อีกหนึ่งเรื่องราวที่กลายเป็นประเด็นดราม่า หลัง สมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย ได้นำผลงานตัวอักษรไปใช้บนเสื้อนักกีฬาปันจักสีลัต ในนการแข่งขันซีเกมส์ 2021 ที่ประเทศเวียดนาม เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา แม้จะยกเลิกและเวลาผ่านไปหลายเดือนแล้ว แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่จบ...

    โดยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ” Buk Babor” หรือ นายสุชาล ฉวีวรรณ อายุ 37 ปี นักออกแบบ เจ้าของลิขสิทธิ์สัญลักษณ์ตัวอักษร ไทยแลนด์ เดินทางไปแจ้งความเอาผิด สมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย หลังนำผลงานไปใช้โดยไม่มีการขออนุญาต แถมยังยังเป็นการการแข่งขันที่เรียกว่าใหญ่ระดับโลก

    เจ้าตัวได้เผยว่า หลังเจรจาคุยกัน 3 รอบ โดยมีกรมทรัพย์สินทางปัญญาเป็นคนกลาง ซึ่งตนเป็นเจ้าขอลิขสิทธิ์ได้เรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท แต่สมาคมฯ ต่อรองยอมจ่าย 5 หมื่นบาท จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีสมาคมฯ ฐานละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

    นายสุชาล ได้ให้ข้อมูลว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ละเมิดลิขสิทธิ์ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่าน ทางสมาคมฯและตนเองได้มีการไกล่เกลียผ่านกรมทรัพย์สินทางปัญญา แต่ตกลงได้ไม่ลงตัว และส่วนตัวรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมวันนี้จึงต้องมาแจ้งความดำเนินคดี

    หลังจากการพูดคุยกันระหว่างสองฝ่ายตนได้ยื่นข้อเสนอเรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินหนึ่งล้านบาทส่งไปพร้อมเอกสารประกอบว่าทำไมจะต้องเรียกเก็บเงินในจำนวนเท่านี้ แต่จากนั้นไม่ทราบว่าทางสมาคมฯใช้หลักใดในการพิจารณาซึ่งตอบกลับว่าสามารถชดใช้ให้ได้ในราคา 50,000 ถึง 100,000 บาทเท่านั้น

    นายสุชาล ยังบอกอีกว่า ผลงานดังกล่าวเป็นการใช้ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองออกแบบและนำเสนอจึงเชื่อว่างานอักษรที่ออกแบบสามารถสร้างมูลค่าได้ด้วยตัวเอง แต่การที่สมาคมฯ นำผลงานดังกล่าวไปใช้ทำให้เกิดความสับสนว่าตนมอบสิทธิ์ให้ จึงเกิดความเสียหายและต้องมีการเรียกชดใช้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ยิ่งเป็นการใช้ในพื้นที่ที่มีการรับรู้ได้มากอย่างงานกีฬาซีเกมส์จึงคิดว่าไม่เหมาะสม

    ทั้งนี้ หลังจากเข้าแจ้งความแล้วถ้าจะมีการไกล่เกลี่ยยังยืนยันว่าจะคิดมูลค่าความเสียหายจากชิ้นงานที่หนึ่งล้านบาทเช่นเดิม เพราะกว่าที่จะได้งานนี้มาต้องใช้เวลา และมีขั้นตอนในการทำงาน ทุกกระบวนการมีเอกสารยืนยัน

    สุชาล ได้บอกอีกว่า ส่วนที่ตนเองเพิ่งจะเดินทางมาแจ้งความในวันนี้เพราะที่ผ่านมาถือว่าให้เวลากับการพูดคุยไกล่เกลี่ยแล้วแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ตามข้อตกลงและตนเองก็มีงานที่จะต้องทำจึงคิดว่าเวลานี้เหมาะสมแล้วที่จะต้องดำเนินการอย่างจริงจัง 

    ด้านชาวเน็ตฝั่งนึงก็บอกว่า การเอาไปใช้สร้างชื่อให้กับประเทศ ก็ควรมีข้อยกเว้น ไม่ควรเรียกเงินเพิ่ และทางสมาคมได้ออกมาขอโทษแล้ว ก็ควรจะจบ แต่อีกฝ่ายนึงมองว่า การละเมิดทรัพย์สินทางปัญหาของคนอื่น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แถมเป็นหน่วยงานที่ระดับประเทศ ก็ควรจะระมัดระวังมากกว่านี้ เพราะอาจจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อประชาชนได้

ที่มา : อมรินทร์ทีวี