ พ ตอนนี้ เขาช่วยชีวิตลูกชายคุณไว้ได้แล้ว ก็เลยรีบไปทำพิธี ศ พ ให้ลูกชายตัวเอง”

ในชีวิตคนอื่นเกิดอะไรขึ้นบ้าง

พวกเขาต้องประสบกับปัญหาและความยากลำบากอะไร

มองจากมุมของคุณอาจจะไม่รู้

สิ่งที่คุณเห็นเป็นเพียงแค่สิ่งที่เขาแสดงออกมา ดังนั้นอย่าไปตำหนิคนอื่น

เพราะพวกเราไม่มีสติปัญญาเพียงพอ

จะไปรู้ได้ว่าชีวิตคนอื่นทุกข์สุขแค่ไหน

ทุกคนผ่านเรื่องราวมาแตกต่างกัน

ยากที่จะเข้าใจสถานการณ์ของอีกฝ่าย

อย่าตำหนิ วิพากษ์วิจารณ์อย่างสนุกปาก เพราะมันจะ ทำ ร้ า ย ผู้อื่น

คนที่มีวัฒนธรรมจริงๆ

จะใช้ “ความเมตตาและความอดทน” มองคนอื่น

จริงๆ ก็คือการให้ตัวเองเรียนรู้ผ่านสถานการณ์

จะได้รู้ว่าถ้าเป็นตัวเองจะทำยังไง

ถึงจะเข้าใจคนอื่น

ผ่านความยาก ลำ บ า ก

มีความ เ ศ ร้ า และความทุกข์ที่มองไม่เห็นตั้งเท่าไหร่

ก็จะรู้ว่าชีวิตของเขาก็ไม่ต่างกัน

ผ่านร้อนหนาวมาเหมือนกับเรา

คุณเดินผ่านเส้นทางขรุขระอย่างไร

ก็จะรู้ว่าคนอื่นผ่านความขรุขระความ ท ร ม า น อย่างไร

แค่ต้องเข้าใจ อย่าใช้มุมมองของตวเองตัดสินคนอื่น

แค่นี้คนเราก็จะ ทำ ร้ า ย กันน้อยลง

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR