เขาอยู่ตัวคนเดียว "ตั้งแต่ 9 ขวบ" แต่ไม่เคยย่อท้อ จนประสบความสำเร็จได้ด้วยลําแข้งตัวเอง

LIEKR:

“เมื่อเราเผชิญหน้ากับปัญหาแล้ว ก็ต้องเอาชนะให้ได้ ให้เราคิดไปในทิศทางที่ดี แล้วมองตรงไปข้างหน้า อย่ามองย้อนกลับไป” เขากล่าว

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

        หากย้อนไปปี 1999 ที่เกาะไต้หวันได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทุกคนลืมไม่ลง โดยวันที่ 21 เดือนกันยายน ได้เกิดภัยธรรมชาติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ 

        จากเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ทำให้หลายครอบครัวใจสลาย เนื่องจากต้องเผชิญกับการจากไปอย่างกะทันหัน ส่งผลให้เด็กหลาย ๆ คนต้องอยู่ตัวคนเดียวมาจนถึงทุกวันนี้

 

Sponsored Ad

 

        เช่นเดียวกับเด็กชาย หลิวเฟิงชาง วัย 9 ขวบก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาต้องเสียญาติพี่น้องในครอบครัว 5 คนในเวลาเดียวกัน เขาถูกช่วยเหลือจากข้างล่างของตึกที่อาศัย และหลังจากวันนั้นเป็นต้นมาเขาก็ไม่ได้พบหน้าญาติพี่น้องอีกเลย

 

Sponsored Ad

 

    เวลา 20 ปีผ่านไป.. เขาก็สามารถเดินออกจากความเศร้าในวันนั้นได้แล้ว

        โดยเมื่อไม่นานมานี้แหล่งข่าวท้องถิ่นได้รายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้พราก พ่อ, แม่, พี่สาว, คุณปู่ และคุณย่า สมาชิกในครอบครัว 5 คนไปในเวลาเดียวกัน ในกลางดึกวันนั้นจู่ ๆ ก็เกิดเหตุทำให้บ้าน 3 ชั้นกลายเป็น 2 ชั้นในพริบตา หลิวเฟิงชางและครอบครัวอาศัยอยู่ชั้น 2 และเขาก็จมข้างล่างของตึก 

 

Sponsored Ad

 

        หน่วยกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือและรีบนำเขาส่งตัวไปรักษา ถึงแม้เขาจะเสียครอบครัวและขาซ้ายไปจากเหตุการณ์นี้ แต่โชคดีที่เขาสามารถมีชีวิตต่อไปได้

        ในช่วงที่เขารักษาตัวอยู่ ก็ได้มูลนิธิเข้ามาช่วยดูแล หลังจากนั้นเขาก็ได้ย้ายไปอยู่อาศัยกับคุณลุงคุณป้า เขาเล่าว่า เวลาที่คิดถึงพ่อแม่พี่สาว คนในครอบครัว ก็จะทนไม่ไหว และไม่กล้าดูรูปครอบครัว

 

Sponsored Ad

 

        เขาให้สัมภาษณ์ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคุณน้าอาสาสมัครคนหนึ่งก็จะซื้อขนมมาให้พร้อมกับมาเยี่ยมเสมอ บางครั้งก็มาเล่านิทานให้ฟัง พูดคุยเป็นเพื่อนยิ่งกว่านั้นคุณน้ายังหาครูสอนพิเศษมาสอนเขาอีกด้วย แม้ว่าเขาจะเสียครอบครัวไปแล้ว แต่ในระหว่างนี้เขายังได้รับความรักที่เต็มล้นเสมอ

 

Sponsored Ad

 

        หลิวเฟิงชาง เปิดเผยว่า ในช่วงที่กำลังเรียนนั้นเขาไม่กล้าที่จะท้อหรือถอดใจเลย เมื่อเรียนจบเริ่มเข้าสังคม ทำงานก็จะมีความคิดนี้ในใจเสมอ ทำให้เขาตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงาน 

        ปัจจุบันเขามีการงานที่มั่นคง เป็นพนักงานทำงานในไปรษณีย์ (ที่ไต้หวันหากได้ทำงานรัฐถือว่าดีมาก เพราะมีสวัสดิการรองรับมากมาย) ด้วยความเพียรพยายาม ไม่ขี้เกียจ ทำให้เขาได้บรรจุเข้าทำงานเป็นพนักงานประจำของไปรษณีย์

 

Sponsored Ad

 

        ตอนนี้เขาอายุย่างเข้า 30 ปีแล้ว เขาอยากขอบคุณทุกคนที่เข้ามาในชีวิต ที่ช่วยเหลือทำให้เขามีวันนี้ได้ เขาอยากจะหนุนใจคนที่เคยประสบเหตุการณ์เหมือนเขาว่า “เมื่อเราเผชิญหน้ากับมันแล้วก็ต้องเอาชนะให้ได้ ให้เราคิดไปในทิศทางที่ดี แล้วมองตรงไปข้างหน้า อย่ามองย้อนกลับไป”

Sponsored Ad

        ฉะนั้นชีวิตของเราทุกคนก็เช่นกัน มองให้ไกล มองในทิศทางที่ดี อาจทำยาก แต่ถ้าทำได้แล้วคุณเองก็จะมีกำลังสู้กับวันพรุ่งนี้ได้ต่อไป

ที่มา : lookforward

แปลและเรียบเรียงโดย แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ