หลังคู่ชีวิตของทั้งคู่จากไป จาก "เพื่อนร่วมงาน" ก็กลายเป็น "คนรู้ใจ" ขอใช้ชีวิตเรียบง่าย แค่นี้ก็มีความสุข

LIEKR:

บางทีชีวิตที่ดูเหมือนสิ้นหวัง แต่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตก็ได้

        นี่เป็นเรื่องราวสุดแสนจะเรียบง่าย

        เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า ณ พื้นที่ป่าแห่งหนึ่งข้างถนน ในประเทศจีน นครฉงชิ่ง เขตเชียนเจียง ตำบลสุ่ยกู่ มีคุณตายายกำลังเล่นหมากฮอสจีนอย่างสบายใจ พวกเขามักมาเล่นกันที่นี่อย่างเป็นประจำทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อนหรือหนาวก็ตาม และเป็นแบบนี้มานานกว่า 3 ปีแล้ว


 

Sponsored Ad

 

        ระยะเดินทางห่างจากชุมชนราว 8 กิโลเมตร ภายในพื้นที่ป่าแห่งนี้มีต้นไม้อยู่มากมาย มีถนนตัดผ่าน มีภูเขา และไม่ค่อยมีคนมาที่นี่ จึงไม่มีเสียงรบกวน เงียบสงบและเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ


        เมื่อ 3 ปีที่แล้ว คุณตายายทั้งสองคนขับขี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า 3 ล้อผ่านที่นี่ และได้ค้นพบที่แห่งนี้อยู่ใต้ต้นไม้พอดี ซึ่งห่างจากจุดจอดรถไม่ไกลนัก

 

Sponsored Ad

 


        หลังจากนั้นเป็นต้นมา พวกเขามักมายังที่แห่งนี้เป็นประจำทุกวัน หลังทานอาหารเช้าเสร็จ พวกเขาจะออกมาจากบ้านตั้งแต่ 7 โมงเช้า เมื่อจอดรถเสร็จเรียบร้อย ค่อยเดินไปตามถนนอีกราว 3 กิโลเมตรจึงมาถึงที่ตรงนี้ จากนั้นพวกเขาจะนั่งพักผ่อนกันตามอัธยาศัย ทานผลพุทราจีนและเม็ดวอลนัทที่ซื้อมา เสร็จแล้วจึงเดินกลับไปยังทางเดิม

 

Sponsored Ad

 

        หลังจากเดินลงมาแล้ว พวกเขาจะกางโต๊ะและเก้าอี้ตรงใต้ต้นไม้ต้นนี้ จากนั้นจึงเริ่มเล่นหมากฮอสจีนด้วยกันใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ ที่แห่งนี้มีสายลมพัดโชยอยู่ตลอดเวลา เสียงนกนานาชนิดขับขานอย่างไพเราะ หากได้อยู่ที่นี่จะรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างยิ่ง

        พวกเขาเล่นหมากฮอสจีนด้วยกัน พลัดกันแพ้ชนะ คุณตาบอกว่าพวกเขาเป็นเหมือนเพื่อนและเป็นคู่แข่งกัน เพราะต้องเล่นเกมส์ที่วัดผลที่แพ้หรือชนะ แต่หากอีกฝ่ายเดินพลาด เขาก็จะตักเตือนและช่วยแก้ไขให้ทันที

 

Sponsored Ad

 


        พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน แต่ในอดีตพวกเขาต่างมีภรรยาและสามีของตัวเอง ซึ่งต่างก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา คุณตาชื่อ หลิวฉางจิ่ว ปัจจุบันอายุ 78 ปีแล้ว เคยมีอาชีพคุณครูสอนหนังสือในโรงเรียน ภรรยาของเขาประสบ อุ บั ติ เ ห ตุ เ สี ย ชี วิ ต ไปเมื่อปี ค.ศ.1986


 

Sponsored Ad

 

        ส่วนคุณยายชื่อ อูจงซู อายุ 76 ปี เธอก็เคยมีอาชีพเป็นครูชั้นประถม แต่ได้ลาออกหลังจากที่มีลูกคนแรก สามีของเธอ ป่ ว ย เ สี ย ชี วิ ต เมื่อปี ค.ศ.1977


        ทั้งสองคนเคยเป็นเพื่อนร่วมงานกันมาก่อน เคยรู้จักกันตั้งแต่ช่วงปี 60 แต่หลังจากนั้นทั้งคู่ต่างแต่งงานมีครอบครัวเป็นของตัวเอง และกลับมาแต่งงานกันอีกครั้งหนึ่งในปี ค.ศ.1987 ลูกทั้ง 6 คนของพวกเขาจึงกลายเป็นพี่น้องกัน และครอบครัวก็มีสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 8 คน

 

Sponsored Ad

 


        ตอนนี้ลูกของพวกเขาทุกคนต่างมีหน้าที่การงานของตัวเอง หลายคนแยกย้ายกันไปทำงานต่างเมือง แต่เมื่อถึงช่วงวันเทศกาลสำคัญ พวกลูกๆ ก็จะกลับบ้านมาเยี่ยมเยียน พร้อมกับพาลูกหลานและเหลนอีกมากมายมาด้วย การได้เห็นลูกหลานของตัวเองถึง 4 ชั่วรุ่น ทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุขและพอใจ


Sponsored Ad

        การที่ได้เห็นครอบครัวลูกมีความสุขดี ทำให้พวกเขาก็ไม่มีอะไรให้ห่วงอีกแล้ว ดังนั้นจึงตัดสินใจใช้ชีวิตที่เหลือของพวกเขาอย่างเต็มที่ ถึงจะตั้งใจอย่างนั้นแต่ก็ยังใช้ชีวิตอย่างมีวินัยเช่นเคย กิจวัตรประจำวันอย่างเช่น การออกกำลังกาย เดินไปสูดอากาศบริสุทธิ์ เล่นหมากฮอสบนภูเขา ฯลฯ พวกเขาทำทุกวันอย่างไม่เคยขาด

        หลังจากเล่นหมากฮอสได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงเวลากลับบ้านทานมื้อเที่ยงแล้ว พวกเขาช่วยกันจัดเก็บโต๊ะเก้าอี้ และขับรถกลับบ้านกัน หลังทานอาหารเสร็จ ก็ไม่ลืมที่จะไปเดินตลาดเพื่อหาซื้ออาหารว่างไปทานบนภูเขาในวันพรุ่งนี้ พวกเขาทำเหมือนเคยเช่นเดิมทุกวัน และวนเวียนแบบนี้ไปจนกว่าจะทำไม่ไหว

        ชีวิตที่เรียบง่ายดูไม่วุ่นวายเช่นนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ดูหรูหรา แต่ก็ทำให้จิตใจคนเราสงบได้อย่างไม่น้อยทีเดียว

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR

บทความที่คุณอาจสนใจ