เราทำตัวเอง! ย้อนเปิดชีวิต "ม.ล.จีระจันทร์" จากครอบครัวราชสกุล บั้นปลายตกอับ สามีเดินไม่ได้ กับชีวิตดั่งละคร!

LIEKR:

เราทำตัวเอง! ย้อนเปิดชีวิต "ม.ล.จีระจันทร์" จากครอบครัวราชสกุล บั้นปลายตกอับ สามีเดินไม่ได้ กับชีวิตดั่งละคร!

        "ม.ล.จีระจันทร์ เกษมศรี" เคยตกเป็นข่าวดังเมื่อปีพ.ศ.2016 ในวัย 77 ปี เมื่อมีผู้พบเห็นเธอและสามีต้องอาศัยอยู่ในบ้านเก่าๆ ผุพัง จนกระทั่งสืบทราบว่าเธอคือหนึ่งในครอบครัวราชสกุล ชีวิตผกผัน บั้นปลายไม่มีแม้แต่บ้านดีๆ ให้อาศัย แต่ไม่ขอพึ่งใคร ปลงตก บอกทุกอย่างเพราะเราทำตัวของเราเอง...

        ม.ล.จีระจันทร์ เกษมศรี ปัจจุบัน อายุ 80 ปี อยู่ที่จ.สงขลา อาศัยอยู่กับสามีชื่อลุงรื่น ประทุมมณี อายุ 74 ปี ทั้งคู่มีฐานะยากจนมาก เช่าบ้านเก่าๆ ผุพัง ท่ามกลางหญ้ารกรายรอบ ภายในบ้านไม่มีเครื่องใช้ใดๆ มีเพียงที่นอนเก่าๆ เครื่องครัวเท่าที่จำเป็น พระบรมฉายาลักษณ์ 4-5 ใบติดที่ฝาบ้าน เสื้อผ้าเก่าแขวนอยู่ หลังคารั่ว เวลาฝนตกที่นอนหมอนเปียก ย้ายหนีแบบทุลักทุเล อยู่กันอย่างลำบากไม่มีใครดูแล โดยเฉพาะลุงรื่นเป็นโรคอัมพฤกษ์เดินไม่ได้ และยังเป็นโรคต่อมลูกหมากโตอีกต่างหาก

 

Sponsored Ad

 

นายพัฒนพงษ์ จารุลักขณา เจ้าของวิทยุชุมชนคลื่น 92.25 เมกกะเฮิร์ตซ อ.สะเดา พบกับ ม.ล.จีระจันทร์ เกษมศรี และ สามี

        ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปพูดคุยขออนุญาตสัมภาษณ์ ม.ล.จีระจันทร์ ที่เรียกว่า หม่อมยาย เพื่อให้สังคมได้รับทราบประวัติความเป็นมา ซึ่งหม่อมยายเองก็ไม่ขัดข้อง ทั้งยินดีเปิดเผยเรื่องราวความเป็นมาจากอดีตถึงปัจจุบันโดยไม่เขินอาย ว่าเป็นหม่อม เชื้อพระวงศ์ในรัชกาลที่ 5 แต่ชีวิตผกผันตกอับ ไม่มีแม้แต่ทรัพย์สินเงินทองใดๆ อาศัยเพียงเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินผู้พิการ

 

Sponsored Ad

 

        หม่อมยาย เล่าให้ฟังว่า ตนเป็นธิดาของ ม.ร.ว.จิราทิพย์ เกษมศรี โดยท่านพ่อ หรือคุณพ่อ ได้อุทิศตนมาเป็นแพทย์ประจำตำบลที่บ้านหูแร่ อ.หาดใหญ่ เมื่อปี 2500 หลังเกษียณคุณพ่อย้ายกลับไปอยู่กรุงเทพฯ และเสียชีวิตที่นั่น ซึ่งตอนที่ย้ายมาที่ภาคใต้ ตอนนั้นหม่อมยายจบ ม.3 ที่โรงเรียนตรีวรนารถเทเวศน์ แล้ว จึงตามคุณพ่อมาอยู่ที่ภาคใต้ แต่งกับลูกท่านขุน ชื่อบุญเลิศ จันทร์ทรัพย์ มีบุตร 4 คนเสียชีวิตไปแล้ว 3 เหลือเพียง 1 คน ทำงานเป็นแม่บ้านที่ที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ แยกทางกับสามีคนเก่าเมื่อปี 2511 แล้วได้มาพบกับ นายรื่น ประทุมมณี ที่ อ.สะเดา ในตอนนั้นลุงรื่นเป็นคนขับรถเมล์สายปาดัง-สะเดา-หาดใหญ่ ช่วงนั้นไม่รู้จะทำอาชีพอะไร จึงหันมาค้าของหนีภาษีที่ปาดังเบซาร์จึงได้รู้จักกัน และอยู่ด้วยกันที่ตลาดสะเดามาตลอดจนกระทั่งบัดนี้

 

Sponsored Ad

 

ม.ล.จีระจันทร์ เกษมศรี อายุ 77 ปี ขณะให้สัมภาษณ์เมื่อตกเป็นข่าว

        "ชีวิตไม่ได้ราบรื่น ความเป็นอยู่ไม่ได้ดีขึ้น กลับทรุดลงเรื่อยๆ จนถึงที่สุดไม่มีแม้แต่บ้านอยู่อาศัย ต้องเช่าบ้านถูกๆ อาศัย แต่บ้านหลังนี้เขาให้อยู่ฟรี เนื่องจากสภาพบ้านผุพังหมดแล้ว เจอพายุพัดหลังคาปลิวหายทั้งหมด โชคดีที่ทางเทศบาลเมืองสะเดามาซ่อมให้พอหลบฟ้าหลบฝนได้ ยิ่งพอปี 2550 ลุงรื่นมาล้มป่วยเป็นอัมพฤกษ์ก็ยิ่งลำบาก"

 

Sponsored Ad

 

        ม.ล.จีระจันทร์ หรือหม่อมยาย กล่าวด้วยว่า ถึงตอนนี้ ได้ปลงตกกับชีวิตแล้วว่าเราสร้างบุญมาแค่นี้ และเพราะเราทำตัวเราเอง พรหมลิขิตบันดาลให้เรามาพบกับคุณลุง ตอนนี้ไปไหนก็ไม่ได้ ไม่มีใครดูแล ญาติพี่น้องในครอบครัวของคุณพ่อ เหลือเพียง 2 คนอยู่ที่กรุงเทพฯ อีก 1 คนอยู่ที่ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี แต่จะไม่ขอบากหน้าไปพึ่งใคร และไม่เคยคิดที่จะกลับไปอยู่กรุงเทพฯ จะขอใช้ชีวิตในบั้นปลายที่นี่ ทุกวันนี้ใช้ชีวิตเหมือนคนแก่ทั่วไป มีเพียงลูกสาวที่ทำงานแม่บ้านเป็นเหมือนญาติคนเดียว ส่งเสียให้เดือนละ 1 พันบาท แม้แต่ชาวตลาดสะเดาก็ยังไม่รู้เลยว่าเราเป็น ม.ล. มาจากสกุลใหญ่

 

Sponsored Ad

 

จากคนมีฐานะ ชีวิตผกผันตกอับ ไม่มีแม้แต่ทรัพย์สินเงินทองใดๆ

ทั้งคู่มีฐานะยากจน ต้อง เช่าบ้านเก่าๆ อยู่และยังมีสภาพผุพัง

        ส่วนศักดินานำหน้าชื่อว่าหม่อมหลวง ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพียงแต่เมื่อไปติดต่อราชการหรือธนาคารก็มีคนสอบถามว่าเป็นหม่อมจริงหรือเปล่าเพราะหลายคนไม่เชื่อว่าหม่อมหลวงจะมาอยู่ในสภาพแบบนี้ ส่วนลุงรื่นบอกว่าช่วงที่อยู่กินกับ หม่อมแต๋ว ก็ไม่รู้ว่าเป็นถึงหม่อมหลวงมาทราบทีหลังเห็นจากบัตรประชาชน

 

Sponsored Ad

 

.

        จนกระทั่งต่อมามีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาดูแล รวมทั้งพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น มีความห่วงใยและสั่งการไปยังปลัดกระทรวงมหาดไทยประสานมายังผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เพื่อให้หน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือบริจาคที่ดิน สร้างบ้านใหม่ ข้าวของเครื่องใช้  และมอบเงินไว้ใช้จ่าย  สร้างความดีใจและประทับใจให้หม่อมยายเป็นอย่างมาก ถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความปิติยินดีออกมา  ซึ่งหม่อมยาย บอกว่าขอใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา 2 ตายาย ในบ้านหลังนี้จนกว่าจะหมดลมหายใจ

Sponsored Ad

.

        นายอำเภอสะเดา ได้กล่าวรายงานแทนชาว อ.สะเดา ว่า ม.ล.จีระจันทร์ เกษมศรี เป็นรากฝอยแห่งราชวงศ์ เมื่อท่านมาอยู่ในอ.สะเดา ตกทุกข์ได้ยากในการดำรงชีวิต ชาวสะเดาจึงร่วมใจแสดงออกถึงการมีส่วนร่วม ช่วยเหลือตามสมควรแก่ฐานานุรูป เพื่อแสดงออกถึงการเทิดทูนและศรัทธาในสถาบัน

.

.

.


ข้อมูลและภาพจาก thairath

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ