ภายหลังจากที่โลกโซเชียลมีการพูดถึง “ประจัญ กล้าผจญ” อดีต ส.ส.ตกยาก ต้องนอนเพิงสังกะสี มีรายได้จากเบี้ยยังชีพเดือนละ 500 บาท ซึ่งเป็นข่าวใหญ่โตเมื่อปี 2552 นั้น กระทั่งต่อมา มีผู้ที่เคยติดตามข่าวดังกล่าว และคนพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาอยากทราบถึงชีวิตความเป็นอยู่ล่าสุด อีกทั้งยังมีผู้แสดงความเป็นห่วงเป็นใยอดีตนักการเมืองน้ำดีรายนี้

        ก่อนอื่นทีมข่าวขอย้อนอดีตเล่าถึงที่มาที่ไปของอดีตนักการเมืองผู้นี้สักเล็กน้อย...ในปี 2552 มีคนพบว่า นายประจัญ กล้าผจญ อายุ 68 ปี อดีต ส.ส.นครราชสีมาถึง 2 สมัย พรรคชาติไทย มีชีวิตตกยาก อาศัยเพียงเบี้ยยังชีพคนชราประทังชีวิตเท่านั้น

        เมื่อเดินทางไปยังบ้านของอดีต ส.ส.ผู้นี้ ก็พบว่า ที่พักเป็นเพิงสังกะสี หลังคารั่วเป็นรูพรุน ฝาบ้านเป็นสังกะสีเก่าผุๆ มีแผ่นพลาสติก ป้ายโฆษณาปิดไว้พอกันแดดกันลมเท่านั้น ภายในบ้านมีที่นอนเก่า กับมุ้ง 1 หลังกางอยู่ แทบไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก มีเพียงจักรยานเก่า 1 คัน

        โดยมีนายประจัญ ออกมาเปิดเผยถึงเบื้องหลังชีวิตว่า เคยเป็นครูมานาน 15 ปี สอนมาแล้วหลายโรงเรียน กระทั่งได้เป็นครูใหญ่ จากนั้นได้ลาออกไปสมัครเป็นทหารอาสาไปรบที่ประเทศเวียดนาม 1 ปี เมื่อกลับมาเมืองไทย พ.ศ.2522 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. สังกัดพรรคชาติไทย ซึ่งขณะนั้นมี พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าพรรค และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2522 อยู่จนครบวาระ 4 ปี สมัยที่ 2 ได้รับเลือกตั้ง 18 เม.ย. 2526 จนถึง พ.ศ. 2529 ก็มีการปฏิวัติ หลังจากนั้นตนได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. อีกหลายครั้ง แต่สอบตกเพราะไม่มีเงินซื้อเสียง

        อดีต ส.ส.ตกยากกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสลดน้ำตาคลอเบ้าว่า "ลงเลือกตั้งแต่ละครั้งต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก คนที่ตั้งใจจะทำงานเพื่อบ้านเมืองกลับไม่มีโอกาส ทุกวันนี้ตนไม่มีรายได้อะไรเลย ก็ได้เบี้ยยังชีพคนชราเดือนละ 500 บาท มาซื้อข้าวสารพอประทังชีวิตเท่านั้น"

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปเยี่ยม

        ส่วนกับข้าวก็เก็บผักบุ้งตามหนองน้ำใกล้บ้านมาผัด วันไหนมีเงินถึงจะได้ซื้อไข่มาทอดกินสักครั้ง บางทีก็ซื้อปลาทูเค็มมาขยำข้าวกินก็จะได้หลายวัน แต่วันนี้ข้าวสารก็หมดเหลือข้าวอยู่กำมือเดียวก็คงจะต้มข้าวต้มกินไปก่อน โดยปัจจุบันก็มีคนแวะมาเยี่ยมเยียนบ้างแต่ไม่บ่อย ไม่เหมือนสมัยที่เป็น ส.ส. มีคนมาหา มาขอความช่วยเหลือแทบทุกวัน

        สมัยที่ตนเป็น ส.ส. ได้รับเงินเดือนแค่ 18,000 บาทเท่านั้น หักภาษี 3,000 บาท เหลือเพียงเดือนละ 15,000 บาท ค่าตอบแทนก็น้อย แต่ ส.ส.ก็มีความรับผิดชอบสูง ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้มีเงินเก็บอยู่เท่าไหร่ นายประจัญตอบว่ามีเพียง 100 บาทเท่านั้น

        ขณะที่ นายคำพันธ์ บุญยืด อดีตหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นลูกศิษย์ที่นายประจัญสอนมา กล่าวว่า นายประจัญเป็นคนสมถะ สมัยก่อนตอนสมัคร ส.ส. ก็ปั่นจักรยานไปหาเสียง ตามหมู่บ้านต่างๆ จนได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. 2 สมัย โดยไม่ได้ซื้อเสียงเลยแม้แต่บาทเดียว แต่ก่อนบ้านของนายประจัญเป็นบ้านไม้หลังใหญ่ ช่วงที่เป็น ส.ส. มีพระกับชาวบ้านมาขอเงินไปซื้อไม้สร้างสะพานข้ามคลอง นายประจัญไม่มีเงินให้ เนื่องจากเป็น ส.ส.คนจน จึงให้มารื้อบ้านตัวเองเอาไปสร้างสะพาน พระกับชาวบ้านก็มารื้อเอาไปจริงๆ นายประจัญจึงปลูกกระต๊อบอยู่มาจนถึงทุกวันนี้

        “และมีอยู่ครั้งหนึ่งมีชาวบ้านมาขอความช่วยเหลือ แต่นายประจัญไม่มีเงินให้ ก็ถอดสร้อยคอทองคำให้ไป ทุกวันนี้นายประจัญอยู่อย่างอนาถา แต่ก็ไม่เคยที่จะไปเอ่ยปากรบกวนใคร” ลูกศิษย์ที่นายประจัญสอน กล่าว

        กระทั่ง เป็นข่าวโด่งดังครึกโครม นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ ส.ส.นครราชสีมา พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา(ตำแหน่ง ณ เวลานั้น) ได้ทราบข่าวและเดินทางไปเยี่ยม เมื่อเห็นความเป็นอยู่แล้วก็รู้สึกสงสาร ชักชวนให้นายประจัญ ไปอยู่ด้วยที่ ต.โนนเต็ง อ.คง จ.นครราชสีมา และรับปากว่าจะดูแลเป็นอย่างดี

        ล่าสุด ทีมข่าว มีโอกาสพูดคุยกับ นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ อดีต ส.ส.พรรคชาติพัฒนา ซึ่งเป็นผู้ที่ให้ความช่วยเหลืออดีต ส.ส.ตกยาก จึงได้ทราบว่า นายประจัญ อดีตส.ส. ตกยาก อาศัยอยู่ที่ศูนย์เศรษฐกิจพอเพียงบ้านหนองไอ้อู๊ก ริมอ่างเก็บน้ำห้วยตะคร้อ ต.โนนเต็ง อ.คง จ.นครราชสีมา เป็นเวลา 3 ปี ต่อมา ได้เดินทางไปอยู่กรุงเทพฯ และไม่ได้ทราบข่าวคราวของเขาอีกเลย

        เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามจากคนในพื้นที่ ก็ทราบเพียงว่า ปัจจุบัน นายประจัญ อดีต ส.ส.ตกยาก อยู่ในวัย 78 ปี มีข่าวล่าสุดว่าอยู่กรุงเทพฯ และไม่มีใครทราบข่าวอีกเลย

ข้อมูลและภาพ จาก thairath