เปิดชีวิต "ชูษี เชิญยิ้ม" ขายบ้านใช้ "ห นี้ พ นั น" ฝากถึงลูกสาวต่างคนต่างอยู่ วันไหนไม่อยู่แล้วไม่ต้องมาเผา ....

LIEKR:

ต่างคนต่างอยู่ ลั่นตายใครจะมาเผาหรือไม่เผาก็แล้วแต่ ...

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

        ชูษี เชิญยิ้ม ฝากถึงลูกสาว อย่าหลงตัวเอง อย่าคิดว่าตัวเองเก่งกว่า คนถ่อมตนคือคนฉลาด ให้ต่างคนต่างอยู่ เพราะเวรกรรมมีจริง ตายใครจะมาเผาหรือไม่เผาก็แล้วแต่

        ยังคงเป็นประเด็นให้หลายคนติดตาม สำหรับปัญหาของครอบครัวตลกชื่อดัง ชูษี เชิญยิ้ม ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวออกมาประกาศตัดขาดกับลูกสาว บูม ชญาภา กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้เจ้าตัวป่วยไข้เลือดออก ต้องแอดมิตโรงพยาบาล และเมื่อถูกถามถึงลูก เจ้าตัวก็บอกว่า ต่างคนต่างอยู่ หากจะมาเยี่ยมก็ไม่มีประโยชน์อะไร ถ้ามาแล้วหายไข้ให้มา แต่ไม่ต้องมาหรอก ชีวิตตนไม่ชอบคนเนรคุณคน

 

Sponsored Ad

 

           ล่าสุด ชูษี เชิญยิ้ม ได้ควงภรรยา มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร

 

Sponsored Ad

 

อัปเดตหน่อยป่วยเป็นไข้เลือดออกตอนนี้เป็นยังไง ?

           ชูษี : ตอนนี้ปกติแล้ว หายแล้ว

 

พี่ปอพอรู้ว่าพี่ษีเป็นไข้เลือดออกห่วงไหม ?

 

Sponsored Ad

 

            ปอ : ตอนนั้นที่พี่ษีเป็นเขาเป็นล่วงหน้าก่อนแล้ว แต่จังหวะนั้นเราต้องไปขายแหนมที่ร้านพี่โหน่ง เรากลับจากร้านพี่โหน่งประมาณ 2-3 ทุ่ม เราไม่รู้ เราให้ลูกขึ้นไปดูพ่อ พ่อไม่เคยตื่นขนาดนี้นะ ปกติพี่ษีจะตื่น 8-9 โมง เขาไม่ไลน์ ไม่โทร. หา เราก็เอ๊ะ แปลกแล้ว ก็เลยให้ลูกสาวขึ้นไปดู ลูกสาวก็บอกว่าพ่อตื่นแล้ว เดี๋ยวพ่อลงไปกินข้าวเอง เราก็คิดว่าเขาเพลีย จนมารู้ตอนเย็นคนขับรถบอก เราก็กลับมาจากนครนายก

           ชูษี : ดีไม่ไข่เป็นตัว ถ้าฟักเป็นตัวพี่ตายแน่นอนเหมือนพี่ปอ ทีแรกเราก็ไม่รู้หรอก ไข้เลือดออกมันน่ากลัวตรงไหนมันก็คือไข้ธรรมดานี่แหละ หมอบอกเกล็ดเลือดคนเราธรรมดาต้องมี 1.5-4 แสน แต่พี่ไปถึงโรงพยาบาล 2.8 หมื่น แล้วพอนอนคืนหนึ่งมันเหลือ 1.6 หมื่น หมอต้องเตรียมเลือดไว้สำรองแล้ว

 

Sponsored Ad

 

แบบนี้เรียกว่าเฉียดตายได้ไหม ?

           ชูษี : เฉียดสิ เฉียด

มีนักข่าวให้ความสนใจไปเยี่ยม แล้วก็มีปมดราม่ากับคำถามนี้ น้องบูม มาเยี่ยมหรือยัง ?

           ชูษี : เราก็พูดกับนักข่าวไปว่าเขาไม่กล้ามาหรอก ถ้าเกิดหายก็มาเยี่ยม ถ้าไม่หายก็อย่ามาเยี่ยมเลย เขาไม่กล้ามาหรอก ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า

 

Sponsored Ad

 

ตอนแรกมีคำว่าลูกเนรคุณไม่ต้องมาเยี่ยมด้วยไม่ใช่เหรอพี่ แสดงว่า 6 เดือนที่ผ่านมายังไม่ได้คุยกันเหรอ ?

           ชูษี : ไม่คุย ๆ

เวลาผ่านมาเกือบครึ่งปี เวลาไม่ช่วยเยียวยาความรู้สึกเลยเหรอ ?

 

Sponsored Ad

 

            ชูษี : ใครไม่เป็นชีวิตผมไม่มีใครรู้หรอก ผมจะพูดตลอดเวลาว่าสังคมเขาไม่รู้หรอก แต่เวรกรรมอะรู้ เวรกรรมมีจริง ผมไม่อยากพูดอะไรมากมาย พูดไปเหมือนซ้ำเติมเขา เขาก็ลูกผม แต่เราอยากให้เขาอยู่ในสังคมให้ได้ ถ้าเกิดพ่อตายไปแล้วเอ็งจะได้มีจุดยืนของเอ็ง แล้วตอนนี้วงการเขารู้กันหมดแล้วจะทำยังไง

ตั้งแต่มีปัญหาเคยติดต่อกันบ้างไหม ?

Sponsored Ad

            ชูษี : เขาลบไลน์ ลบเฟซบุ๊กพี่ บล็อก แม้กระทั่งไอคลาวด์พี่ใช้ของเขาก็ดึงออกไป โทรศัพท์พี่ใช้อะไรไม่ได้เลย ต้องเปลี่ยนไอคลาวด์ใหม่ ซื้อโทรศัพท์ใหม่ ทำเฟซบุ๊กใหม่ อินสตาแกรมก็หายหมด แม้กระทั่งเพลงในยูทูบเขาก็ดึงของพี่ออก แล้วเขาจะมาติดต่อพี่เหรอ เขารู้นิสัยพี่ เขาก็พยายามที่พ่อก็ต้องรู้นิสัยหนู ทีนี้พี่ไม่อยากพูดอะไรมากมาย ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า ตายใครจะมาเผาหรือไม่เผาก็แล้วแต่ ประชาชนก็มาด่าพี่เยอะว่าพี่รังแกลูก แต่มันเป็นมุมมองของเขาเราไม่ว่าหรอก แต่คนนี้โดนด้วย

            ปอ : มันก็มีคนมาว่าต่าง ๆ นานา อาจจะว่าพี่ษีหลงเมีย คือมุมมองของเรา เราอยู่กับพี่ษีมานานแล้ว ถ้าคำว่าหลงไม่น่าจะใช่ เพราะตัวพี่ษีกับเราจะไม่ค่อยได้คุยเรื่องลูก เพราะพี่ษีใครไปกำหนดเขาไม่ได้อยู่แล้ว ลูกเขาก็คือลูก มันตัดกันไม่ได้อยู่แล้ว แต่คนที่ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ได้สัมผัสครอบครัวเราเขาก็จะมองว่ามีเมียใหม่ คือพี่ษีกับแม่น้องบูมเขาเลิกกันตั้งแต่น้องบูมกี่ขวบ แล้วพี่ษีมีเมียมาอีกเป็น 10 คน ก่อนที่มาเจอเราเขามีลูกกี่คนเรารับได้หมด เราถือว่าเรารักแฟนเรา เราก็ต้องรักลูกเขา

พี่ษี ระหว่างเรากับน้องบูมทำยังไงถึงจะกลับมาเหมือนเดิมได้ ?

            ชูษี : มาออกข่าวรายการคุยแซ่บShow ว่าสิ่งที่พูดไปมันไม่มีความจริงเลย มันลิเก พี่ไม่อยากจะพูดอะไรมากมาย

ที่แข็งอยู่ทุกวันนี้ อยากให้ลูกมีที่ยืนอยู่ในวงการ ?

           ชูษี : มันไม่มีพ่อคนไหนหรอกที่จะมาฆ่าลูก เกลียดลูก เหยียบลูกจมพื้นธรณี พี่รักลูกทุกคน แต่ไม่แสดงออกแค่นั้นเอง พี่เป็นห่วงทุกอย่าง แม้กระทั่งขี่มอเตอร์ไซค์ไม่สวมหมวกกันน็อกพี่ต้องไปหาตำรวจไปกราบเอาออกมา แค่คุณทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย คุณทำไม่ได้ จะเป็นลูกชูษีจะทำอะไรก็ได้ไม่ใช่ เราก็ยังโดนเลย เดี๋ยวโดนนู่น โดนนี่ เอ้า...พ่ออีกแล้ว ดูสิไม่มีพ่อแแล้วใครจะดูแลเอ็ง แล้วชีวิตพี่บางทีแอบร้องไห้ พี่เป็นคนที่ไม่ได้ดราม่าอะไรมากมาย พี่เป็นคนปากหมา แต่ใจพี่ไม่หมาอยู่แล้ว พี่คิดตลอดเวลาทำไมชีวิตมันเป็นแบบนี้ เราก็ปล่อยมัน สังคมไม่รู้ แต่ผีสาง นางไม้ เทวดารู้ ทำไป ทำให้ดีที่สุด

ถ้าลูกดูอยู่ อยากบอกอะไรลูก ?

           ชูษี : ไม่อยากบอกอะไร ทำตัวให้ดี เราเป็นผู้หญิง ทำตัวให้น่าสงสาร คน 10 คนคุณต้องทำให้เขารักคุณให้ได้ อย่าหลงตัวเอง อย่าคิดว่าตัวเองเก่งกว่า คนถ่อมตนคือคนฉลาด

ปรับอารมณ์ย้อนเวลากลับไป 16 ปี คู่นี้เจอกันได้ยังไง ?

           ชูษี : เจอกันร้านแถวพระราม 9 พี่มาจากอยุธยา ก็มาเจอเขา เขาเป็นคนรู้จักตลกเยอะ พี่ก็ให้หญิง น้องโหน่ง ติดต่อให้ เสร็จแล้วเขากลับบ้านพี่ก็ขับรถตามไป

           ปอ : ก็ไปกัน 3-4 คน แล้วหญิงบอกว่า พี่ พี่ษีเขาขับรถตามมาถึงหน้าบ้านแล้ว เขามาได้ยังไงจากพระราม 9 ถึงแจ้งวัฒนะก็ไกล แถมตอนนั้นเกือบเช้าแล้ว เราก็ให้เข้ามาสังสรรค์ พอจะเข้านอนเขาก็ไปนอนอยู่หลังบ้าน นอนขดเหมือนน่าสงสาร ตอนเจอพี่ษีครั้งแรกมันไม่ได้มีความรักนะ ก็คือได้โทร. คุยกัน ไปไหนด้วยกัน พี่ษีไปถ่ายละครก็ชวนไปเที่ยวต่างจังหวัด ประมาณ 1-2 เดือน พี่ษีเขาเปิดหมูย่างเกาหลีกับพี่สามารถที่อยุธยา

เห็นว่าตอนคบกันไม่รู้เลยว่าพี่ปอรวยมาก ?

           ชูษี : ไม่รู้เลย แต่รู้ว่าเขาคงมีฐานะ

ทั้ง ๆ ที่เราสวยแล้วเราก็รวยทำไมถึงเลือกพี่ษี ?

            ปอ : ถามว่ารวยไหม จริง ๆ ครอบครัวเราไม่รวยอยู่แล้ว แต่มีช่วงชีวิตหนึ่งที่เรามีตังค์ขึ้นมา แต่เราไม่ใช่คนต้นตระกูลที่รวย คือแรก ๆ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่สเปกเรา แต่เราชอบความลูกทุ่ง หมอลำ เรารู้อยู่แล้วว่านี่คือ ชูษี เชิญยิ้ม เขาเสียงดีนะ เราก็ปลื้ม แต่ว่าไม่ได้รัก แต่พอคบไป คุยกัน เขาโทร. หาเราวันนึงยิ่งกว่าปืนกลอีก เราสงสาร เหมือนเราก็เหงาก็เลยคุย ความรักมันเกิดขึ้นเพราะความใกล้ชิด เขาชวนไปนั่นไปนี่ มันก็ซึมไป

            ชูษี : เราก็พาไปหาแม่ที่อยุธยา ให้รู้ว่าเราอยู่กับแม่กับหลานสาวและลูกคนโตด้วย

เห็นว่าตกลงแต่งงานสินสอดไม่ธรรมดาเลย และเงินทั้งหมดเป็นของพี่ปอ ?

            ชูษี : ครับ ก็เราไม่มี เอาอะไร ก็มีแต่เสื้อผ้า

ตอนนั้นพี่ปอโอเคไหม ?

             ปอ : ส่วนหนึ่งเงินก็เป็นของพี่ษีด้วย ตอนนั้นถูกเกือบล้าน ตอนนั้นไม่มีสินสอด มีเงิน 3-4 แสนเอง มีแค่ให้ผู้ใหญ่รู้ว่าเข้าตามตรอก ออกตามประตู

30 ล้านหายไปกับการพนันเกิดอะไรขึ้น ?

             ปอ : ก่อนเจอเขาก็มีไปประเทศเพื่อนบ้านอยู่แล้ว ก็ไปกับเพื่อน ผู้ใหญ่บ้าง พอมาอยู่กับพี่ษีเพื่อนชวนก็ไป แต่เราไม่ได้โทษเพื่อนนะ เราโทษตัวเองอยู่แล้ว คือเมามันตรงนั้น สติเราไม่มีแล้วพี่ษีก็ไม่ว่าด้วย เราก็เพลินเลย เสียเงินคืนนึงก็มี 1-2 ล้าน ได้มากสุดก็เป็นล้านเหมือนกัน แต่ก็น้อย ตอนหลังเรามีหนี้สินก็ขายบ้านเอาไปใช้เขา 3 ล้าน เหลือก็เอามาซื้อบ้านที่อยู่ปัจจุบันนี้

สมัยก่อนมีบ้านกี่หลัง ?

             ปอ : มีบ้าน 3 หลัง คอนโด 1 หลัง แล้วก็ไปปลูกต่างจังหวัดให้แม่อีก ที่ดินอีก

             ชูษี : เงินสด 7 ล้าน เฉพาะทรัพย์สินพี่ว่าน่าจะมีสิบกว่าล้าน

ณ ตอนที่หยุด พี่ปอเหลืออะไรบ้าง ?

             ปอ : ไม่เหลืออะไรเลย เหลือบ้าน คือเราหยุดเลย เหมือนหักดิบเลย แล้วไม่เคยย่างกรายไป ณ ตรงนั้นเลย มันเป็นบทเรียนราคาแพง เราใช้ชีวิตประมาท คือเราผิดพลาด ทุกคนมีการผิดพลาดหมด อยู่ที่ว่าแต่ละคนผิดพลาดเรื่องไหน เราจะเอาบทเรียนนี้ไปสอนเราอีก 5 ปี 10 ปี ที่จะเกิดกับครอบครัวเรา ทุกคนมีสิทธิ์จะทำผิดได้ แต่ถ้าเรากลับตัวใหม่คิดว่าคนรอบข้างน่าจะให้อภัย

ตอนนั้นไถลไปไกลเลยลูกก็ไม่ได้ดูแล เห็นบอกว่าตอนนั้นเพิ่งคลอดกลับมาแค่ปั๊มนม ?

             ปอ : ใช่ ก็คือจะมีแม่บ้านเลี้ยงลูก แล้วพี่ษีก็ไม่ว่าอะไรเรา เราก็ไปเลย ถ้ามีคนห้ามเราบ้างเราก็จะเกรงใจบ้าง

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<<

ข้อมูลและภาพ จาก kapook / sanook

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ